โฆษกภูมิใจไทยโชว์ 25 ชื่ออดีต ส.ส.หลายพรรคย้ายซบ รอระเบียบ กกต.ก่อนติดป้าย โอ่จ่อเปิดตัวหนุ่มหล่อสาวสวยสู้เลือกใหม่ประชาธิปัตย์ โวได้ ส.ส.ไม่เกิน 200 แนะผู้สมัครเข้มกฎ กกต. ห้ามดึงสถาบันหาเสียง พร้อมสั่งนำป้ายโฆษณาลงแล้ว โต้อธิบดีสรรพากร ยันลดภาษีไม่กระทบรัฐเก็บรายได้ ขู่อยู่นิ่งๆ ปัด 2 อดีต ส.ส.สมุทรปราการเกี่ยวยิง “ประชา”
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวว่า ขณะนี้มีสมาชิกพรรคการเมืองอื่นมาสมัครร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว 17 คนและกำลังมาเพิ่มวันนี้ (12 พ.ค.) ประมาณ 8 คน รวมทั้งหมด 25 คน ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่พรรคไม่ประกาศว่ามี ส.ส.ในระบบเขตเท่าไหร่บ้าง ไม่ใช่ว่าพรรคไม่พร้อม ส่วนการติดป้ายหาเสียง พรรคจะดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ เพราะต้องรอให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกระเบียบให้ชัดเจนก่อน อย่างไรก็ตาม พรรคจะส่งผู้สมัครไม่มากไปกว่า 190 คน เพราะถือว่าเกินกึ่งหนึ่งของระบบเขต ซึ่งยังไม่รวมกับบัญชีรายชื่อ ส่วนสาเหตุที่ส่งผู้สมัครในจำนวนเท่านี้ เพราะพรรคได้ยึดหลักวิทยาศาสตร์และโพล จึงมั่นใจว่าพื้นที่ที่จะส่งลงสมัครพรรคมีโอกาสได้สูง ขณะที่ในเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัวผู้สมัครเลือดใหม่ที่มีความรู้ดี หน้าตาสวย หล่อ อายุประมาณ 26-27 ปี เชื่อว่าจะสู้เลือดใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ได้
นายศุภชัยกล่าวว่า นอกจากนี้พรรคได้สำรวจและมั่นใจว่า 2 พรรคใหญ่ที่บอกว่าได้ ส.ส.มากนั้นจะได้ ส.ส.ไม่เกิน 200 คน นอกจากนี้ สิ่งที่พรรคได้แจ้งให้ว่าที่ผู้สมัครทุกคนว่า คือ ต้องปฏิบัติตามกฎกกต.อย่างเคร่งครัด ส่วนประเด็นเรื่องที่ กกต.ห้ามเอาสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง พรรคได้กำชับพร้อมทำเป็นคู่มือแจกให้กับว่าที่ผู้สมัครทั้งในระบบเขตและสัดส่วน โดยอย่านำประเด็นดังกล่าวเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหา อย่างไรก็ดี รมต.ในส่วนของพรรคที่ขึ้นป้ายปกป้องสถาบันในแต่ละพื้นที่ เช่น นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและ รมว.มหาดไทยได้สั่งให้นำป้ายดังกล่าวเอาลงแล้ว และยืนยันพร้อมจะปฏิบัติตามที่ กกต.กำหนด
นายศุภชัยกล่าวว่า อยากให้ประชาชนหันมาเลือกพรรคขนาดกลาง พรรคเล็ก เพื่อลดความขัดแย้งและอำนาจการต่อรอง เพราะเชื่อว่าหากพรรคใหญ่กลับเข้ามาปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ยังจะมีเหมือนเดิม
นายศุภชัยยังกล่าวถึงกรณีที่นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ได้ให้ความเห็นถึงนโยบายพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวการลดภาษี 2% เหลือ 5% มีผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้รัฐ 1.5 แสนล้านบาท เกือบประมาณครึ่งหนึ่งของงบลงทุน 4 แสนล้านบาทว่า ยืนยันว่านโยบายดังกล่าวไม่กระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ และเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนทุกคนในแผ่นดิน
“ต่อปีรัฐจัดเก็บรายได้ถึง 2 ล้านล้านบาท หากหาย 1.5 แสนล้านบาท ก็ไม่เป็นผลกระทบ เพราะผลผลิตมวลรวมของประเทศ (จีดีพี) มีหลายอย่าง ทั้งส่งออก นำเข้า ลงทุน และเรื่องการบริโภค ดังนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อประชาชน ฉะนั้น อย่าคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง และยืนยันว่าหากได้มาเป็นรัฐบาลจะผลักดันนโยบายดังกล่าวแน่นอน ท่านเป็นข้าราชการประจำอย่ามาแสดงความเห็นขณะที่พรรคการเมืองกำลังหาเสียง ถ้าเรามาท่านทำไม่ได้มีปัญหา อยู่นิ่งเฉยจะดีกว่า” นายศุภชัยกล่าว
โฆษกพรรคภูมิใจไทย ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการพาดพิง นายนที สุทินเผือก และนายจิรพันธ์ ลิ้มสกุลศิริรัตน์ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบยิงนายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่าไม่เกี่ยวกับทั้ง 2 คนที่ย้ายมาพรรคเรา เพราะเป็นผู้สมัครคนละเขต แต่พรรคก็มีการส่งผู้สมัครเขตเดียวกับนายประชา ส่วนที่ให้เจ้าหน้าที่ออกมาระบุว่าเป็นฝีมือฝ่ายตรงข้ามนั้น ก็อยากให้ออกมาให้ข้อมูลที่ชัดเจน ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับคนในพรรค เพราะคนของพรรคมีศีลธรรม และพรรคไม่เคยมีความขัดแย้งกับนายประชา เพราะนายประชา มีความขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่นและเสื้อแดงอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้น่าจะสอบถามความจริงกับนายประชา ได้เพราะน่าจะเป็นคนที่รู้ดี
นายศุภชัยกล่าวว่า ฝากเตือนเมื่อมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว ขอให้งดแสดงความเห็นที่ส่งผลกระทบกับพรรคอื่น โดยเฉพาะความเห็นของ กก.บห.ถ้าไม่รู้ข้อมูลจริงอย่าพูด อย่าใส่ร้าย เพราะจะถูกยุบพรรคได้ ตนคิดว่าสถานการณ์การหาเสียงคงไม่น่าเป็นห่วง เพราะมี 375 เขต คงไม่มีการลอบสังหารกันทุกเขต แต่บางพื้นที่อาจมีความรุนแรง โดยเฉพาะสมุทรปราการก็เป็นพื้นที่ที่มีความรุนแรงตลอดทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น แต่พื้นที่อื่นก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ โฆษกพรรคภูมิใจไทยได้นำรายชื่ออดีต ส.ส.ที่มีการย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยอย่างเป็นทางการแล้วจำนวน 25 คน ได้แก่ นายณัชพล ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อแผ่นดิน นายปุระพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒนา อดีต ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน นายมานพ ปัตนวงศ์ อดีต ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน นางวรศุลี สุวรรณปริสุทธิ์ อดีต ส.ส.มุกดาหาร พรรครวมชาติพัฒนา นายประนอม โพธิ์คำ อดีต ส.ส.นคราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร อดีตส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย นายจุมพฏ บุญใหญ่ อดีตส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย นายจักรกฤษณ์ ทองศรี อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคประชาราช นายชนากานต์ ยืนยง อดีต ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาราช นายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อแผ่นดิน น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา
นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร อดีต ส.ส.นครนายก พรรคเพื่อไทย นายปิยะรัช หมื่นแสน อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อแผ่นดิน นายนิมุคตาร์ วาบา อดีต ส.ส.ปัตตานี พรรคเพื่อแผ่นดิน นายพิกิฏ ศรีชนะ อดีต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน นายรณฤทธิชัย คานเขต อดีต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน นางฟาริดา สุไลมาน อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคมาตุภูมิ นายสมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย นายจิรพันธ์ ลิ้มสกุลศิริรัตน์ นายนที สุทินเผือก อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย นายพีระพงษ์ เฮงสวัสดิ์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อแผ่นดิน นางรัชนี พลซื่อ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อแผ่นดิน นายกิตติศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อแผ่นดิน
นอกจากนี้ยังมีอดีต ส.ส.บางส่วนที่ยังไม่ได้มาสมัครสมาชิกพรรค จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อว่าที่ผู้สมัครได้ และในบางพื้นที่ที่มีปัญหาทับซ้อนกัน ทำให้อดีต ส.ส.บางคนเปลี่ยนใจไม่มาสมัครเข้าพรรค อาทิ นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ อดีต ส.ส.สัดส่วนเพื่อไทย ที่ย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนาแทน