ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เปิดตัว 2 อดีต ส.ส.กิจสังคม เชื่อทำพื้นที่ดีได้กลับมาแน่ “วรรณรัตน์” ทำปาร์ตี้ลิสต์เสร็จแล้ว แต่ยังอุบโผ ชี้เปิดเร็วช้าไม่เสียหาย ส่วนเขตส่งเกือบครบ เว้นภาคใต้บางจังหวัด เชื่อ “น้องปู” มีโอกาสนั่งนายกฯ ส่วนจับเบอร์พรุ่งนี้อยากได้เลขตัวเดียว
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน มีการเปิดตัว นายวารุจ ศิริวัฒน์ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคกิจสังคม และนายสมเจตน์ ลิมปพันธุ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคกิจสังคม ที่จะมาลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรค โดยมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค เป็นผู้ให้การต้อนรับ พร้อมสวมเสื้อแจ๊คเก็ตที่มีตราสัญลักษณ์ของพรรคให้ทั้งคู่ ทั้งยังกล่าวให้การต้อนรับว่า ขอต้อนรับทั้งคู่กลับบ้านหลังเดิม เพราะทั้งคู่ก็เคยสังกัดพรรคชาติพัฒนามาก่อนในอดีต ทั้งนี้ขอให้มาร่วมแรงร่วมใจพัฒนาบ้านเมืองกับพรรคต่อไป
ด้าน นายวารุจกล่าวว่า ตนรู้สึกอบอุ่นที่ได้กลับมาร่วมพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินอีกครั้ง เพราะตนเป็นผู้แทนครั้งแรกก็ตอนที่สังกัดพรรคชาติพัฒนา และขณะนี้บ้านเมืองเรามีปัญหาขัดแย้งหลายด้าน แนวทางของพรรคจะมุ่งสร้างความสามัคคีปรองดองในชาติ ให้ประชาชนกลับมามีความสุขเหมือนเดิม อย่างสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เน้นในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้พรรคขอเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชน
ขณะที่ นายสมเจตน์กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่มีโอกาสกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ตนเป็น ส.ส.ครั้งแรกเมื่อปี 44 ก็เกิดกับพรรคชาติพัฒนา และวันนี้แนวทางของพรรคที่ได้ประกาศสัญญาประชาคมออกไปไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจหรือสังคม เชื่อว่าสามารถขับเคลื่อนนำพาประเทศไปสู่ความรุ่งเรือง ปรองดองต่อไป
ส่วน ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งภาคเหนือของพรรค กล่าวว่า เชื่อว่าทั้งคู่จะได้กลับมาเป็น ส.ส.อีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานในพื้นที่ ช่วยพัฒนาในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำ และความกินดีอยู่ดีของประชาชน
หลังจากนั้น นพ.วรรณรัตน์ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้รายชื่อผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อได้ทำแล้วเสร็จ ทั้ง 125 คน ส่วนระบบเขตได้วางตัวเรียบร้อยแล้ว โดยจะส่งเกือบทุกเขตทั้งประเทศ มีเพียงบางเขตในพื้นที่ภาคใต้เท่านั้นที่พรรคไม่ส่งผู้สมัคร ส่วนจำนวนผู้สมัครที่จะได้นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะตัดสินใจสนับสนุนผู้สมัครและนโยบายพรรค มากน้อยขนาดไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การไม่เสนอตัวเป็นแคนนิเดตนายกฯ ถือว่าเป็นจุดอ่อนของพรรคหรือไม่ นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า ถือเป็นธรรมชาติทางการเมืองที่มีพรรรคขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ พรรคเราเป็นพรรคขนาดกลางที่เติบโตมาจากพรรคขนาดเล็ก ต้องเน้นในการนำเสนอนโยบายเพื่อต่อสู้กับพรรคใหญ่
เมื่อถามต่อว่าถึงความชัดเจนของผู้สมัครบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรค นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ตนจะลงสมัครในระบบเขต ที่เขต 1 จ.นครราชสีมา ส่วนใครจะมาเป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 นั้น จะทราบพร้อมกันในพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) เพราะมองว่าการเปิดเผยช้าหรือเร็วก็ไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆ
ต่อกรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 นั้น นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า ตนไม่ขอก้าวล่วง แต่เป็นสิทธิของผู้หญิงที่จะทำประโยชน์ ตนไม่กีดกันทางเพศอยู่แล้ว ส่วนจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเสียงประชาชนที่จะสนับสนุน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการจับมือระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินกล่าวว่า ตนอยากเห็นความปรองดองให้เกิดขึ้น ไม่อยากให้ประเทศต้องสั่นคลอนกับปัญหาความขัดแย้ง ดังนั้นการสมัครสมานท์สามัคคี ถือเป็นทางออกเพื่อพัฒนาประเทศ ในส่วนของพรรคจะเข้าร่วมกับข้างไหนนั้น วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ ซึ่งตนอยากให้รอดูผลการเลือกตั้งก่อน
เมื่อถามว่าการจับฉลากเบอร์หาเสียงอยากได้หมายเลขอะไร นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า อยากได้เลขตัวเดียว เพราะเป็นที่จดจำได้ง่าย ส่วนฤกษ์ที่ไปสมัครนั้นถือฤกษ์สะดวก เมื่อได้เบอร์แล้วก็จะเดินหน้าหาเสียงทันที ในส่วนที่ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3 พีที่เสียชีวิตเชื่อว่าจะได้คะแนนสงสารจากคนในพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงที่ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ ที่มีชีวิต ได้สร้างผลงานให้ประชาชนในพื้นที่ไว้มากมาย เชื่อว่าทายาททั้ง 2 คนที่ลงสมัครน่าจะได้รับคะแนนสนับสนุนจากประชาชน
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน มีการเปิดตัว นายวารุจ ศิริวัฒน์ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคกิจสังคม และนายสมเจตน์ ลิมปพันธุ์ อดีต ส.ส.สุโขทัย พรรคกิจสังคม ที่จะมาลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรค โดยมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค เป็นผู้ให้การต้อนรับ พร้อมสวมเสื้อแจ๊คเก็ตที่มีตราสัญลักษณ์ของพรรคให้ทั้งคู่ ทั้งยังกล่าวให้การต้อนรับว่า ขอต้อนรับทั้งคู่กลับบ้านหลังเดิม เพราะทั้งคู่ก็เคยสังกัดพรรคชาติพัฒนามาก่อนในอดีต ทั้งนี้ขอให้มาร่วมแรงร่วมใจพัฒนาบ้านเมืองกับพรรคต่อไป
ด้าน นายวารุจกล่าวว่า ตนรู้สึกอบอุ่นที่ได้กลับมาร่วมพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินอีกครั้ง เพราะตนเป็นผู้แทนครั้งแรกก็ตอนที่สังกัดพรรคชาติพัฒนา และขณะนี้บ้านเมืองเรามีปัญหาขัดแย้งหลายด้าน แนวทางของพรรคจะมุ่งสร้างความสามัคคีปรองดองในชาติ ให้ประชาชนกลับมามีความสุขเหมือนเดิม อย่างสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เน้นในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้พรรคขอเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชน
ขณะที่ นายสมเจตน์กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่มีโอกาสกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ตนเป็น ส.ส.ครั้งแรกเมื่อปี 44 ก็เกิดกับพรรคชาติพัฒนา และวันนี้แนวทางของพรรคที่ได้ประกาศสัญญาประชาคมออกไปไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจหรือสังคม เชื่อว่าสามารถขับเคลื่อนนำพาประเทศไปสู่ความรุ่งเรือง ปรองดองต่อไป
ส่วน ร.ต.ประพาส ลิมปะพันธุ์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งภาคเหนือของพรรค กล่าวว่า เชื่อว่าทั้งคู่จะได้กลับมาเป็น ส.ส.อีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานในพื้นที่ ช่วยพัฒนาในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำ และความกินดีอยู่ดีของประชาชน
หลังจากนั้น นพ.วรรณรัตน์ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้รายชื่อผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อได้ทำแล้วเสร็จ ทั้ง 125 คน ส่วนระบบเขตได้วางตัวเรียบร้อยแล้ว โดยจะส่งเกือบทุกเขตทั้งประเทศ มีเพียงบางเขตในพื้นที่ภาคใต้เท่านั้นที่พรรคไม่ส่งผู้สมัคร ส่วนจำนวนผู้สมัครที่จะได้นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะตัดสินใจสนับสนุนผู้สมัครและนโยบายพรรค มากน้อยขนาดไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การไม่เสนอตัวเป็นแคนนิเดตนายกฯ ถือว่าเป็นจุดอ่อนของพรรคหรือไม่ นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า ถือเป็นธรรมชาติทางการเมืองที่มีพรรรคขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ พรรคเราเป็นพรรคขนาดกลางที่เติบโตมาจากพรรคขนาดเล็ก ต้องเน้นในการนำเสนอนโยบายเพื่อต่อสู้กับพรรคใหญ่
เมื่อถามต่อว่าถึงความชัดเจนของผู้สมัครบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรค นพ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ตนจะลงสมัครในระบบเขต ที่เขต 1 จ.นครราชสีมา ส่วนใครจะมาเป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 นั้น จะทราบพร้อมกันในพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) เพราะมองว่าการเปิดเผยช้าหรือเร็วก็ไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆ
ต่อกรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 นั้น นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า ตนไม่ขอก้าวล่วง แต่เป็นสิทธิของผู้หญิงที่จะทำประโยชน์ ตนไม่กีดกันทางเพศอยู่แล้ว ส่วนจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเสียงประชาชนที่จะสนับสนุน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการจับมือระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย เพื่อเป็นพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินกล่าวว่า ตนอยากเห็นความปรองดองให้เกิดขึ้น ไม่อยากให้ประเทศต้องสั่นคลอนกับปัญหาความขัดแย้ง ดังนั้นการสมัครสมานท์สามัคคี ถือเป็นทางออกเพื่อพัฒนาประเทศ ในส่วนของพรรคจะเข้าร่วมกับข้างไหนนั้น วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ ซึ่งตนอยากให้รอดูผลการเลือกตั้งก่อน
เมื่อถามว่าการจับฉลากเบอร์หาเสียงอยากได้หมายเลขอะไร นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า อยากได้เลขตัวเดียว เพราะเป็นที่จดจำได้ง่าย ส่วนฤกษ์ที่ไปสมัครนั้นถือฤกษ์สะดวก เมื่อได้เบอร์แล้วก็จะเดินหน้าหาเสียงทันที ในส่วนที่ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3 พีที่เสียชีวิตเชื่อว่าจะได้คะแนนสงสารจากคนในพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงที่ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ ที่มีชีวิต ได้สร้างผลงานให้ประชาชนในพื้นที่ไว้มากมาย เชื่อว่าทายาททั้ง 2 คนที่ลงสมัครน่าจะได้รับคะแนนสนับสนุนจากประชาชน