ผบ.ตร.สั่ง จนท.ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายลอบยิง “ประชา ประสพดี” ส.ส.เพื่อไทยได้รับบาดเจ็บ เร่งตรวจหาวิถีกระสุน คาดคนร้ายยิงจากรถยนต์ ส่วนกระสุนที่ใช้เป็นแบบ .223 ตร.มุ่งประเด็นการเมืองเป็นหลัก มอบ “ภาณุพงศ์-อัศวิน” ดูแลเรื่องมือปืนรับจ้างและสั่งกวาดล้างทันที ระบุเฝ้าจับตาซุ้มมือปืนในอุดรฯ-ราชบุรี-โคราช-สมุทรปราการ
วันนี้ (11 พ.ค.) ที่เมืองทองธานี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่นายประชา ประสพดี อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า หลังเกิดเหตุทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาปลอกกระสุนและวิถีกระสุนของคนร้าย แต่เบื้องต้นไม่พบปลอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุด้วยการยิงมาจากในรถยนต์ ทำให้ปลอกกระสุนอาจจะตกอยู่ในรถยนต์ของคนร้าย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไปที่นายประชาที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้ทราบว่าหัวกระสุนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นขนาด .223
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นการก่อเหตุในครั้งนี้มาจากปัญหาทางการเมืองใช่หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งไปที่ประเด็นทางการเมืองเป็นหลัก ซึ่งหลังเกิดเหตุทางนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ ตร.เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้สมัครทุกพรรค ทำให้ในวันนี้จะมีการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง โดยจะมอบหมายให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลเรื่องกลุ่มมือปืนรับจ้างในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งหลังการประชุมในวันนี้ก็จะมีการเริ่มกวาดล้างกลุ่มมือปืนรับจ้างในทุกพื้นที่ทันที
เมื่อถามอีกว่าจะมีการดำเนินการกับซุ้มมือปืนในแต่ละจังหวัดอย่างไร พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการติดตามตรวจสอบในทุกจังหวัดว่า พื้นที่ใดมีกลุ่มมือปืนที่มีหมายจับติดตัวและยังไม่มีหมายจับอยู่ในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเข้าไปดำเนินการจับกุมในทันที ประกอบกับขณะนี้พรรคการเมืองแต่ละพรรคเริ่มมีการเปิดตัวผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ ทำให้การตรวจสอบในเรื่องนี้มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งถ้าพื้นที่ใดมีความขัดแย้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการเรียกคู่กรณีมาพูดคุยและเจรจากันก่อนที่จะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ส่วนพื้นที่ที่มีการจับตาและเฝ้าดูอยู่ในขณะนี้ประกอบด้วย จ.อุดรธานี จ.ราชบุรี จ.นครราชสีมา และ จ.สมุทรปราการ โดยจะมีการสั่งการให้ผู้บังคับการแต่ละจังหวัดเฝ้าติดตามอย่างเข้มงวด
นายกฯ-ส.ส.เพื่อไทย เยี่ยมอาการ
ต่อมาเวลา 11.00 น.ที่โรงพยาบาลพระราม 9 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย และ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการ นายประชา ประสพดี ภายหลังได้ย้ายจากโรงพยาบาลบางประกอก 1 มาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ชั้น 15 ห้อง 1518 โดยทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้ช่างภาพ-ผู้สื่อข่าว เข้าไปบันทึกภาพทำข่าวการเยี่ยมอาการของนายประชา เนื่องจากทางแพทย์ต้องการให้พักผ่อน และเพื่อความปลอดภัยระหว่างที่คนไข้กำลังพักฟื้น ทำให้บรรดาผู้สื่อข่าวสื่อมวลชนต้องยืนคอยที่หน้าประตูทางเข้าแทน
หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการ นายประชา ด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที พร้อมกล่าวกับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า นายประชา ปลอดภัยดีอาการดีขึ้นแล้ว ก่อนเดินทางกลับไป
"สมชาย"เชื่อยิงประชา กระทบหาเสียง
ด้านนายสมชาย กล่าวว่า หลังจากนายประชา ย้ายมาจากโรงพยาบาลบางประกอก 1 พวกตนจึงเข้ามาเยี่ยมและถามเรื่องอาการบาดเจ็บ โดย นายประชา ยังมีอาการอ่อนเพลีย แต่ก็พอที่จะพูดคุยกันได้ ทั้งนี้จากการสอบถามเรื่องราวทั้งหมด จากเจ้าตัวก็ทำให้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายประชา ได้เดินทางไปร่วมงานศพ จากนั้นก็ได้ขับรถกลับบ้าน โดยที่ไม่มีคนติดตามไปด้วย เนื่องจากเจ้าตัวไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใครหรือมีศัตรูที่ไหน เวลาไปไหนมาไหน ก็มักจะไปคนเดียว แต่ระหว่างที่กำลังขับรถกลับบ้านนั้น นายประชา ก็สังเกตเห็นว่า มีรถขับมาประกบด้านข้าง และได้ยินเสียงดังคล้ายปืน แต่นายประชา ไม่คิดว่าจะเป็นตัวเองที่ถูกยิง แต่เพื่อความปลอดภัย นายประชา จึงก้มหัวลง หลังจากนั้นก็รู้สึกเจ็บที่บริเวณไหล่ข้างซ้าย และแผ่นหลัง เมื่อเอามือคลำดูจึงรู้ว่าถูกยิง
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องอาการของนายประชานั้น ขณะนี้ก็อาการดีขึ้น รู้สึกตัวดี พ้นขีดอันตรายแล้ว พูดคุยได้แต่น้ำเสียงแผ่วเบา มีเพียงอาการบาดเจ็บแผลที่ไหล่และแผ่นหลังเท่านั้น โดยรวมไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งตนก็ขอขอบคุณนายกฯ ที่มาเยี่ยมนายประชาด้วย พร้อมทั้งฝากกับท่านนายกเรื่องความเข้มงวดดูแลเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งรวมถึงผู้สมัคร ส.ส.ด้วย โดยท่านนายกฯ ก็รับปากจะดูแลให้ พร้อมทั้งยังบอกด้วยว่า ได้กำชับไปก่อนหน้าแล้ว และเมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นท่านายกฯ ก็รู้สึกเสียใจ และรับปากจะดูแลเรื่องนี้เป็นอย่างดีโดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดขึ้น
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนคิดว่าน่าจะกระทบกับบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง จึงวิงวอนทุกฝ่ายขอความกรุณาหาเสียงอย่างสงบ อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ตนเห็นว่าบ้านเมืองคงไม่สงบสุขถ้าต่างฝ่ายต่างจ้องเอาชีวิตกัน น่าจะเข้าสู่การปรองดองกันดีกว่า หลังจากนี้สำหรับผู้สมัคร ส.ส.คงต้องระมัดระวังตัวกันมากขึ้น
แพทย์สั่งนอน รพ.1-2 วัน
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น.วันเดียวกัน นพ.อาทิตย์ เจียรนัยศิลาวงศ์ จักษุแพทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และ นพ.วิทวัศ ศรีประยูร นายแพทย์เจ้าของไข้ ได้แถลงถึงความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของนายประชา โดย นพ.วิทวัศ กล่าวว่า นายประชา มีบาดแผลที่ไหล่ซ้าย โดยบาดแผลได้รับการรักษามาจากโรงพยาบาลบางประกอก 1 มาแล้ว ด้วยการเย็บแผลมาให้ยาวประมาณ 3 ซม. โดยอาการไม่น่าเป็นห่วง ส่วนบาดแผลที่อื่นนั้นมีเพียงสะเก็ดแผลที่แผ่นหลังประมาณเกือบ 10 จุด แต่เป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น ไม่น่าเป็นห่วงเช่นกัน นอกจากนี้บาดแผลก็ไม่มีกระสุนขนาดใหญ่ค้างอยู่ มีเพียงเศษโลหะติดอยู่ที่แผลบนแผ่นหลังเท่านั้น อาการโดยรวมถือว่าปลอดภัยดี แต่ทางแพทย์ขอให้นอนพักรักษาตัวอีกซัก 1-2 วัน เพื่อดูอาการ ส่วนคนไข้สามารถพูดจาโต้ตอบได้ แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียจากฤทธิ์ยาอยู่
นพ.วิทวัศ กล่าวต่อว่า ท่านนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ช่วยดูแลคนไข้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงเรื่องรักษาความปลอดภัย ซึ่งโรงพยาบาลก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยอำนวยความสะดวก และคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยของคนไข้อย่างเต็มที่ ซึ่งขวัญกำลังใจของคนไข้ก็ดี แต่อยากให้งดเรื่องการเข้าเยี่ยม เนื่องจากต้องการให้คนไข้พักผ่อนมากๆ และเพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง
"อัศวิน"สั่งตรวจสอบวงจรปิดเส้นทางหนี
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ 10 รักษาการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยถึงแนวทางการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุยิง นายประชา ประสพดี ว่าแนวทางการติดตามตัวคนร้ายนั้น ขณะนี้ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด CCTV บริเวณตามรายทาง เพื่อดูว่า คนร้ายใช้เส้นทางและยานพาหนะชนิดใดในการหลบหนี ส่วนลักษณะการยิงของคนร้ายนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มใด บอกได้แต่เพียงว่า คนร้ายมีความชำนาญในการใช้อาวุธชนิดนี้ สำหรับประเด็นในการก่อเหตุนั้นจากการที่ได้มีการพูดคุยกับ นายประชา เชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากการขัดแย้งกันระหว่างการเมืองในท้องถิ่นมากกว่า
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ยังกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่า เป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจ ภายหลังจากที่มีการประกาศยุบสภา โดยหลังจากนี้จะมีการติดตามสืบหาข่าว และตั้งด่านตรวจความมั่นคง ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น
