“ทนายส่วนตัว” โต้ “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ปัด “ทักษิณ” ใช้เลือกตั้งฟอกตัว เย้ยชนะเลือกตั้งทุกครั้ง สำทับได้เสียงน้อย อย่าดันทุรังตั้งรัฐบาลแข่ง คุยนโยบายพรรคต้องการสร้างความปรองดองและแก้วิกฤตเศรษฐกิจ
วันนี้ (14 พ.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชิณวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหาเสียงที่จังหวัดราชบุรี และระบุว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลบ้านเมืองวุ่นวายแน่ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้การเลือกตั้งฟอกตนเองว่า ไม่อยากตอบโต้สองท่านนี้ เพราะตลอดสามปีที่ผ่านมา ประชาชนรู้สิ่งที่อยู่ในหัวของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพดีว่าคิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไร เพียงแต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่คิดแบบสองคนนี้ เพราะแข่งกับ พ.ต.ท.ทักษิณในการเลือกตั้งทุกครั้ง ก็แพ้ทุกครั้ง มีครั้งหนึ่งที่ไม่แพ้ก็เพราะนายอภิสิทธิ์บอยคอตการเลือกตั้ง ตนขอยืนยันว่า การเลือกตั้งคือทางออกของประเทศ เป็นการประกาศความต้องการของคนทั้งประเทศว่าใครควรเป็นรัฐบาล ไม่ใช่การฟอกตัว พ.ต.ท.ทักษิณ
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า อยากให้นายสุเทพมองการเลือกตั้งในแง่ดีบ้าง และควรเคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่ใช่ว่าถ้าได้เสียงน้อยกว่าพรรคอื่นก็จะดันทุรังจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่สนใจเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ ในทำนองอยากได้ใคร่ดี แต่ฝีมือไม่มีแล้วทิ้งปัญหาให้รัฐบาลใหม่มากมาย
“ผมอยากจะบอกนายอภิสิทธิ์ว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะสร้างความปรองดอง และ แก้วิกฤติเศรษฐกิจและหารายได้เข้าประเทศชัดเจน เป็นนโยบายเพื่อคนทั้งประเทศ ไม่ใช่นโยบายเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวอย่างที่ถูกกล่าวหา และถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลตนเห็นนโยบายดีๆ เช่น ชาวนา ผู้ใช้แรงงานจะมีรายได้เพิ่ม ประเทศมีรถไฟความเร็วสูง มีเมืองใหม่ นักเรียนมีคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตใช้ฟรี ไม่เห็นตรงไหนเลยว่าจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย จะมีพวกที่วุ่นวายคือพวกที่ประชาชนไม่เลือก และไม่ได้เป็นรัฐบาล ที่อาจออกมาก่อความวุ่นวายเหมือนในอดีต ซึ่งตนขอร้องว่าอย่าทำ และให้มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ” นายนพดลกล่าว
นายนพดลกล่าวต่อว่า ทราบมาว่าพรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ซึ่งตนมั่นใจว่าจะได้คนที่มีประสบการณ์ในการทำงาน มีความสามารถในการบริหาร และเคยเป็นผู้นำในการบริหารงานในองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นผลดีที่จะให้ประชาชนได้พิจารณาวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่น หลังจากที่ประชาชนได้ทราบและชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้เปิดมา