“ดุสิตโพล” ชี้ชาวบ้านร้อยละ 38.23 แนะหาเสียงแบบจริงใจจะเรียกคะแนนได้อันดับ 1 ร้อยละ 40.52 ชี้พรรคที่มีนโยบายและจุดยืนชัดจะถูกใจประชาชน ร้อยละ 37.11 แนะหาเสียงซื่อสัตย์ ยึดกฎหมายจะปลอดภัย ด้าน เอแบคโพลล์ เผย ประชาชนส่วนใหญ่ชอบนโยบาย ปชป.มากกว่า พท.
วันนี้ (15 พ.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,554 ตัวอย่างระหว่างวันที่ 11-14 พ.ค. ในหัวข้อ “หาเสียงอย่างไร? ถึงจะถูกใจประชาชน” พบว่า ประชาชน 38.23% มองว่า การหาเสียงของ ส.ส.ที่เรียกคะแนนได้อันดับหนึ่งต้องมีความจริงใจในการหาเสียง แสดงจุดยืนของตัวเอง และทำให้ประชาชนศรัทธาเชื่อมั่น รองลงมาคือการเข้าถึงประชาชนทุกระดับ ลงพื้นที่สม่ำเสมอ นำเสนอนโยบายที่ทำได้จริง แก้ปัญหาได้ตรงจุด และใช้วิธีการหาเสียงที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่ใส่ร้ายโจมตีคู่แข่งตามลำดับ
ขณะที่ประชาชน 40.52% เห็นว่า พรรคการเมืองที่ถูกใจประชาชน ต้องมีจุดยืน ชูนโยบาย และแนวทางในการพัฒนาประเทศอย่างชัดเจน เข้าถึงประชาชนทุกระดับ รองลงมามีผู้นำและหัวหน้าพรรคที่มีภาพลักษณ์ที่ดีเป็นที่ยอมรับ มีการคัดเลือกผู้สมัครได้อย่างเหมาะสม และมีความสามัคคีภายในพรรค ทำงานอย่างเป็นระบบตามลำดับ
นอกจากนี้ ในหัวข้อเรื่อง ส.ส.ควรหาเสียงอย่างไรจึงจะปลอดภัย ประชาชน 37.11% เห็นว่า อันดับหนึ่งต้องมีวิธีการหาเสียงที่ซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรงไปตรงมา ยึดปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งที่ กกต.กำหนด และไม่ซื้อเสียง หาเสียงหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงอันตราย และสุดท้ายคือ การที่ผู้สมัครต้องเพิ่มความระมัดระวังดูแลตัวเอง
ด้าน ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัย เรื่องประชันนโยบายของพรรคการเมืองในความชื่นชอบของประชาชน จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวน 2,447 คน พบว่า ประชาชนร้อยละ 57 ชอบนโยบายส่งเสริมระบบคุณธรรมในสังคมไทยของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 35.7 ชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้ ร้อยละ 55.9 ชอบนโยบายปรองดองแห่งชาติของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ร้อยละ 36.2 ชอบของพรรคเพื่อไทย ส่วนแนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหาภาคใต้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 55.8 ชอบของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 36.7 ชอบของพรรคเพื่อไทย นโยบายต่อเด็กและเยาวชน ร้อยละ 55.5 ชอบของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 38 ชอบของพรรคเพื่อไทย
ผลวิจัยยังพบว่า นโยบายเศรษฐกิจตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 55.4 ชอบพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 38.7 ชอบพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับนโยบายด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ นโยบายควบคุมพื้นที่เสียงต่อความมั่นคง นโยบายแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น นโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การแก้ปัญหาราคาเชื้อเพลิง และนโยบายเพื่อชาวนาและเกษตรกร ที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ชอบนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ รองลงมาเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย
วันนี้ (15 พ.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,554 ตัวอย่างระหว่างวันที่ 11-14 พ.ค. ในหัวข้อ “หาเสียงอย่างไร? ถึงจะถูกใจประชาชน” พบว่า ประชาชน 38.23% มองว่า การหาเสียงของ ส.ส.ที่เรียกคะแนนได้อันดับหนึ่งต้องมีความจริงใจในการหาเสียง แสดงจุดยืนของตัวเอง และทำให้ประชาชนศรัทธาเชื่อมั่น รองลงมาคือการเข้าถึงประชาชนทุกระดับ ลงพื้นที่สม่ำเสมอ นำเสนอนโยบายที่ทำได้จริง แก้ปัญหาได้ตรงจุด และใช้วิธีการหาเสียงที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่ใส่ร้ายโจมตีคู่แข่งตามลำดับ
ขณะที่ประชาชน 40.52% เห็นว่า พรรคการเมืองที่ถูกใจประชาชน ต้องมีจุดยืน ชูนโยบาย และแนวทางในการพัฒนาประเทศอย่างชัดเจน เข้าถึงประชาชนทุกระดับ รองลงมามีผู้นำและหัวหน้าพรรคที่มีภาพลักษณ์ที่ดีเป็นที่ยอมรับ มีการคัดเลือกผู้สมัครได้อย่างเหมาะสม และมีความสามัคคีภายในพรรค ทำงานอย่างเป็นระบบตามลำดับ
นอกจากนี้ ในหัวข้อเรื่อง ส.ส.ควรหาเสียงอย่างไรจึงจะปลอดภัย ประชาชน 37.11% เห็นว่า อันดับหนึ่งต้องมีวิธีการหาเสียงที่ซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรงไปตรงมา ยึดปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งที่ กกต.กำหนด และไม่ซื้อเสียง หาเสียงหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงอันตราย และสุดท้ายคือ การที่ผู้สมัครต้องเพิ่มความระมัดระวังดูแลตัวเอง
ด้าน ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัย เรื่องประชันนโยบายของพรรคการเมืองในความชื่นชอบของประชาชน จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวน 2,447 คน พบว่า ประชาชนร้อยละ 57 ชอบนโยบายส่งเสริมระบบคุณธรรมในสังคมไทยของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 35.7 ชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้ ร้อยละ 55.9 ชอบนโยบายปรองดองแห่งชาติของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ร้อยละ 36.2 ชอบของพรรคเพื่อไทย ส่วนแนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหาภาคใต้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 55.8 ชอบของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 36.7 ชอบของพรรคเพื่อไทย นโยบายต่อเด็กและเยาวชน ร้อยละ 55.5 ชอบของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 38 ชอบของพรรคเพื่อไทย
ผลวิจัยยังพบว่า นโยบายเศรษฐกิจตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร้อยละ 55.4 ชอบพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 38.7 ชอบพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับนโยบายด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ นโยบายควบคุมพื้นที่เสียงต่อความมั่นคง นโยบายแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น นโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การแก้ปัญหาราคาเชื้อเพลิง และนโยบายเพื่อชาวนาและเกษตรกร ที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ชอบนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ รองลงมาเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย
