เลขาฯ กกต.เชื่อ “ประชา” ถูกยิงมีหลายสาเหตุ แนะผู้สมัคร ส.ส.ระมัดระวังตัวเอง อ้าง กกต.ไม่มีหน้าที่ดูแลผู้สมัคร เตรียมเชิญองค์กรระหว่างประเทศเข้าสังเกตการณ์เลือกตั้ง “สมชาย” ขอบคุณ “มาร์ค” เยี่ยมลูกทีม เรียกร้องกำชับตำรวจดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น เผยเพื่อแม้วเตรียมขอตำรวจคุ้มครองผู้สมัครพื้นที่รุนแรง “วิชาญ” ชี้ปมการเมืองลอบยิง “ประชา”
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บว่ามีหลายสาเหตุ ซึ่งประธาน กกต.ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการการเลือกตั้งทั่วไป โดยมีผู้แทนจากหลายภาคส่วนร่วมเป็นกรรมการเกี่ยวกับการดูแลการรักษาความเรียบร้อย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เป็นผู้อำนวยการศูนย์รักษาความเรียบร้อยเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้น หากทุกพรรคการเมืองตกลงทำสัญญาร่วมกันในการรักษากฎกติกา การยอมรับผลการเลือกตั้ง การที่จะไม่ใช้ความรุนแรงในการหาเสียง เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม กกต.มีความพร้อมและการทำหน้าที่อย่างสุจริต โปร่งใสและเที่ยงธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแลผู้สมัครเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า ยัง ซึ่งในวันเปิดรับสมัคร ส.ส.ในวันที่ 19-23 พ.ค.ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดงในการรับสมัครระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งตนเป็นประธานก็มีความเป็นห่วงเรื่องการรักษาความปลอดภัย โดยมองจากสถานการณ์ปัจจุบัน และข้อบกพร่องที่ผ่านมากำหนดให้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างตัวแทนพรรคการเมือง ทีมงานผู้สมัคร สื่อมวลชน เราจะดูแลความปลอดภัยให้รัดกุม ส่วนผู้สมัครแต่ละหน่วยงานก็ทำหน้าที่อยู่แล้ว เพราะ กกต.มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม คงทำเกินนั้นไม่ได้ ซึ่งผู้สมัครก็ต้องระมัดระวัง ทั้งนี้ หาก กกต.ตั้งเวทีกลางก็ต้องดูแลความปลอดภัยเต็มที่และประสานงานกับศูนย์อำนวยการเลือกตั้งทั้งใน กทม.และทุกจังหวัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีองค์กรต่างชาติประสานเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งหรือไม่ เลขาฯ กกต.กล่าวว่า ยังไม่มี ซึ่ง กกต.มีโครงการสังเกตการณ์การการเลือกตั้งระหว่างประเทศ ซึ่งจะเชิญกลุ่มสังเกตการณ์จากต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศด้วย
ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ซึ่งนายประชา ประสพดี เข้ารักษาตัวหลังถูกลอบยิงได้รับบาดเจ็บ มีมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เข้าเยี่ยมอาการ นอกจากนี้ยังมีแกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.กทม. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และน.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เข้าเยี่ยมด้วย
นายสมชายกล่าวภายหลังการเข้าเยี่ยมนายประชาว่า แพทย์ได้ทำการรักษาโดยการนำเอากระสุนบริเวณด้านหลังออกแล้ว ซึ่งอาการก็พ้นขีดอันตราย แต่การบาดเจ็บครั้งนี้ก็ถือว่าสาหัส โดยทางพรรคเพื่อไทยก็จะรอผลการตรวจต่อไปว่าจะมีผลกระทบไปถึงส่วนใดของร่างกายหรือไม่
“ขณะที่อยู่ในห้องพักของนายประชา ผมได้กล่าวขอบคุณนายอภิสิทธิ์ที่ได้เดินทางมาเยี่ยมนายประชาในวันนี้ พร้อมกับฝากให้ทางรัฐบาลไปกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ส่งกำลังมาคุ้มครอง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยในการลงพื้นที่ โดยนายอภิสิทธิ์ก็ยืนยันว่าได้ทำการกำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นก็จะดำเนินการกำชับกับ ผบ.ตร.ให้มากขึ้น”
นายสมชายยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำลายบรรยากาศที่ดีก่อนการเลือกตั้ง และถือว่าเป็นชนวนของความขัดแย้ง เพราะฉะนั้นหากบุคคลใดมีเบาะแสต่อเรื่องนี้ก็ขอให้แจ้งเข้ามา ในตอนนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่อยากจะคาดการณ์ว่าเหตุที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากเรื่องใด ก็คงต้องรอการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมพรรควันนี้จะนำเรื่องนายประชามาหารือกัน ซึ่งทางพรรคอาจจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลผู้สมัครของพรรคที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันรุนแรง เพราะในฐานะนักการเมืองก็ไม่อยากถูกนักการเมืองทำร้ายกัน และทุกพรรคควรส่งคนมาดูแลผู้สมัครของตนเองด้วย ทั้งนี้ เหตุกาณ์ดังกล่าวตนได้พูดคุยกับคนสนิทนายประชาแล้ว เชื่อว่าสาเหตุการถูกทำร้ายน่าจะเป็นการเชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง แต่จะอยู่ระดับใดต้องให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบ
“การทำร้ายนายประชาเป็นการสะท้อนว่าการเลือกตั้งมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง และไม่คำนึงถึงวิธีการที่ได้มาซึ่งอำนาจ ในส่วนการทำหน้าที่ของตำรวจต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ เพราะการดักยิงหน้าห้างถือเป็นเรื่องที่อุจจาดและท้าทายกฎหมาย อยากให้กรณีของนายประชาเป็นกรณีสุดท้ายของการแข่งขันการเลือกตั้ง”
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้มีการพูดคุยกับนายประชาก่อนวันที่เกิดเหตุ นายประชาได้บ่นให้ตนฟังว่า การแข่งขันในเวทีของการเมืองของปากน้ำมีการแข่งขันกันสูง รวมไปถึงมีผู้มีอิทธิพลมากมาย ซึ่งในพื้นที่นี้ถ้าไม่ใช่เงินในการเลือกตั้ง ก็จะมีการลอบทำร้าย เพื่อไม่ให้ผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ โดยเหตุการณ์นี้ถ้าได้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงไปช่วยดูแลผู้สมัครได้อย่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีบอก ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ที่ผ่านมาตนเคยขอไปแต่ก็ถูกปฏิเสธเนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลือกตั้งต่อจากนี้ไปจะมีการต่อสู้ที่ดุเดือดมากขึ้นหรือไม่ นายวิชาญกล่าว่า แน่นอน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกแบ่งออกเป็นเขตเล็กลง ซึ่งทำให้ผู้สมัครแต่ละรายต้องต่อสู้กันมากขึ้น รวมไปถึงการใช้จ่ายเงินในการเลือกตั้งด้วยเศรษฐกิจเช่นนี้ก็ต้องสูงตามไปด้วย
ส่วนที่มีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมาเป็นแคนดิเดตตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอันดับที่ 1 นั้น นายวิชาญกล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบเรื่องนี้ได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ภายในพรรค แต่ตนเชื่อว่าคงจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้
