รมว.วธ.งง ม.112 มีปัญหาตรงไหน ชี้ ไทยเป็นน้อยชาติที่เหลือสถาบัน ยันกฎหมายต้องคงอยู่ ยันไม่เคยเห็นถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เผย ไปหลายชาติชาวเมืองโอดเสียดายไม่มีสถาบันแล้ว หวั่นแก้อยู่หมวดหมิ่นปกติ สุดท้ายจะยอมความกันได้ ชี้ นิติราษฎร์ ให้ราชเลขาฯ ฟ้องเองดึงสถาบันลงมาเป็นคู่กรณีชาวบ้าน ยันต้องเป็นความผิดต่อราชอาณาจักร
วันนี้ (22 พ.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนักเขียนและคอลัมนิสต์ 130 คน ร่วมกันลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกเพื่อเรียกร้องให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ว่า ส่วนตัวไม่เห็นว่าเนื้อหารวมถึงการบังคับใช้มาตราดังกล่าวจะมีปัญหาอะไร การจะแก้ไขกฎหมายใดๆ ต้องดูความเป็นจริง ทั้งด้านสังคมและวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ด้วย ไทยเป็นน้อยประเทศที่ยังเหลือสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ กฎหมายลักษณะเดียวกับมาตรา 112 จึงควรจะมีอยู่
“ผมไม่เคยเห็นมาตรา 112 ถูกหยิบมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และนักการเมืองกว่าร้อยละ 99 ก็ไม่มีปัญหากับมาตราดังกล่าว ผมเดินทางไปหลายประเทศที่เคยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเสียดายที่ไม่มีสถาบันกษัตริย์แล้ว อยากจะรื้อฟื้นให้กลับมาใหม่ เพื่อจะเป็นประมุข รวมทั้งสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ กลับกันไทยยังมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ จึงสมควรมีมาตราดังกล่าวไว้ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า หากเราแก้ไขมาตรา 112 ให้ไปอยู่ในหมวดเดียวกับความผิดฐานหมิ่นประมาทบุคคล เชื่อว่า สุดท้ายก็อาจมีการเสนอให้แก้ไขลดโทษลง หรือแก้ให้ยอมความกันได้อีก ยิ่งข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ที่ให้แก้ไขให้สำนักราชเลขาธิการเป็นผู้ฟ้องร้องเอง ยิ่งทำให้เกิดปัญหา เพราะจะกลายเป็นว่า เอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นคู่กรณีกับชาวบ้าน การให้ชาวบ้านฟ้องร้องเองได้ถ้าพบเห็นพฤติกรรมที่อาจฝ่าฝืนมาตรา 112 ส่วนตัวคิดว่า เหมาะสมแล้ว เพราะมาตราดังกล่าวอยู่ในลักษณะความผิดต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร