“มาร์ค” เชื่อเลือกตั้งไม่รุนแรง ไม่หวั่น มีคนตามป่วนหาเสียง ไม่ปรับยุทธศาสตร์ หาเสียง เพราะยังมีที่จะเสนออีก ชี้โพลต่างๆ ยังสูสี หรือคนที่ยังไม่ตัดสินใจก็ยังมีสัดส่วนที่สูงมาก
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ก่อนเดินทางไปประชุม World Economic Forum ครั้งที่ 20 ที่กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซียว่า เป็นที่น่ายินดีว่าในปีหน้าการประชุม World Economic Forum ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเวทีนี้เป็นเวทีของผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางธุรกิจ ผู้นำภาคประชาชนที่มีทั้งในภูมิภาคนี้ และภูมิภาคอื่นๆ ก็จะมาร่วมประชุม จะเป็นการประชาสัมพันธ์ทำให้ได้เห็นศักยภาพประเทศไทยและลู่ทางในการลงทุน ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับภาคเอกชนในการลงทุน
ส่วนบทบาทของไทยที่ตนจะไปนำเสนอ คือ ในเรื่องการบริหารจัดการเศรษฐกิจ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ที่ต้องยอมรับว่าการคลี่คลายวิกฤติเศรษฐกิจ ประเทศไทยสามารถผ่านพ้นมาได้ โดยหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ รวมถึงการมองไปข้างหน้าให้เห็นว่าไทยมีศักยภาพทางการเกษตร การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมยานยนต์
เมื่อครั้งก่อนที่นายกรัฐมนตรีไปประชุมเศรษฐกิจโลก ครั้งที่ 40 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สื่อต่างชาติให้ความสนใจเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง ครั้งนี้จะมีความสนใจเรื่องการเลือกตั้งหรือเรื่องอื่นๆ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าการเลือกตั้งก็อยู่ในความสนใจ อาจจะมีการถามกันบ้างว่าการเลือกตั้งจะมีผลอย่างไรต่อการเดินหน้าประเทศของเรา แต่สิ่งที่สำคัญในต่างประเทศก็มองว่า ที่เราเจอปัญหายากๆ ความขัดแย้งทางการเมือง แต่สุดท้ายประเทศของเราก็กลับเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งเขาจะสอบถามว่าการเลือกตั้งจะเรียบร้อยหรือไม่อย่างไร ตนก็จะยืนยันว่าหลังจากที่มีการยุบสภาประมาณ 1 กว่าเดือน เราได้เห็นภาพแม้จะมีเรื่องบ้างนิดหน่อย ก็เป็นปกติของการแข่งขัน แต่ต้องถือว่าบรรยากาศของการเลือกตั้งขณะนี้สามารถทำให้ทุกคนมั่นใจว่านี่คือบรรยากาศของกระบวนการประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าจะสร้างความมั่นใจกับเอกชนอย่างไร ในการดึงให้มาลงทุนในบ้านเรา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความมั่นคงในเชิงการจัดการเศรษฐกิจมหาภาพ ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศแล้วสบายใจ และหลังจากการเลือกตั้งก็จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการระบบขนส่งมวลชน รถไฟความเร็วสูง ก็จะมีความมั่นใจว่าจะมีศักยภาพในเรื่องการเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เราก็จะเป็นส่วนหนึ่งของตลาด และจุดแข็งของเราในแง่การท่องเที่ยว เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตนเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ความสนใจประเทศไทย ทั้งนี้ ตนจะไปอภิปรายในการประชุมในเรื่องอนาคตเศรษฐกิจโลก ที่มีคนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตในเอเซียน หรือเอเซียนตะวันออก ซึ่งคนมองว่าจะมีการบริหารจัดการอย่างไร เพื่อให้เกิดความสมดุล
เมื่อถามว่า การประชุมครั้งนี้ในสถานการณ์ที่จะมีการเลือกตั้ง เป็นข้อได้เปรียบเสียเปรียบอะไรต่อรัฐบาลบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน และเป็นงานของประเทศ เราทำงานหนักเพื่อให้เขามาจัดงานที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นงานต่อเนื่องที่เราต้องทำ เมื่อถามว่า ภาพการกระทบกระทั่งระหว่างพรรคร่วมก่อนการเลือกตั้ง กับความมั่นใจของสื่อต่างชาติ นักลงทุนที่มองเข้ามาจะมีผลอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาคงพยายามวิเคราะห์กันมากกว่าว่าหลังเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ที่ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบ เพราะแม้แต่โพลต่างๆ ยังสูสี หรือคนที่ยังไม่ตัดสินใจก็ยังมีสัดส่วนที่สูงมาก ก็ต้องวิเคราะห์กันก่อน แต่สิ่งที่เรายืนยันว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยมีความชัดเจน และเราก็เดินตามกติกานั้น ตรงนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญในตัวของมันเอง ส่วนจะมีการวิเคราะห์ว่านโยบายเศรษฐกิจจะมีผลกระทบหรือไม่อย่างไร
เมื่อถามว่า ใกล้เลือกตั้งแล้ว ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มองว่าการทำงานจะหนักมาก นายกรัฐมนตรีมองหรือไม่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะหนักหรือรุนแรงกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้มองว่ารุนแรงกว่าทุกๆ ครั้ง แต่ทุกคนต้องทำงานหนักเพื่อให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม ส่วนปัญหาการซื้อเสียง การทุจริตการเลือกตั้ง ถ้าสามารถจับให้เห็นก่อนสักกรณีก็จะช่วยได้มาก แต่ก็ต้องเห็นใจ กกต.ว่าจะมีคนแจ้งว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนขนาดไหน ส่วนการกระทบกระทั่งมารบกวนการหาเสียงส่วนใหญ่ก็มาที่ตนนั้น เราก็หวังว่าจะไม่มี หากมีอย่างน้อยที่สุด ตนก็จะลดบรรยากาศไม่ให้ผู้สนับสนุนเข้าไปทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแวงกัน
เมื่อถามว่า ก่อนยุบสภาเรื่องสถานการณ์ เรื่องการลงพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขในการยุบสภา แล้ววันนี้เมื่อลงพื้นที่แล้วมีคนมาก่อนกวน อยู่ในความคาดหมายหรือเหนือความคาดหมายอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย แต่ก็อยากให้แต่ละฝ่ายเคารพสิทธิของอีกฝ่ายมากกว่า ตนลงเลือกตั้งก็ไม่เคยเห็นการทำลายป้าย ใช้วิธีการแบบนี้ มากขนาดนี้ก็ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องปกติ แต่เราก็ต้องอดทน เพราะเมื่อเข้ามาสู่สนามแข่งขัน เราก็ไม่ทราบว่าแต่ละฝ่ายมีวิธีการอย่างไร แต่ก็อยากจะเรียกร้องให้มีการแข่งขันกันอย่างสากล
เมื่อถามว่าจากโพลที่ออกมาหลายโพลว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังตามอยู่ จำเป็นต้องมีการปรับยุทธศาสตร์อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การตามอยู่เล็กน้อยดี ทำให้พวกตนขยันขึ้น และมีเรื่องที่เราต้องเตรียมอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องของการปรับ แต่ก็มีบางสิ่งที่จะนำเสนอต่อไป