“จำลอง” ยัน “สนธิ” คบได้ วอนอย่าหลงเชื่อขบวนการบั่นทอนการชุมนุม พิสูจน์วาจา “ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง” ฝ่าอาวุธสงคราม เจ๊งมาก็เยอะแต่ไม่เอ่ยปากให้ใครทราบ ชี้หาก “สนธิ” ไม่ดีจริง พิธีกรเอเอสทีวีคงหนีไปหมดแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องรวมชุมนุมยาวนานด้วยใจเด็ดเดี่ยวเพื่อชาติ ยอมเสี่ยงภัยเป็นไงเป็นกัน หวังกลมเกลียวเหนียวแน่นจนถึงวันประชุมคณะกรรมการมรดกโลก
วันที่ 8 พ.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เรามาทำหน้าที่ใช้หนี้แผ่นดินและมาทำบุญ เราชุมนุมด้วยวิธี ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริง ออกมาให้มากๆ หมดๆ เราชุมนุมกันมา 104 วันแล้ว ปรบมือให้ตัวเองหน่อย เรามาชุมนุมที่นี่ไม่ว่าจะเป็นคนที่เช้าไปเย็นกลับหรืออยู่ประจำ เราอยู่กันเหมือนพี่น้อง ไม่ว่าด้วยการออกแรง เขาของเอาเงินมาบริจาค ถึงได้อยู่ได้อย่างไม่อัตคัตขัดสน การชุมนุมของเราหากมีอะไรจะปรับให้ดีขึ้นเราก็ทำไม่เคยหยุดนิ่ง เห็นได้จากนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้บอกกับพวกเราว่าจากนี้จะไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดคำผวน ไม่บัญญัติคำศัพท์ใหม่ และจะไม่ว่าคนอื่นอย่างรุนแรง
ต้องยอมรับว่านายสนธิเป็นผู้มีบทบาทมากคนหนึ่งของการชุมนุม เมื่อการชุมนุมของเราได้ผล แน่นอนฝ่ายตรงข้ามย้อมต้องการบั่นทอนการชุมนุมชองเรา หาเรื่องใส่ร้าย ทำให้อะไรๆ ก็ไปลงที่เถ้าแก่หมดเลย หากเราไม่รู้ว่าคำใส่ร้ายเป็นเท็จหรือไม่ มีเหตุการที่เราสามารถวิเคราะห์ได้ นายสนธิเคยประกาศนานแล้วบนเวทีว่า ในอดีตเคยทำผิดมาบ้างแต่จะไม่ทำอีก จะเสียสละเพื่อสังคมบ้านเมือง ถึงขนาดพูด “ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง” ไอ้ตายเป็นตายก็เกือบตาย ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามในระยะเผาคนแต่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ส่วนเจ๊งเป็นเจ๊ง ก็เจ๊งมาเยอะแล้วโดยไม่เอ่ยปากให้ใครทราบ ประการที่ 2 หาก นายสนธิไม่ดี คนที่เป็นพิธีกรเอเอสทีวีคงหนีไปหมดแล้ว แต่ทำไมกัดฟันสู้อยู่ได้ ทั้งที่ทำงานบางเดือนเงินออกไม่ตรงเวลา ทั้งนี้เป็นเพราะเขามั่นในอุดมการณ์ เขารู้ว่าผู้ร่วมงานของเขาเป็นคนดี ทำเพื่อส่วนรวม เขาถึงอยู่ เป็นคนมีน้ำใจ ก็ดูได้อย่างกายกรรมกวางเจา นายสนธิรู้ว่าเขามีความทุกข์ก็ยื่นมือไปช่วย
“พวกเราชาวสันติอโศก กลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ช่วยนายสนธิด้วยการขายปุ๋ยอินทรีย์ แล้วยกกำไรทั้งหมดให้เอเอสทีวี ช่วงที่ขายได้ 4 เดือน นายสนธิก็มาติดต่อว่าอยากบริจาคเงินกำไรส่วนหนึ่งให้สันติอโศก แต่สนธิโชคไม่ดี เพราะสันติอโศกเป็นวัดที่แปลกมาก หากใครไปวัดไม่ครบ 7 ครั้งห้ามบริจาคเงิน ทั้งนี้หากนายสนธิไปครบ 7 ครั้งก็ตายพอดีเพราะอยู่ในช่วงการตามล่าอย่างไม่หยุดหย่อน ก็เลยทำให้นายสนธิไปบริจาคเข้ามูลนิธิองค์กรสาธารณกุศล ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนน้อยที่แสดงให้เห็นว่านายสนธิเป็นคนที่คบได้”
พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า เรามาชุมนุมที่นี่เมื่อปี 49 จำนวน 33 วัน ปี 51 จำนวน 193 วัน และครั้งนี้ 104 รวมแล้ว 330 วัน เกือบปีเข้าไปแล้ว ไม่มีการชุมนุมที่ไหนในโลกจะปักหลักพักค้างยาวนานได้เท่าเรา เราไม่ได้ชุมนุมเพื่อเรื่องส่วนตัว เราทำเพื่อชาติบ้านเมืองจริงๆ พี่น้องที่นี่ได้ตัดสินใจแล้วยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยง เป็นไงเป็นกัน เรารู้ตัวออกจากบ้านมารัฐบาลอาจเอากฎหมายข้อไหนมาจัดการเราก็ได้ แต่เราก็ไม่กลัวเพราะเอาบ้านเมืองเป็นใหญ่ ที่จริงรัฐบาลเขาสามารถสลายเราได้ตั้งแต่วันแรกที่ชุมนุม แต่ที่เขาไม่ทำเพราะเขาต้องคิดหนัก มีจดหมายหลายฉบับส่งมาถึงตนว่า ครั้งนี้มาไม่ได้ แต่จ้องไว้แล้วหากรัฐบาลเป่านกหวีดเมื่อไหร่มาทันที
พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ตอนเราออกมาชุมนุม 25 มกราคม 2554 นายสนธิ พูดเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของบ้านเมือง จึงได้ลดบทบาทแกนนำลง แล้วแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทยขึ้นมา มาครั้งนี้ ตนเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทยว่า ผู้ที่มาชุมนุมล้วนแล้วแต่เป็นผู้ป้องกันราชอาณาจักร ควรทำเกียรติบัตรให้ ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย ได้มอบหมายให้ตนเป็นคนมอบให้พี่น้อง ซึ่งคาดว่าพี่น้องที่นั่งอยู่ที่นี้คงได้รับกันหมดแล้ว โอกาสดีๆ อย่างนี้ เมื่อเราไม่ได้เป็นทหาร ตำรวจในเครื่องแบบที่จะได้ออกมาปกป้องราชอาณาจักรไทย คราวหน้าคงไม่มี ถือว่าเป็นโชคดีของเรา น่าเสียดายอย่างยิ่งหากคนมาใดไม่มา สุดท้ายพวกเราแกนนำพันธมิตรฯ และคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ขอขอบคุณทุกท่าน ไม่ว่าที่นั่งอยู่ตรงนี้และที่บ้าน มาช่วยออกแรง เอาของเอาเงินมาบริจาค และคิดว่าพวกเราจะกลมเกลียวเหนียวแน่นอย่างนี้ จนถึงสิ้นเดือนหน้าเมื่อมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก