โฆษกประชาธิปัตย์โว “มาร์ค” ไปอีสานสุดอบอุ่น ชูเกษตรกรชมประกันรายได้ ชี้ หัวหน้าพรรคพูดแดง-พท.พวกเดียวกันเป็นข้อเท็จจริงที่สังคมตั้งข้อสังเกต ถาม “ธิดาแดง” ไปพบ “อัมสเตอร์ดัม” สอดรับ “นช.แม้ว” สั่งการหรือไม่ ไล่แกนนำ 24 มิถุนา ไปฟ้องศาล
วันนี้ (29 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้สรุปการหาเสียงในพื้นที่ภาคอีสานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงพื้นที่ครั้งแรก ซึ่งได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง และการลงพื้นที่ดังกล่าวยังได้รับทราบถึงปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรจากเกษตรกร และเกษตรกรยังได้ยอมรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรว่าเป็นโครงการที่แก้ปัญหา โดยสามารถทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งเกษตรกรได้ยืนยันมาว่าถ้าโครงการนี้ถูกยกเลิกโดยพรรคใดพรรคหนึ่งเกษตรกรก็จะไม่สนับสนุนพรรคการเมืองนั้น เพราะโครงการนี้สามารถทำให้เกษตรกรปลดหนี้ได้ พรรคประชาธิปัตย์ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนภาคอีสานทุกคนและยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสนับสนุนทุกพรรคที่ลงพื้นที่หาเสียงได้ในทุกพื้นที่
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยปราศรัยโดยระบุการปราศรัยที่สวนลุมพินีเพื่อรำลึกการตายของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิทหารบกนั้น นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวก็ยังเป็นสถานที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันที่ประชาชนโดนยิงจรวดเอ็ม 79 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าจนมีผู้เสียชีวิตทั้งๆ ที่เป็นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ แต่ถูกกระทำจากผู้ก่อการร้ายหรือชายชุดดำที่ใช้อาวุธสงครามประหัตประหารประชาชนและเป็นจุดเดียวกันที่เกิดเหตุการณ์กลุ่มคนเสื้อแดงได้บุกไปที่ รพ.จุฬาฯ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สมเด็จพระสังฆราชทรงอาพาธอยู่จนต้องย้ายโรงพยาบาล นอกจากนั้น สวนลุมพินีก็เป็นจุดที่มีการต่อสู้ระหว่างกองกำลังเสื้อดำที่เคลื่อนไหวเชื่อมโยงกับผู้เคลื่อนไหวทางการเมือง ถือเป็นบทเรียนสำคัญของคนกรุงเทพฯ ได้เรียนรู้คู่กันกับประชาชนทั่วประเทศตอนที่ถูกเผาพร้อมๆ กับศาลากลางจังหวัดหลายสิบแห่ง
สำหรับกรณีที่แกนนำรุ่นใหม่ของกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย คือ นายทรงชัย วิมลภัตรานนท์ ได้ระบุจะยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยกล่าวหานายอภิสิทธิ์ได้ระบุการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง นปช.และพรรคเพื่อไทยเป็นความเคลื่อนไหวเดียวกันนั้น นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่เพียงแต่นายอภิสิทธิ์ หรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่คนทั่วไปในสังคมก็ตั้งข้อสังเกต โดยเฉพาะการความเคลื่อนไหวของกลุ่ม 24 มิถุนาฯ เองที่ได้มีการรณรงค์ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน แกนนำ นปช.ทันทีที่ได้รับการปล่อยตัวก็ได้ขึ้นเวทีในวันที่ 10 เม.ย.และกล่าวพาดพิงปลุกระดมเพื่อสร้างความขัดแย้งและกลุ่มคนเดียวกันก็ได้อานิสงส์ในการขึ้นเป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ทำให้สังคมสงสัยว่ากลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่ม 24 มิถุนา และพรรคเพื่อไทยมีการขับเคลื่อนทางการเมืองภายใต้กลุ่มเดียวกันใช่หรือไม่ เพราะถ้าหากไม่มีการเชื่อมโยงกันแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะสามารถสั่งให้กลุ่มคนเสื้อแดงถอดเสื้อได้อย่างไร
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า นอกจากนี้กรณีที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช.เดินทางไปพบกับนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศมาเลเซียเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทนายคนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณว่าจ้างเพื่อมาทำลายกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างต่อเนื่องใช่หรือไม่ และนายอัมสเตอร์ดัมก็ได้ทำรายงานที่มีการพาดพิงถึงสถาบันองคมนตรี และสถาบันยุติธรรมในลักษณะทำลายความน่าเชื่อถือ เรื่องต่างเหล่านี้คนที่เกี่ยวข้องต้องออกมาตอบคำถามสังคมว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สอดรับอยู่ภายใต้การดำเนินการของคนคนเดียวกันใช่หรือไม่ และถ้าสิ่งใดที่สังคมตั้งข้อสงสัย ณ วันนี้เป็นความเท็จแม้แต่เรื่องเดียว ก็ขอให้นายทรงชัยดำเนินการฟ้องร้องได้เต็มที่ แต่ต้องอธิบายถึงเจตนาในการเคลื่อนไหวดังกล่าวว่าทำไปด้วยวัตถุประสงค์คืออะไร