“พิภพ” จับไต๋ “นช.แม้ว” คิดย้อนประวัติไปปี 2540 เย้ยส่ง “ปูแดง” แค่หุ่นเชิดแก้กม.นิรโทษกรรม หวังสร้างประวัติตระกูลชินวัตรเป็นนายกฯ สองคน อัด “นช.แม้ว” ปากบอกไม่โกง แล้วเอาเงินแสนล้านมาจากไหนถ้าไม่ใช่เอาเปรียบประเทศชาติ ระบุคะแนนเสียงไม่ใช่ดัชนีชี้วัดความเป็น รบ. ชี้คนไทยพัฒนาแล้วกลับมาทำบ้านเมืองวุ่นวาย เจอแห่ไล่เหมือนเดิม ยันไม่ว่า “มาร์ค-นช.แม้ว” สังคมรับไม่ได้มั่นใจท้ายสุดคนร่วมโหวตโนปฎิรูปประเทศ
วันที่ 25 พ.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ไม่มีประวัติศาสตร์ของภาคประชาชนใดที่จะยิ่งใหญ่เท่ากับพันธมิตรฯ อีกแล้ว ขอให้ภูมิใจ เราสู้มายาวนานที่สำคัญไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แม้จะโดนคดี ก็พร้อมที่จะอ้าแขนรับไม่ขอรับนิรโทษกรรม เพราะเราเชื่อว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อปฎิรูปประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะดึงประเทศชาติให้ถอยหลังไปปี 2540 อย่างนี้จะบอกว่าเป็นคนเท้าติดดินตาดูดาวได้อย่างไร แค่วิสัยทัศน์ก็ต่างกันราวฟ้ากับดินแล้ว
“พ.ต.ท.ทักษิณคิดแต่เรื่องตัวเอง ไม่คิดถึงประเทศชาติ แทรกแซงองค์กรอิสระ บริหารพรรคประหนึ่งเป็นพนักงานบริษัทจำกัด ที่จะสั่งซ้ายหันขวาหันก็ได้ แม้จะส่งน้องสาวมาแล้วบอกว่า มีประสบการณ์ทางธุรกิจ บริหารเงินเป็นหมื่นล้าน บริหารคนนับหมื่นคน แต่ขอบอกว่าเราเข็ดแล้วเหมือนกับที่เข็ดคุณ ที่เคยอ้างเป็นนักธุรกิจรวยแล้วจะไม่โกง เริ่มเข้ามาเล่นการเมืองจากเงินหมื่นล้าน แล้วอยู่ๆมีเป็นแสนล้าน ต้องถามว่าเอามาจากไหน ถ้าไม่ใช่จากการเอาเปรียบประเทศชาติ”
นายพิภพกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณคิดว่าเลือกตั้งคราวนี้จะได้รับชัยชนะ แล้วจะย้อนประวัติศาสตร์ไปเริ่มต้นใหม่สมัยเคยเป็นนายกฯ จะแก้กฎหมายนิรโทษกรรม เอานโยบายประชานิยมมาสะกดประชาชนเช่นเดิม แต่ไม่คิดเปลี่ยนประเทศให้ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ไขไม่ให้นักการเมืองทุจริตซื้อเสียง ส่วนที่ส่งนางสาวยิ่งลักษณ์มา ก็ต้องถามว่าส่งมาทำไม เป็นเพราะอยากสร้างประวัติศาสตร์ว่า ประเทศไทยมีนายกหญิงคนแรกซึ่งเป็นตระกูลชินวัตร หรือตระกูลชินวัตรมีคนเป็นนายกฯสองคนใช่หรือไม่
พ.ต.ท.ทักษิณคิดว่าจะได้คะแนนเสียงมากมาย ซึ่งก็อาจเป็นเช่นนั้นจริง แต่อยากให้กลับไปคิดว่าทำไมเป็นนายกฯครั้งที่สอง มีคะแนนคนสนับสนุน 19 ล้านเสียงจึงอยู่ไม่ได้ สังคมไทยยอมอะไรได้หลายเรื่องแต่มีสิ่งหนึ่งที่ยอมไม่ได้เด็ดขาด คือ ทุจริตคอร์รัปชั่น ปานนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่รู้ตัวเองอีกว่าตายเพราะถูกกล่าวหาว่าทุจริตคอร์รัปชั่น แล้วยังจะกลับมาอีก
เราไม่เคยกลัวจะกลับมา แล้วมองว่าพันธมิตรฯ มีน้อยลง เพราะนั่นเป็นการคิดที่ผิด ที่มาชุมนุมไม่หนาแน่นเป็นเพราะพันธมิตรฯ หลายคนอาจเหนื่อยล้าเพราะสู้มายาวนาน แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจในการชุมนุม คือ ยึดถือสัจจะ อหิงสา วาจาสัตย์ เอาประเทศชาติ สถาบันเป็นหลัก นี่คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงพันธมิตรฯ แล้วจะได้พิสูจน์กันระหว่าง ความรุนแรงชั่วร้ายที่คุณสะสมไว้ จะสู้กับความมีสัจจะ ความจริงได้หรือไม่
นายพิภพกล่าวอีกว่า มีคนบอกว่าพันธมิตรฯโหวตโนด้วยความเกลียด ความชัง ก็ต้องถามกลับไปว่านักการเมืองมันน่ารักนักหรือ หากน่ารักจริงจนมีคนเปรียบเปรยว่า ทั้งอัปรีย์และจัญไรหมุนเวียนกันมาบริหารประเทศ นายอภิสิทธิ์เข้ามาทีแรกก็น่ารัก พูดจาน่าฟัง แต่สุดท้ายก็มีแต่คำพูดไร้สาระ ไร้สัจจะ และที่บอกไม่ได้โกง นั้น เคยถามตัวเองหรือไม่แล้วทำไมปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชันในคณะรัฐมนตรีของตัวเอง อย่างนี้เขาเรียกว่าพายเรือให้โจรนั่งใช่หรือไม่ หากพายเรือให้โจรนั่งก็ไปกลับโจรเลยไม่ต้องกลับมา นายอภิสิทธิ์ยังหลงคิดว่าพันธมิตรสายประชาธิปัตย์ จะกลับมาลงคะแนนให้อีก เป็นการคิดที่ผิดพี่น้องที่เคยนิยมประชาธิปัตย์เขาบอกว่าไม่เอาอีกแล้ว เดิมทีอาจเริ่มต้นด้วยรัก แต่เมื่อความจริงประจักษณ์ว่าไม่ใช่นักการเมืองในฝัน ก็เปลี่ยนจากรักมาเป็นความชัง และเปลี่ยนจากความชังเป็นพลังของพี่น้องประชาชนในการกำจัดกนักการเมืองชั่ว
“คนไทยมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ แยกแยะถูกผิดได้ เห็นได้จากกรณี นายอภิสิทธิ์เริ่มแรกทำตัวเหมือนเป็นของจริง แต่ท้ายที่สุดประชาชนก็รู้ว่าเป็นของแก๊ มีคนบอกว่าโหวตโนเที่ยวนี้เต็มไปด้วยอารมณ์เกลียดชังนักการเมืองนั้น ถึงจะเกลียดชังก็มีเหตุผล สถานการณ์รองรับ และไม่ได้ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ เราจะแปลการเกลียดชังไปเป็นพลังที่นับได้ในคูหาเลือกตั้งคือโหวตโน ปฏิรูปการเมืองและสังคมทั้งระบบ”
นายพิภพกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าคิดว่าคนไทยโง่ ถึงกล้าประกาศว่าจะกลับมา แล้วนิรโทษกรร จะกลับมาเป็นนายกฯอีก คุณคิดให้น้องสาวทำ ตรงนี้อยากถามว่าคุณคิดชั่วหรือดี เพราะจากประวัติเคยบอกว่าคิดดี แต่สุดท้ายก็คิดชั่ว มีเงินมหาศาล แต่ไม่เคยตรวจสอบว่าได้มาจากการก่ออาชญากรรมอะไรบ้าง วันนี้ประชาชนพัฒนาไปมาก คุณอาจอหังการใช้กระสุนเงินซื้อเสียงเข้ามา คิดว่าหลอกคนไทยได้ แน่นอนหลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมครั้งนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนบอก หาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาสร้างความวุ่นวายอีก คนเหล่านี้จะกลับมาร่วมกับพันธมิตรฯทันที
พลังโหวตโนเป็นพลังที่ประชาชนสามารถแสดงออกได้ และการแสดงออกครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องออกมาเป็นเรือนแสนเรือนล้าน และถึงแม้ไม่มีกฎหมายรองรับว่าโหวตโนจะมีผลทำให้รัฐบาลต้องปฎิรูป แต่พลังภาคประชานไม่เคยต้องการฎหมายที่อยุติธรรม ที่ผ่านมาไม่มีกฎหมายใดที่จะจัดการนักการเมืองได้ มีแต่พลังประชาชนเท่านั้นที่จะจัดการเอานักการเมืองเข้าสู่กระบวนการศาลได้ ดังนั้น ขอให้พี่น้องเชื่อมั่นว่าวันนี้ไม่ว่านายอภิสิทธิ์ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ เรารับไม่ได้ สังคมรับไม่ได้ ทุกคนต้องการการเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ยังนึกไม่ได้ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่ท้ายที่สุดคนจะคิดได้โหวตโนคือการเปลี่ยนแปลง
“ไม่มีการเคลื่อนไหวใดที่จะยิ่งใหญ่เท่าพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นพลังที่แท้จริง ไม่เช่นนั้นเราไม่สามารถยืนได้ถึงทุกวันนี้ ที่เรายืนอยู่ได้เพราะเป็นพลังแห่งสัจจะและความถูกต้อง ไม่ว่าใครกลับมาเป็นรัฐบาลก็ต้องเผชิญกับเสียงโหวตโน ที่ก้าวหน้าไปจนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ และนายอภิสิทธิ์ตามไม่ทันแล้ว เราต่อสู้เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย ขจัดนักการเมืองชั่ว หากสำเร็จ แล้วทั่วโลกจะทึ่งว่าทำไมประเทศไทยเปลี่ยนแปลงทำให้ทุกคนอยู่ดีกินดีได้ขนาดนี้” นายพิภพกล่าว
