หนึ่งในสนามเลือกตั้งที่ถูกคาดหมายว่าจะดุเดือดเร้าใจก็คือ เมืองย่าโมโคราช-นครราชสีมา ซึ่งรอบนี้จะมี ส.ส.รวมกันทั้งสิ้น 15 เขตเลือกตั้ง ถือเป็นเขตเลือกตั้งใหญ่อันดับสองรองจากกรุงเทพมหานคร
ผู้สมัครที่ทำให้ชาวโคราชพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่ง คงไม่พ้น พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ อดีต ส.ส.โคราชหลายสมัย พรรษาการเมืองอาวุโสขนาดนี้ หากอยู่ที่เดิมคือพรรคเพื่อไทยต้องจ่อคิวเป็นรัฐมนตรีชัวร์หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล
แต่ “สมชาย” ก็ผละออกจากปีก ทักษิณ ชินวัตร ไปมีชื่อโผล่เป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตโคราช เบอร์ 26 พรรคมาตุภูมิ พรรคที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นพรรคเล็กๆ ไม่น่ามี ส.ส.เกิน 10 ที่นั่ง
อะไรทำให้ “สมชาย” ออกจากเพื่อไทย พรรคที่น่าจะได้ ส.ส.มากสุดหลังเลือกตั้งไปอยู่กับพรรคเล็กๆ อย่างมาตุภูมิ ที่แทบไม่มีฐานเสียงและคะแนนจัดตั้งอะไรเลยในเมืองโคราช ทำเอาลูกย่าโมถามกันอื้ออึ้งทั้งเมือง
ตอนที่ “สมชาย” มีข่าวจะออกจากเพื่อไทย ก็มีคนสงสัยอยู่แล้วว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะรายนี้ถือว่าสนิทชิดเชื้อกับ “ทักษิณ” อย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นขาประจำไปพูดคุยการเมืองกับ “ทักษิณ” ที่ต่างประเทศโดยเฉพาะช่วงปักหลักที่มอสโก รัสเซีย ก็มีข่าว “สมชาย” ยกพวกไปคุยหลายรอบ
แต่ว่าระยะหลัง ความสัมพันธ์ “สมชายกับทักษิณ” เริ่มไม่ค่อยดี จากเหตุที่พรรคเริ่มมีปัญหาเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ระหว่าง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรากฏว่าแม้ท่าทีของสมชายจะไม่ชัดว่าเชียร์ “มิ่งขวัญ” แต่ก็ไม่ได้หนุนยิ่งลักษณ์
นับแต่นั้นก็มีข่าว “สมชาย” มีปัญหาบางอย่างกับคนในเพื่อไทย โดยเฉพาะพวกแกนนำอีสาน สายโคราช เพื่อไทย ซึ่งฝ่าย “เจ๊เกียว” สุจินดา เชิดชัย ต้องการขึ้นมาคุมทีมเองทั้งหมด ทำให้บทบาทของ “สมชาย” ก็เงียบไปนับจากนั้น
พร้อมกับข่าวความไม่พอใจของแกนนำพรรคเพื่อไทยที่เชื่อว่า “สมชาย” พยายามจะยกทีมโคราชเพื่อไทยทั้งหมดให้ย้ายไปอยู่กับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้ตัวเองและคนในกลุ่ม ส่งผลให้สมชาย หายหน้าหายตาไปจากเพื่อไทยหลายสัปดาห์ก่อนยุบสภา
จากนั้นก็มีข่าวเป็นหนึ่งในตัวประสานให้อดีต ส.ส.อีสานเพื่อไทยย้ายไปตั้งพรรคใหม่กับมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แต่เมื่อทั้งมิ่งขวัญ-พล.อ.ชวลิต ก่อการไม่สำเร็จ ก็ยิ่งทำให้สมชายยิ่งอยู่เพื่อไทยลำบาก
จนคนเชื่อว่า “สมชาย” จะไปอยู่กับสุวัจน์ ที่รวมชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินกับบุญเลิศ ครุฑขุนทด อดีต ส.ส.โคราช เพื่อไทย เพื่อเป็นกำลังหลักให้สุวัจน์แทนไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่เสียชีวิต แต่สุวัจน์ก็รอแล้วรอเล่า ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร
สุดท้าย “สมชาย” ที่ชื่นชอบเกมการได้เสียเป็นชีวิตจิตใจก็มาโผล่ที่ “มาตุภูมิ” พรรคการเมืองที่มีคนตระกูลอัศวเหมเป็นหุ้นส่วนใหญ่ และกำลังได้ใจกับชัยชนะของชนม์สวัสดิ์ ในการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ
เป็นความลงตัวที่คนเพื่อไทยก็งง คนโคราชก็สงสัยว่า มาตุภูมิ มีดีอะไร
ทั้งที่บทบาทการเมืองของ “สมชาย” ที่เป็นอดีตประธาน กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฎร และถือเป็นนักการเมืองที่สนับสนุนคนเสื้อแดงโคราชอย่างเปิดเผยในช่วงการรณรงค์โหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 50-การชุมนุมเสื้อแดงเมื่อสงกรานต์เลือดปี 52 และช่วงชุมนุมใหญ่ปี 53
โดยในจุดยืนและบทบาทนี้ “สมชาย” แสดงออกชัดเจนว่าต่อต้านการทำรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ที่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิเป็นตัวนำ แถมยังคอยใช้ช่องทางกมธ.ทหารคอยตรวจสอบผู้นำกองทัพอย่างหนัก ผลงานเรื่องเอาสารลับกองทัพเบิกกระสุน 1 แสนกว่านัดช่วงสลายการชุมนุมราชประสงค์ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญของอดีตประธานกมธ.ทหาร
แต่สุดท้ายกลับมาเป็นลูกพรรคอยู่กับ “บิ๊กบัง” อดีตประธานคมช.ที่ทำรัฐประหาร
ว่ากันว่า การตัดสินใจของ “สมชาย”ครั้งนี้ เป็นการรับข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้จากวัฒนา อัศวเหม อดีตเจ้าพ่อปากน้ำ ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้กว้างขวางในถิ่นกัมพูชาเพราะมีธุรกิจกาสิโนหลายแห่งที่นั่น ที่ยอมลบ “ตัวแดง” ก้อนใหญ่ในบัญชีให้ทั้งหมด
ผู้สมัครที่ทำให้ชาวโคราชพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่ง คงไม่พ้น พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ อดีต ส.ส.โคราชหลายสมัย พรรษาการเมืองอาวุโสขนาดนี้ หากอยู่ที่เดิมคือพรรคเพื่อไทยต้องจ่อคิวเป็นรัฐมนตรีชัวร์หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล
แต่ “สมชาย” ก็ผละออกจากปีก ทักษิณ ชินวัตร ไปมีชื่อโผล่เป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตโคราช เบอร์ 26 พรรคมาตุภูมิ พรรคที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นพรรคเล็กๆ ไม่น่ามี ส.ส.เกิน 10 ที่นั่ง
อะไรทำให้ “สมชาย” ออกจากเพื่อไทย พรรคที่น่าจะได้ ส.ส.มากสุดหลังเลือกตั้งไปอยู่กับพรรคเล็กๆ อย่างมาตุภูมิ ที่แทบไม่มีฐานเสียงและคะแนนจัดตั้งอะไรเลยในเมืองโคราช ทำเอาลูกย่าโมถามกันอื้ออึ้งทั้งเมือง
ตอนที่ “สมชาย” มีข่าวจะออกจากเพื่อไทย ก็มีคนสงสัยอยู่แล้วว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะรายนี้ถือว่าสนิทชิดเชื้อกับ “ทักษิณ” อย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นขาประจำไปพูดคุยการเมืองกับ “ทักษิณ” ที่ต่างประเทศโดยเฉพาะช่วงปักหลักที่มอสโก รัสเซีย ก็มีข่าว “สมชาย” ยกพวกไปคุยหลายรอบ
แต่ว่าระยะหลัง ความสัมพันธ์ “สมชายกับทักษิณ” เริ่มไม่ค่อยดี จากเหตุที่พรรคเริ่มมีปัญหาเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ระหว่าง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรากฏว่าแม้ท่าทีของสมชายจะไม่ชัดว่าเชียร์ “มิ่งขวัญ” แต่ก็ไม่ได้หนุนยิ่งลักษณ์
นับแต่นั้นก็มีข่าว “สมชาย” มีปัญหาบางอย่างกับคนในเพื่อไทย โดยเฉพาะพวกแกนนำอีสาน สายโคราช เพื่อไทย ซึ่งฝ่าย “เจ๊เกียว” สุจินดา เชิดชัย ต้องการขึ้นมาคุมทีมเองทั้งหมด ทำให้บทบาทของ “สมชาย” ก็เงียบไปนับจากนั้น
พร้อมกับข่าวความไม่พอใจของแกนนำพรรคเพื่อไทยที่เชื่อว่า “สมชาย” พยายามจะยกทีมโคราชเพื่อไทยทั้งหมดให้ย้ายไปอยู่กับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้ตัวเองและคนในกลุ่ม ส่งผลให้สมชาย หายหน้าหายตาไปจากเพื่อไทยหลายสัปดาห์ก่อนยุบสภา
จากนั้นก็มีข่าวเป็นหนึ่งในตัวประสานให้อดีต ส.ส.อีสานเพื่อไทยย้ายไปตั้งพรรคใหม่กับมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แต่เมื่อทั้งมิ่งขวัญ-พล.อ.ชวลิต ก่อการไม่สำเร็จ ก็ยิ่งทำให้สมชายยิ่งอยู่เพื่อไทยลำบาก
จนคนเชื่อว่า “สมชาย” จะไปอยู่กับสุวัจน์ ที่รวมชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินกับบุญเลิศ ครุฑขุนทด อดีต ส.ส.โคราช เพื่อไทย เพื่อเป็นกำลังหลักให้สุวัจน์แทนไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่เสียชีวิต แต่สุวัจน์ก็รอแล้วรอเล่า ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร
สุดท้าย “สมชาย” ที่ชื่นชอบเกมการได้เสียเป็นชีวิตจิตใจก็มาโผล่ที่ “มาตุภูมิ” พรรคการเมืองที่มีคนตระกูลอัศวเหมเป็นหุ้นส่วนใหญ่ และกำลังได้ใจกับชัยชนะของชนม์สวัสดิ์ ในการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ
เป็นความลงตัวที่คนเพื่อไทยก็งง คนโคราชก็สงสัยว่า มาตุภูมิ มีดีอะไร
ทั้งที่บทบาทการเมืองของ “สมชาย” ที่เป็นอดีตประธาน กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฎร และถือเป็นนักการเมืองที่สนับสนุนคนเสื้อแดงโคราชอย่างเปิดเผยในช่วงการรณรงค์โหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 50-การชุมนุมเสื้อแดงเมื่อสงกรานต์เลือดปี 52 และช่วงชุมนุมใหญ่ปี 53
โดยในจุดยืนและบทบาทนี้ “สมชาย” แสดงออกชัดเจนว่าต่อต้านการทำรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ที่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิเป็นตัวนำ แถมยังคอยใช้ช่องทางกมธ.ทหารคอยตรวจสอบผู้นำกองทัพอย่างหนัก ผลงานเรื่องเอาสารลับกองทัพเบิกกระสุน 1 แสนกว่านัดช่วงสลายการชุมนุมราชประสงค์ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญของอดีตประธานกมธ.ทหาร
แต่สุดท้ายกลับมาเป็นลูกพรรคอยู่กับ “บิ๊กบัง” อดีตประธานคมช.ที่ทำรัฐประหาร
ว่ากันว่า การตัดสินใจของ “สมชาย”ครั้งนี้ เป็นการรับข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้จากวัฒนา อัศวเหม อดีตเจ้าพ่อปากน้ำ ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้กว้างขวางในถิ่นกัมพูชาเพราะมีธุรกิจกาสิโนหลายแห่งที่นั่น ที่ยอมลบ “ตัวแดง” ก้อนใหญ่ในบัญชีให้ทั้งหมด
