“อภิสิทธิ์” ยันชูนโยบายช่วย ปชช.ไม่หนุนนิรโทษกรรม เชื่อยิ่งสร้างความขัดแย้งไม่จบ ครวญต้องสู้กับทั้งผู้สมัครและเครือข่าย รวมทั้งคนที่อยู่ ตปท. บอกลูกพรรคให้สู้ตามกติกาสากล และเคารพการตัดสินใจของปชช. ขณะเดียวลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครห้วยขวางขอคะแนนครู ผู้ปกครอง ร.ร.วัดพระราม 9
วันนี้ (25 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า” ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ถึงนโยบายการหาเสียง โดยยืนยันว่าทุกนโยบายทำได้จริง ทั้งเรื่องการขึ้นค่าแรงร้อยละ 25 ก็ยืนอยู่บนความเป็นจริง แม้ตัวเลขต่ำกว่าพรรคอื่น นโยบายเรื่องการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ต่อยอดการศึกษาเรียนฟรี 15 ปี โดยมีเงินให้กู้ยืมเรียนระดับปริญญาตรี ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายการกินอยู่ด้วย ไม่ใช่เฉพาะค่าเรียนอย่างเดียว ทั้งนี้ ย้ำว่าทุกนโยบายจะเน้นดูแลคุณภาพชีวิตประชาชน และไม่เอาเรื่องของการนิรโทษกรรม เพราะไม่เชื่อวาจะทำให้เกิดความปรองดอง และประเด็นไม่ได้อยู่ที่นิรโทษกรรม แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้อย่างไร ซึ่งปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นควรต้องเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องมาคิด ไม่เช่นนั้นก็จะไม่จบ โดยขณะนี้ก็มีคณะกรรมการอิสระหลายชุดที่สามารถข้อเสนอแนะได้ และที่สำคัญเรื่องความปรองดองต้องไม่เริ่มต้นด้วยการล้างความผิด
“ถ้าเราเริ่มต้นด้วยการล้างความผิด มันอาจจะไม่จบ เพราะในที่สุดหากบ้านเมืองจะสงบในระยะยาวจะต้องรักษากติกา รักษากฎหมาย ถ้ากระบวนการยุติธรรมบกพร่องก็ต้องไปแก้ตรงนั้นและดูว่าจะเยียวยาอะไร อย่างไร แต่ถ้าไม่เริ่มต้นด้วยการล้างความผิด ผมกลัวว่าจะไม่ปรองดอง เพราะจะนิยามกันอย่างไรว่าล้างความผิดให้ใคร อย่างไร และความผิดที่ว่า บอกว่าเป็นความผิดการเมืองใช่หรือไม่ เป็นคดีเกี่ยวกับความผิดกฎหมาย เกี่ยวกับทุจริต จะทำกันอย่างไร อันนี้เป็นปัญหา และผมอยากจะบอกว่าที่จริงบรรยากาศบ้านเมืองตอนยุบสภาจะเห็นว่าการเมืองไม่ค่อยร้อน ในแง่ที่ว่าทุกพรรคกำลังไปหาเสียง มาคุยเรื่องปัญหาประชาชน เรื่องปากท้อง ของแพง ยาเสพติด พอจุดเรื่องนี้ขึ้นมาปั๊บ เกิดความเครียดเลย แล้วจะวุ่นวายกันอีกหรือไม่ พรรคถึงได้บอกว่า เอาปัญหาประชาชน ประชาชนต้องมาก่อน มาแก้ไขกัน ส่วนเรื่องพวกนั้นให้กลไกอื่นเขาทำ ทำไมจะเอาเรื่องของนักการเมืองมาก่อนปัญหาของประชาชน ก็ไม่เป็นไร ถ้าเกิดพรรคอื่นยืนยัน ก็เป็นความแตกต่าง และประชาชนต้องตัดสินใจว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะให้นักการเมืองไปทำอะไร” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ รู้สึกว่ากำลังต่อสู้ว่าผู้สมัครบัญชีรายชื่อหมายเลข 1 หรือสู้กับคนที่อยู่ต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความจริงแล้วต้องว่าสู้กับทุกคนที่มีส่วนได้เสียทางการเมืองที่เป็นการแข่งขัน ทั้งที่เป็นเครือข่าย เป็นพรรค ก็ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ซึ่งตนเผชิญมาตลอด เช่นขณะนี้พรรคเพื่อไทยกับมวลชนเสื้อแดง จะบอกว่าแยกกันก็ไม่ใช่ แต่จะบอกว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า แกนนำของคนเสื้อแดงก้อยู่ในบัญชีรายชื่อกันหมด และอยู่ในลำดับ 1-10 ด้วย อาจจะได้เป็นรัฐมนตรีด้วย ดังนั้นหากจะบอกว่าไม่เกี่ยวกันก็เป็นเรื่องแปลก แต่พอคนเสื้อแดงมาป่วนตน ก็บอกว่าเป็นของเทียม ซึ่งตนก็ต้องเผชิญกับการต่อสู้แบบนี้ ก็ไม่ว่ากัน เพราะตนเป็นคนที่ชอบกีฬา เมื่อเป็นผู้เล่นก็เล่นตามกติกา เคารพกรรมการ แต่คู่แข่งจะมาทุกรูปแบบก็ไม่เป็นไร
ส่วนเมื่อถามว่า มั่นใจในการแข่งขันครั้งนี้แค่ไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเป็นนักประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยของไทย เราเคารพและเรามั่นใจในการตัดสินใจของประชาชน เพราะฉะนั้นตนก็บอกกับลูกพรรคทุกคนว่าปัญหาอุปสรรคเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการแข่งขัน และคนอื่นอาจจะมีวิธีการที่ไม่เหมือนกับเรา แต่ขอให้เรายึดมั่นในแนวทางที่เป็นกติกาสากลในเรื่องของความเป็นประชาธิปไตย และเดินหน้าต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ใช้เวลาในช่วงก่อนเวลาราชการ ลงพื้นที่โรงเรียนวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก และที่วัดฯ ช่วยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตห้วยขวางหาเสียง โดยเดินแจกใบแผนพับประวัติการทำงาน และนโยบายพรรคให้กับบรรดาผู้ปกครอง ครู และนักเรียน ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยดี โดยต่างรุมล้อมขอถ่ายภาพกับนายกรัฐมนตรี ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ซักถามผู้ปกครองและครูถึงปัญหาต่างๆ เช่น ถามผู้ปกครองที่เป็นวินมอเตอร์ไซค์ ถึงการขึ้นทะเบียนวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อเป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหาต่อไป ก่อนที่จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยกำหนดการหาเสียงดังกล่าวทั้งนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า