“มาร์ค” ไม่สนหลายพรรคเริ่มจัดสูตรตั้งรัฐบาล ปชป.รอผลเลือกตั้ง บอกอยู่ที่ประชาชนจะให้พรรคเล็กหรือพรรคใหญ่มีพลังต่อรองมากกว่ากัน พร้อมป้อง “เทพเทือก” หยาม “เสธ.หนั่น” โยนสื่อทำเข้าใจผิด ปัดขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาล ไม่รู้ผลโพลมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนหรือไม่ แนะผู้สำรวจทำให้ถูกหลักวิชาการ โปร่งใส เหน็บ “ยิ่งลักษณ” ชื่นชมผลโพล แต่พอให้ดีเบตกลับไม่ฟัง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ช่วยนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงว่า เหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างการหาเสียงถึงขั้นมีระเบิดปลอมข่มขู่ผู้สมัครต้องพยายามดูแล แต่เท่าที่รับรายงานบางเรื่องเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่คนก็มักจะไปโยงว่าเป็นเรื่องการเมืองทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานหนักตอนนี้ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องของบุคคลและอาวุธ
ส่วนจะกลายเป็นเลือกตั้งเลือดหรือไม่น้้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ก็พูดกันมาตั้งแต่ต้นและมีคนพยายามที่จะบอกว่ามันวุ่นวายมาก แต่โดยภาพรวมตนคิดว่าขณะนี้ทุกพรรคการเมืองและประชาชนก็มีความตื่นตัวในการที่จะเดินหน้าให้การเลือกตั้งเรียบร้อย เพราะเป็นกระบวนการที่ดีที่สุดที่จะเดินหน้าประเทศต่อไปก็ขอให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศ และเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานให้เข้มแข็ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรที่แม้การเลือกตั้งจะยังไม่เกิดขึ้น แต่พรรคการเมืองหลายพรรคจัดสูตรตั้งรัฐบาลล่วงหน้าแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงพูดกันไปเรื่อย ความจริงแล้วต้องรอประชาชนตัดสินก่อน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้นจะรอผลการเลือกตั้ง และเมื่อผลออกมาก็จึงจะมาพิจารณากันอีกทีหนึ่ง สำหรับประชาชนเองก็คงต้องฟังว่าแต่ละพรรคคิดอย่างไร ตนตัดสินใจยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนก็ต้องการให้อำนาจอยู่ที่ประชาชนอย่างแท้จริง ถ้าประชาชนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลก็เลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้ามามากๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สุดท้ายการเมืองไทยจะอยู่แค่ตัวเลขอย่างนั้นหรือ นายอภิสิทธิ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ เพราะแต่ละที่มาของตัวเลขก็ต้องไปผูกพันกับนโยบายและสิ่งที่พรรคการเมืองได้ พูดไว้กับประชาชนเอาไว้ว่าจะทำอะไร
ส่วนการหาเสียงที่ผ่านมาเท่ากับเป็นสลายขั้วการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า มันไม่มีเรื่องสลายหรือไม่สลาย แต่ละพรรคก็ต้องไปนำเสนอนโยบายของเขาก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา และบรรยากาศที่ผ่านมาระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันในการหาเสียงก็ถือว่าดี ไม่มีการกระทบกระทั่งกันและเราก็ยังทำงานด้วยกัน ผู้สื่อข่าวแย้งว่าแต่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ดูจะไม่พอใจนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เห็นนายสุเทพพูดไปแล้ว ซึ่งบางทีก็ต้องระมัดระวังเหมือนกันเพราะการรายงานว่าใครพูดอะไรก็เป็นปัญหา
“คุณสุเทพเองก็โดนมาหลายเรื่องแล้ว มีการกล่าวหามีคนไปบอกว่าไปซ้ำเติมคุณประชา (ประสพดี) ตอนถูกยิง ยืนยันว่าไม่มีคุณสุเทพไม่ได้พูดอย่างนั้น และผมก็เข้าใจว่าที่มีการไปอ้างว่ามีการไปหยามกันก็ไม่มี จึงอยากให้มีการระมัดระวังกันนิดเวลาที่มีการรายงานหรือถามคำถาม”
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องนัดพรรคร่วมรัฐบาลกินเส้นกันก่อนแทนที่จะกินเกาเหลาเหมือนขณะนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะในการประชุม ครม.อย่างวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) ก็ต้องพบกันอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเมืองที่ดีสำหรับประเทศ พรรคขนาดกลางมีอำนาจต่อรองมากขนาดนี้จะเป็นการเมืองที่ดีสำหรับประเทศได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ประชาชนเพราะเขาจะเป็นคนตัดสินว่าใครจะมีตัวเลข มีจำนวน ส.ส.เท่าไหร่ ถ้าเห็นว่าพรรคแกนนำจะมีอำนาจต่อรองน้อยก็ต้องเลือกพรรคใหญ่มากขึ้นก็มีเท่านั้น แต่ถ้ากลัวว่าพรรคใหญ่จะมีอำนาจมากไปก็ต้องเลือกพรรคขนาดกลางพรรคขนาดเล็กก็อยู่ที่อำนาจการตัดสินใจของประชาชน
ต่อข้อถามว่า 2 ปีในการทำงานที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรีถูกต่อรองโดยพรรคขนาดกลางจนทำให้ทำงานไม่ได้บ้างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันก็มีบางเรื่องที่เราเห็นไม่ตรงกัน แต่ทุกเรื่องตนยึดหลักสำคัญที่ได้ประกาศไว้กับประชาชน บางโครงการมีข้อครหามีปัญหาก็ไม่ผ่าน ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ผ่านในหลายโครงการ นอกจากนั้น เวลาที่มีการประชุม ครม.เราจะกำหนดทิศทางร่วมกันและปฏิบัติตามให้ตรงกันตามนโยบาย อาจจะไม่ง่ายเหมือนเป็นรัฐบาลพรรคเดียวก็เป็นธรรมดา ขณะเดียวกันการถ่วงดุลก็มีประโยชน์ เราก็อยู่บนความพอดี ระบบสภาก็เป็นเช่นเดียวกัน ปัจจุบันในต่างประเทศรัฐบาลผสมก็ค่อนข้างเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ส่วน ข้อกล่าวหาที่ว่าตนในฐานะนายกรัฐมนตรีพายเรือให้โจรนั่งนั้นก็ไม่เป็นความจริง หรือถ้ามีตรงไหนก็ขอให้บอกมา เห็นบางคนมาโวยวายว่าตนปล่อยปละละเลยแต่ความจริงเรื่องเหล่านั้นไม่ผ่านความ เห็นชอบ
“อย่างโครงการรถเมล์ก็มีการติดใจกันเยอะและถามกันอยู่เรื่อย ความจริงมันไม่ใช่และพรรคที่เสนอโครงการเอาไว้ตั้งแรกแรกก็คือพรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทยนั่นเอง แต่เราก็มาตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขจนวันสุดท้าย ซึ่งเราก็ไม่ได้อนุมัติเป็นเพียงได้ข้อสรุปว่าในที่สุดแล้วการปรับปรุง ขสมก.ก็จะไปอีกแนวทางหนึ่ง” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนผลสำรวจของโพลที่ออกมารายวันจะกลายเป็นตัวชี้นำหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะบอกว่าชี้นำก็คงพูดยาก เพราะบางคนก็เชื่อบางคนก็ไม่เชื่อและตัวเลขต่างๆ ที่ออกมาก็ขอให้มีหลักทางวิชาการก็ถือว่าใช้ได้ แต่ประเภทที่มาพูดโดยลอยๆ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สำนักต่างๆ ที่ทำการสำรวจเขาก็ต้องรับผิดชอบการทำข้อมูล ดีที่สุดคือการสำรวจของสำนักต่างๆ ต้องทำให้โปร่งใส สำรวจกี่คน สำรวจพื้นที่ไหน สามารถตรวจสอบได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่ามีความผิดปกติหรือไม่ที่ผลโพลออกมาทุกวัน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า โพลมีหลายสำนัก และแต่สำนักก็เห็นว่าประชาชนสนใจแต่ความจริงก็อยากจะให้เวลาที่มีการเสนอโพลออกมาช่วยแนะนำประชาชนในเชิงวิชาการ เช่น บางโพลบอกว่ายังมีคนไม่ตัดสินใจ 40-50% นั้น ทางผู้เชี่ยวชาญก็ระบุว่าเป็นโพลที่แทบจะบอกอะไรไม่ได้เลย หรือสำรวจช่วงไหนในพื้นที่ใด ประชาชนจะได้รับข้อมูลครบถ้วนทุกด้าน
ต่อข้อถามว่า มีผลโพลสำนักหนึ่งต้องการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ หมายเลข 1 ของพรรคเพื่อไทย และนายอภิสิทธิ์มีการดีเบตเรื่องการปรองดองเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับตนไม่มีปัญหา พร้อม ต้องไปถามว่าทางฝั่งพรรคเพื่อไทยพร้อมหรือไม่ ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยอ้างผลโพลอยู่เรื่อย แต่เวลาโพลบอกว่าให้มีการจัดก็ไม่ฟังเสียง ก็แปลกดี เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทยอ้างว่าพูดไม่ทันและพูดไม่เก่ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เข้าไม่ได้จับเวลาแข่งกันพูด แต่เป็นการเอาเหตุเอาผลมาพูดกัน