ชทพ.เผยนโยบายหาเสียงเน้นหยุดความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง “ชุมพล” ระบุบ่อเกิดความขัดแย้งคือรัฐธรรมนูญปี 50 และองค์กรอิสระ ทางออกคือการเมืองต้องนิ่ง หยุดพฤติกรรมสองมาตรฐาน คืนความเป็นธรรมให้คนการเมือง ลั่นผลักดันปฏิรูปการเมือง แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ ปฏิรูปประเทศ
ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เช้าวันนี้ (18 พ.ค.) นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธานในการจัดปฐมนิเทศผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบเขต และส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง
นายชุมพลกล่าวชี้แจงถึงนโยบายและยุทธศาสตร์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งว่า พรรคชาติไทยพัฒนาก่อตั้งมาท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งความขัดแย้งเกิดขึ้นมา 4-5 ปี ทำให้ทุกคนตกอยู่ในฝันร้าย และไม่รู้จะฝันร้ายอีกนานเท่าไหร่ ไม่มีใครรู้ จึงหวังว่าหลังวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.สภาพฝันร้ายทางการเมืองจะหมดไป
ทั้งนี้ สภาพการเมืองปัจจุบันเต็มไปด้วยความขัดแย้ง แบ่งเป็นสองฝ่าย มีพฤติกรรมสองมาตรฐาน การเมืองและพรรคการเมืองถูกทำให้อ่อนแอ และอยู่ในภาวะจำยอม สถาบันการเมืองถูกละเมิดและนำไปใช้อ้างอิงเพื่อประโยชน์ของตนไม่มีที่สิ้นสุด ฝ่ายที่ได้เปรียบทางการเมืองก็ยังยืนอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ ขาดจิตสำนึกที่จะปรองดองอย่างแท้จริง คนการเมืองและพรรคการเมืองที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข คืนความเป็นธรรมให้ บ่อเกิดของปัญหาทั้งหมดคือรัฐธรรมนูญปี 50 และองค์กรอิสระ
นายชุมพลกล่าวว่า ทางออกคือการเมืองต้องนิ่ง หยุดพฤติกรรมสองมาตรฐาน และทำให้องค์กรอิสระได้รับการยอมรับ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาเห็นว่าต้องดำเนินการ 5 ข้อจึงจะทำให้ประเทศชาติมีทางออกและถือเป็นสัญญาประชาคมของพรรค คือ 1.ปฏิรูปการเมืองตามแนวทางที่นายบรรหาร ศิลปอาชา เคยดำเนินการเมื่อครั้งเป็นนายกฯ 2.ผลักดันข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ตามแนวทางที่นายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า นำเสนอ 3.ผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจตามที่นายอานันท์ ปันยารชุน นำเสนอ 4.ปฏิรูปประเทศตามแนวทางของ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และ 5.ดำเนินการตามแนวทางปรองดอง 8 ข้อของนายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด
จากนั้น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ประเทศเราถึงวันนี้ถ้าไม่สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติก็ไม่ทราบว่าจะเดินไปได้อย่างไร 5 ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าความแตกแยกของคนในชาติไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง กลุ่มการเมือง กลุ่มชนหลากสีได้เกิดขึ้น ความแตกแยกเกิดขึ้นทุกวัน พรรคชาติไทยพัฒนามองเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นและมอบหมายให้ตนดูแลในเรื่องปรองดอง ซึ่งตนได้คิดและดำเนินการในเรื่องปรองดองมาตั้งแต่เดือน ก.ย. ซึ่งการหาเสียงครั้งนี้พรรคชาติไทยพัฒนาจะยึดการปรองดองเป็นหลัก หากจากนี้ไปอีก 10-20 ปีข้างหน้าจะทำอย่างไร หากความปรองดองยังไม่เกิดขึ้น วันนี้เรามองเห็นว่าความขัดแย้งทำให้ประเทศชาติเราหยุดชะงัก พรรคชาติไทยพัฒนาจึงต้องยึดมั่นในหลักการความปรองดองทางการเมือง และตนจะทำคู่มือให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนนำเรื่องนี้ไปหาเสียงต่อไป
ด้าน นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวปฐมนิเทศว่า ประเทศไทยจะไม่สามารถเดินหน้าไปได้หากไม่มีความปรองดองและเชื่อมั่นว่าวันใดคนในชาติหันหน้าเข้าหากันแล้วเศรษฐกิจเราจะมุ่งไปข้างหน้า โดยนโยบายที่จะใช้หาเสียงมี 3 คำง่ายๆ คือ ปรองดอง สร้างเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ ซึ่งจะเน้นในเรื่องการเตรียมความพร้อมของประเทศไปสู่การรวมตัว การสร้างสมาคมอาเซียน เศรษฐกิจพิเศษ และการสร้างเกษตรกรที่ยั่งยืน แต่หากเรานิ่งเฉย แตกแยก ไม่ทำอะไรเลย โอกาสทองก็จะเสียไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.พรรรคชาติไทยพัฒนาที่น่าสนใจ อาทินายสดใส โรจนวิชัย หรือนักร้องลูกทุ่ง สดใส ร่มโพธิ์ทอง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีความเคลื่อนไหวที่จะไปลงสมัครหลายพรรคการเมือง แต่สุดท้ายลงเขต 4 ปทุมธานี นอกจากนี้ยังมีนายอดุลย์ วันไชยธนะวงศ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ายมาสมัครเขต 1 จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายธานินทร์ ใจสมุทร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายก อบจ.จังสตูล สมัครเขต 2 จังหวัดสตูล และนายอมรเทพ สมหมาย อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคไทยรักไทย ได้มาลงสมัครเขต 5 จังหวัดศรีสะเกษ