“บุญยอด” ซัด “ยิ่งลักษณ์” ดูถูกคนไทย ประกาศ “มุ่งแก้ไข ไม่แก้แค้น” แค่สร้างภาพ เหตุ “เพื่อแม้ว-เสื้อแดง” เป็นพวกเดียวกันที่เป็นผู้กระทำคนอื่น ด้าน “ปลอดประสพ” ปฏิเสธส่ง “เจ๊ปู” ดีเบตสู้ “มาร์ค” อ้างเป็นการทะเลาะกันต่อหน้าประชาชน ไม่สร้างความสมานฉันท์ โวเพื่อแม้วชนะห่างประชาธิปัตย์ 60-70 เสียง
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ออกมาประกาศว่าจะมุ่งแก้ไข ไม่แก้แค้นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กำลังสร้างภาพว่าเป็นเหมือนผู้ถูกกระทำ ทั้งที่ทุกคนรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย และกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นพวกเดียวกัน และได้ร่วมกันกระทำคนอื่น ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ควรใช้คำพูดนี้ แต่ควรไปถามผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เผาเมือง เช่น ญาติของทหารที่เสียชีวิต และผู้ค้าราชประสงค์ที่ถูกเผาทั้งหมดว่าจะไม่แก้แค้นหรือไม่
“การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกมาพูดอย่างนี้ ถือว่าดูถูกคนไทยเกินไปแล้ว คนไทยไม่ใช่คนลืมง่าย และอยากถามว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่มีเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปอยู่ไหน และใครเป็นผู้สนับสนุนเงินให้กลุ่มคนเสื้อแดงจนกระทั่งถูกอายัดบัญชีเงินฝาก”
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาท้าให้มีการดีเบตเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ตนจำได้ว่าในประเทศไทยไม่เคยมีการมาท้าดีเบต แต่มีการพูดเรื่องนี้ครั้งแรกโดยนายอภิสิทธิ์ไปพูดท้านายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และมาครั้งนี้นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งทุกคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่สนับสนุนและท้าดีเบตหมด อยากถามว่าจะท้าดีเบตกันทำไมในเมื่อทุกพรรคเสนอได้นโยบายของแต่ละพรรคไปแล้วและประชาชนก็เห็นแล้ว ดังนั้น การให้คนมาเถียงและทะเลาะกันต่อหน้าประชาชนอีกจะสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร และมองว่าการดีเบตเป็นการใช้คำพูดมาทำงานการเมืองเพื่อท้าตีท้าต่อยกับคนอื่น ฉะนั้นขอให้พอเรื่องนี้กันเสียที
นายปลอดประสพกล่าวถึงความชัดเจนเรื่องการจัดส่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า การจัดลำดับบุคคล พรรคจะจัดลำดับจากหัวไปหาง เมื่อได้ลำดับที่ 1 ไปแล้วก็จะเริ่มที่ลำดับ 2-20 ไปจนครบ และลำดับเซฟโซน คือ ลำดับที่ 70 ขึ้นมา ทั้งนี้ ตนวิเคราะห์ว่าคำพูดของนายสุเทพที่ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.200 เสียง เป็นความต้องการเพิ่มคะแนนของพรรคตัวเองจากเดิมที่ได้ 160 อีก 40 รวมเป็น 200 คะแนน เพื่อจะได้มีอำนาจต่อรองในการต่อรองตั้งรัฐบาล ทวงกระทรวงใหญ่กลับคืนจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นนโยบายเขี่ยทิ้งพรรคภูมิใจไทย
ส่วนที่นายอภิสิทธิ์บอกว่าจะแพ้เพื่อไทยเพียง 40 คะแนน เพื่อให้ใกล้เคียงกับพรรคเพื่อไทยนั้น ตนยังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย จะชนะพรรคประชาธิปัตย์ 60-70 คะแนน และจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว แต่อาจเชิญพรรคพวกมาร่วมด้วยนิดหน่อยเท่านั้น เมื่อถามว่าพรรควางค่าใช้จ่ายในการหาเสียงอย่างไร นายปลอดประสพกล่าวว่า ตัวเลขที่ออกมาไม่ใช่ตัวเลขจริง และเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เงิน 1.5 ล้านบาท แต่เราก็จะทำตามกฎหมายทุกอย่าง