“มาร์ค” หยัน “ไข่แม้ว” ชี้ ปัญหาปากท้องสำคัญกว่านิรโทษต้องเลือก ปชป.

หน.ปชป.ระบุ รายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ไข่แม้ว เดินหน้าสร้างปรองดองยาก เชือดเฉือนหากปชป.เห็นปัญหาปากท้องสำคัญกว่าแผนนิรโทษกรรมต้องเลือก ปชป.ท้าพวกความคิดเห็นต่างเปิดเวทีดีเบตประชันฝีปาก

วันนี้ (22 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายังลานดิจิตอลเกตเวย์ สยามสแควร์ เพื่อร่วมเสวนาคนรุ่นใหม่กับอนาคตไทย และพบปะประชาชน โดยในการเสวนา นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงโครงการเรียนฟรี 15 ปี และการเพิ่มเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยจำนวน 250,000 ทุนต่อปี นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการสร้างความปรองดองที่เห็นว่า บุคคลที่จะมาดำเนินการจะต้องเป็นกลาง ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสีย และจะต้องยึดความถูกต้อง เคารพกติกาของบ้านเมือง ซึ่งหากมองรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนโยบาย ซึ่งหากเห็นว่า ปัญหาปากท้องของประชาชนสำคัญกว่าการนิรโทษกรรมก็ขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์

นอกจากนี้ นายภิสิทธิ์ ยังกล่าวด้วยว่า หากพบเห็นการเคลื่อนไหว หรือการขนคน รวมทั้งการโกงการเลือกตั้งก็สามารถแจ้งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.หรือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการได้ เพราะหากแจ้งผ่านทางตนเองอาจจะถูกนำไปโยงเรื่องของการเมือง

ส่วนสาเหตุความขัดแย้งในบ้านเมือง ที่มีการแบ่งฝ่ายนั้น เป็นเรื่องของความเห็นที่ต่างกัน และไม่สามารถตกลงกันได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวพร้อมดีเบตกับผู้ที่มีความเห็นต่าง เพราะไม่คิดว่าจะทำให้มีความขัดแย้งเพิ่มขึ้นโดยเห็นว่า หากมีปัญหาที่แตกต่างกันก็ควรพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ ส่วนอะไรที่เห็นต่างก็สงวนไว้แล้ว ก็หาทางแก้ไขร่วมกัน

ทั้งนี้ ก่อนจบการเสวนาได้มีเจ้าของร้านค้าที่ถูกไฟไหม้ในช่วงการชุมนุม ได้สอบถามเหตุผลว่า ทำไมต้องเลือก อภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีก ซึ่งนายกฯได้ให้เหตุผลว่า สามารถสานต่องานที่ทำไว้ทั้งเรื่องปากท้อง และ 2 ปีที่ผ่านมา มีประสบการณ์ที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา เศรษฐกิจและการเมือง พร้อมยืนยันว่า ส่วนตัวและพรรคไม่มีผลประโยชน์ หรือมีวาระอื่นๆ นอกจากแก้ปัญหาให้ประชาชน และไม่คิดสร้างปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองให้เกิดขึ้นอีก

ทั้งนี้ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับได้มีคนมาชูป้ายรณรงค์โหวตโน ตรงจุดที่จอดรถนายกรัฐมนตรี ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาชูป้ายหมายเลขพรรคกันออกไป พร้อมส่งเสียงตะโกนหมายเลขพรรค จนผู้ที่ถือป้ายต้องถอยออกไป