“โฆษกมาร์ค” ซัด “ณัฐวุฒิ” สั่งแดงห้ามขวาง ปชป.หาเสียงแค่ตบตาชาวบ้าน ชี้ชอบปัดสวะพ้นตัว โต้ “เหลิม” ยันพรรคไม่เคยจัดฉากเรียกคะแนนนิยม วอนเสื้อแดงอย่าตกเป็นเครื่องมือ หยัน 3 เหตุ “นช.แม้ว” จ่อไม่เอา “ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกฯ
วันนี้ (23 พ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. ระบุได้สั่งไปยังนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำ นปช.ให้ปรามคนเสื้อแดงไม่ให้ขัดขวางการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ว่า นายณัฐวุฒิมีความจริงใจกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด การสั่งห้ามไม่ให้คนเสื้อแดงออกมาขัดขวางน่าจะเป็นเรื่องการแสดงละครตบตาชาวบ้านมากกว่า เพราะนางธิดา เองก็ยังแสดงจุดยืนชัดเจนว่าคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวต่อ และสามารถยึดพรรคเพื่อไทยได้ด้วย
นายเทพไทกล่าวว่า หากนายณัฐวุฒิมีอำนาจเด็ดขาดจริงก็ควรส่งสัญญาณให้คนเสื้อแดงตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะหลายครั้งที่ผ่านมามักจะมีแต่ปัดสวะให้พ้นตัว โดยอ้างว่าเป็นฝีมือของพวกแดงเทียม เหมือนกับกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส.ระบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ออกมาพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ว่าคนเสื้อแดงที่ออกมาขัดขวางเป็นการว่าจ้างของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ จึงอยากชี้แจงว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมีพฤติกรรมในการแสดงละครจัดฉากเรียกร้องความสนใจเพื่อได้คะแนนนิยม เพราะความศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อพรรคต้องมาจากนโยบายและผลงานที่ประชาชนยอมรับเท่านั้น ไม่อยากให้คนเสื้อแดงตกเป็นเครื่องมือให้กับพรรคเพื่อไทยในการแบ่งบทกันเล่นตีสองหน้า ยิ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) บอกการขัดขวางของคนเสื้อแดงไม่มีความผิด ก็ยิ่งทำให้เกิดความย่ามใจในการต่อต้านพรรคประชาธิปัตย์ในหลายพื้นที่ อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ช่วยสร้างบรรยากาศประชาธิปไตย ให้พรรคการเมืองทุกพรรคส่งสัญญาณไปยังผู้สนับสนุนให้ใจกว้าง เปิดรับความเห็นของพรรคการเมืองต่างๆในการลงพื้นที่หาเสียงอย่างเต็มที่
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาก่อการร้าย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจไม่ใช่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะยังมีอีกหลายคนในพรรคที่เหมาะสมว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ทำให้สังคมไทยสับสน เพราะก่อนหน้านี้ได้ประกาศให้คนเข้าใจว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่อาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเกิดอาการชะงักในการผลักดันน้องสาวตัวเองขึ้นในตำแหน่งดังกล่าว คาดว่าเพราะ 1.ภาพลักษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทางการเมืองยังไม่โดดเด่นถึงขั้นเป็นนายกฯ เมื่อเทียบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยิ่งดูจากผลการสำรวจของโพล เรื่องภาวะผู้นำของคนทั้งสองยังห่างกันมาก 2.กลัวว่าโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งจะมีการขับเคี่ยวเข้มข้น แคดิเดตนายกฯไม่สามารถหลบหนีการดีเบตของหัวหน้าพรรคใหญ่ได้ ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์จะตกม้าตายกลางเวทีดีเบต 3.ประสบปัญหาการยอมรับของผู้อาวุโสในพรรคเพื่อไทยต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่สังเกตได้จากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลงพื้นที่หาเสียง ไม่ปรากฏเงาหัวของแกนนำหรือหัวหน้ากลุ่มต่างๆ ในพรรคเพื่อไทยอยู่เคียงข้าง มีแต่ ส.ส.กลุ่มนกแล และกรรมการบริหารพรรคที่ประจบสอพลอ พ.ท.ทักษิณ และให้แกนนำ นปช.ที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายขึ้นเวทีปราศรัยมาสร้างภาพแทน