“ประพันธ์” ตั้งข้อสงสัย “แม่ศิริโชค” โดนจับคาสนามบิน อาจเป็นพวกเดียวกันกระทืบกันเอง เนื่องจากไม่ถูกกับ “สุเทพ” พร้อมเตือน “คนหัวล้าน เคราแพะ” อย่าใส่ร้ายพันธมิตรฯ ไม่อย่างนั้นจะแฉ ชี้ไม่ใช่คนโปร่งใสสมัยพฤษภาทมิฬเป็นหนึ่งในกรรมการสมาพันธ์ประชาธิปไตย ที่ดูแลเงินบริจาคจนหายไป 30-40 ล้านบาท ยันเงินบริจาคพันธมิตรฯชัดเจนตรวจสอบในเว็บไซต์ได้ตลอด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายประพันธ์ คูณมี”
วันนี้ (7 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย ปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ว่า การชุมนุมของพวกเราวันนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ดี ๆ มากมายหลายเรื่อง นักการเมืองถูกความจริงไล่ล่า เหมือนอย่างนายอภิสิทธิ์ สิ่งที่โกหกประชาชนเอาไว้ถูกกรรมตามสนองอย่างที่เห็นทุกวันนี้
สุดท้ายเห็นข่าวแล้วใช่หรือไม่ เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม น.ส.เสาวรส โสภา เพราะไปกู้เงินจากนายมนตรี สิหนาทกถากุล เจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์ค 15 ล้านบาท แล้วยังไปเซ็นเช็คสั่งจ่ายให้เขา ทั้งๆ ที่เป็นบุคคลที่ศาลสั่งล้มละลายมานานแล้ว ถ้าคุณมนตรีดูรายการ ASTV ก็จะไม่ถูกหลอก เพราะตนได้พูดมานานแล้วว่าครอบครัวนี้ล้มละลายเป็นหนี้มากมาย
คนล้มละลายจะทำนิติกรรมอะไรไม่ได้ แต่นี่ล้มละลายแล้วไปเซ็นเช็คแถมยังเด้งอีกต่างหาก เลยโดนจับ นี่คือกรรมตามสนอง พอโดนจับก็โวยวายกับตำรวจว่าเป็นแม่ของนายศิริโชค โสภา ตำรวจไม่กลัวหรอก เพราะตำรวจรู้ทิศทางลม คราวหน้าจะได้กลับมาเป็น ส.ส.หรือเปล่าก็ไม่รู้ ขนาดนายศิริโชคระบุในคำฟ้องว่าเป็นเลขานุการส่วนตัวของนายกฯที่ชื่ออภิสิทธิ์ ตำรวจยังไม่เกรงใจแม่เลขานุการนายกฯเลย แสดงว่ารู้ว่าทั้ง 2 คนนี้ ไม่มีโอกาสกลับมาแล้ว เลยไม่กลัว
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า แต่ความจริงมีเบื้องหลังมากกว่านี้ คือนายสุเทพไม่ถูกกับนายศิริโชค ตอนแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ก็มีโผสุเทพอันนึง ของศิริโชคอันนึง จึงมีข่าวว่าตำรวจเสียตังค์วิ่งเต้นกันมากมายผ่าน 2 ช่องทางนี้
ที่โดนจับคราวนี้น่าจะเป็นพวกเดียวกันกระทืบกันเอง ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์ค เกี่ยวดองกับนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เนื่องจากลูกนายนิพนธ์ กับลูกเจ้าของแลนด์มาร์คเพิ่งแต่งงานกัน และน้องสาวนายนิพนธ์ ก็เป็นภรรยานายสุเทพ มันก็น่าจะอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ถ้านายศิริโชคอยากเคลียร์หนี้ ก็น่าจะคุยกับนายสุเทพ หรือนายนิพนธ์ ได้ แต่ทำไมเคลียร์ไม่ได้จนโดนจับคาสนามบินดอนเมือง แสดงว่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หรือพวกเดียวกันกระทืบกันเองซะแล้ว
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า เราสู้ เรายืนอยู่บนความถูกต้อง ใครใส่ร้ายอย่างไรก็ตามไม่ต้องหวั่นไหว เพราะเรายืนอยู่บนความจริง ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย มีแต่คนโกหกทรยศประชาชนเท่านั้นที่จะตายไปในที่สุด
เวลานี้ขบวนการของคนในประชาธิปัตย์พยายามใส่ร้ายเวทีพันธมิตรฯ ที่ใส่ร้ายว่าสนธิรับเงินทักษิณนั้น ใส่ร้ายมาตั้งแต่เวทีเพิ่งเริ่มตั้งยังไม่รณรงค์โหวตโนเลย คนปล่อยข่าวก็คือคนที่มีชื่อนำหน้าว่าหม่อมราชวงศ์ ลูกชายเป็น ส.ส.อยู่ประชาธิปัตย์ ตัวเขาเองได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ที่นิด้า คนคนนี้ไปพูดว่าสนธิไปรับเงินทักษิณตั้งแต่เปิดเวทีวันที่ 25 มกราคม พูดกับคณาจารย์ที่นิด้า และในร้านอาหาร นี่คือพฤติกรรมของประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกลุ่มของนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ ใส่ร้ายเรามาตลอดแต่ไม่สำเร็จ ข่าวนี้เป็นเรื่องเก่า แล้วพอมารณรงค์โหวตโน ก็ปลุกกระแสนี้ขึ้นมาอีก นี่คือสันดานนักการเมือง
“เหมือนคนบางคนที่หัวล้าน มีหนวดเครา เวลานี้ไปโจมตีว่าพี่น้องพันธมิตรฯ รับเงินบริจาคอย่างนั้นอย่างนี้ พรรคการเมืองบริจาค สนธิบริจาค 2-3 ล้าน เอาเงินมาจากไหน ใครเป็นคนรับ ทำอย่างกับว่าตัวเองโปร่งใส จำไว้นะถ้าแหลมมาจะแฉ จำได้สมัยชุมนุมพฤษภาทมิฬ 2553 ประชาชนบริจาคให้มากมายเพื่อขับไล่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร หลังจากชุมนุมมีเงินเหลือประมาณ 30-50 ล้าน แล้วก็มีการจัดคอนเสิร์ตให้คนบริจาคเงินเพื่อเอาเงินไปดูแลคนที่ถูกปราบปราม และคนดูแลเงินคือสมาพันธ์ประชาธิปไตย คณะกรรมการสมาพันธ์ฯมีหมอเหวง ประทีป อึ้งทรงธรรม หมอสันต์ และนายเคราแพะก็เป็นกรรมการอยู่ด้วย สมาพันธ์ประชาธิปไตยยังไม่สามารถแจงได้เลยจนถึงวันนี้ ว่าเงินที่หายไป 30-40 ล้านในครั้งนั้นเอาไปทำอะไร เงินอัตรธานหายไปเลย เพราะฉะนั้นอย่าได้แหลมมา เพราะเราสู้มาตลอดมีบัญชีเปิดเผยชัดเจน เข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ เราไม่เคยหวั่นไหวในเรื่องนี้” โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรฯ กล่าว
นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า ประเด็นที่หาว่าโหวตโนจะให้ทักษิณกลับมาหรือ ต้องขอถามประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ว่า ใครเป็นคนไล่ทักษิณและถูกดำเนินคดีจนถูกศาลพิพากษาจำคุกถ้าไม่ใช่พันธมิตรฯ คำถามคือวันนี้เป็นรัฐบาลมีอำนาจอยู่ในมือ การลากคอทักษิณมาลงโทษเป็นหน้าที่ของใคร ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ต้องไปเอาตัวมาลงโทษตามกฎหมายไม่ใช่กลัวเขากลับมา
ที่สำคัญปัญหาทักษิณกลับมาหรือไม่กลับมา มันคนละเรื่องกับโหวตโน มันขึ้นอยู่กับขื่อแปรบ้านเมือง ไม่ใช่ผลเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นเวลานี้พรรคประชาธิปัตย์พยายามหาเสียงกับการปลุกผีทักษิณ วิธีการแบบนี้ประชาธิปัตย์เป็นมาตลอด
นายประพันธ์กล่าวอีกว่า มีครั้งไหนบ้างที่ประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งจากความชื่นชอบของประชาชน ไม่เคยชนะเลือกตั้งโดยได้เสียงข้างมากเลย ส่วนใหญ่แล้วได้เป็นรัฐบาลเพราะได้กินบุญจากการที่รัฐบาลเก่าโดนไล่ออกเท่านั้น แล้วยังจะอยากกลับมาเป็นนายกฯอีก หาเสียงด้วยการให้ประชาชนกลัวทักษิณ กลัวเสื้อแดง พวกเราไม่กลัว สู้มาหลายครั้งแล้ว รู้ทางหมดแล้ว
คำต่อคำ
สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ พบกันอีกครั้ง เมื่อสักครู่ขึ้นมาร่วมกับพี่น้องชาวขอนแก่นที่ระดมเงินรายได้จากการจัดงานที่ขอนแก่น มามอบให้กับเวทีที่นี่
พี่น้องที่เคารพรักครับ การชุมนุมของพวกเรามาถึงโค้งที่สำคัญ และสถานการณ์ ณ ขณะนี้ ความเป็นจริงของบ้านเมืองเริ่มปรากฏชัดขึ้นโดยลำดับ ความเป็นจริงของนักการเมือง และนักการเมืองแต่ละพวก แต่ละกลุ่ม แต่ละพรรค ชัดเจนขึ้นโดยลำดับ รวมทั้งความเป็นจริงของคนที่เคยห้อยโหนอยู่กับพวกเรา ก็ชัดเจนขึ้นโดยลำดับว่า วันนี้ยืนอยู่บนจุดยืนของการที่จะร่วมกับประชาชน หรือทรยศพี่น้องประชาชน ทุกอย่างวันนี้ผมคิดว่าใครเป็นอย่างไรคงเผยตัวตนออกมาให้พี่น้องประชาชนได้เห็นหมดแล้ว การชุมนุมของพวกเรา ณ ที่นี้ ได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ดีๆ มากมายหลายเรื่อง ที่สำคัญคือ ได้ทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศมีโอกาสเรียนรู้ทางการเมือง และทำความเข้าใจปัญหาของชาติบ้านเมืองร่วมกัน โดยมีเวทีมัฆวาน และถนนราชดำเนิน เป็นมหาวิทยาลัยของประชาชนครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งใช่ไหมครับพี่น้อง ทุกเรื่อง ทุกปัญหา ทุกข้อสงสัย ใครเป็นอะไร ทำอะไรไว้กับชาติบ้านเมือง ในสถานการณ์ยามนี้ พวกเราได้มาพูด มาตีแผ่ นำเสนอข้อเท็จจริงกับพี่น้องประชาชนอย่างหมดเปลือก และเวทีนี้เอาความจริงมาพูดกับพี่น้องประชาชนทั้งนั้น คนที่ไม่อยู่กับความเป็นจริง ไม่เคารพความเป็นจริง ท้ายที่สุดต้องถูกความจริงไล่ล่าและไล่ฆ่าจนได้ใช่ไหมครับพี่น้อง
เหมือนอย่างวันนี้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เขาถูกความจริงไล่ล่า ความจริงไล่ฆ่า และสิ่งที่โกหกหลอกลวงประชาชนเอาไว้ กรรมตามสนองและไล่ล่าเขา อย่างที่พี่น้องได้เห็นอยู่ในขณะนี้ นักการเมืองที่ไม่ซื่อสัตย์ ไม่ซื่อตรงต่อพี่น้องประชาชน ไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาสัจจะวาจา ท้ายที่สุดแล้วผมเชื่อแน่ว่า ไม่มีใครรอดกงล้อประวัติศาสตร์ประชาชนที่จะบดขยี้ลงไปอย่างแน่นอนครับ
วันนี้ผมเห็นมีข่าวหนึ่ง ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังถูกความจริงไล่ล่า ไล่ฆ่า บดขยี้ ว่านักการเมืองที่ไม่อยู่กับความซื่อสัตย์ อยู่กับความจริงนั้น ท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร พี่น้องคงรู้ข่าวและเห็นข่าวแล้วใช่ไหมครับว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจู่โจมจับ นางเสาวรส โสภา แม่ของนายศิริโชค โสภา ที่สนามบินดอนเมือง ข้อหาฉ้อโกง และความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ก ความผิดตาม พ.ร.บ.การใช้เช็ก เพราะไปกู้ยืมเงินจากนายมนตรี เจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์ค 15 ล้าน แล้วยังอุตริไปเซ็นเช็กสั่งจ่ายให้เขา ทั้งๆ ที่ตัวเองถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์และพิพากษ์ให้เป็นบุคคลล้มละลายไปตั้งนานแล้ว นี่ถ้าคุณมนตรีฟังเวทีที่นี่ปราศรัย ดู ASTV ก็คงไม่โดนหลอกโดนต้ม เพราะผมพูดมานานแล้วว่าครอบครัวนี้ล้มละลายและเป็นหนี้กี่หมื่นกี่พันล้าน คนล้มละลายจะทำนิติกรรม เซ็นเช็กสั่งจ่ายอีกไม่ได้ ทำนิติกรรมใดๆ ไม่ได้ เดินทางออกนอกประเทศก็ไม่ได้ จะกู้ยืมเงินใครก็ไม่ได้ แต่นี้ล้มละลายแล้วยังเซ็นเช็กกู้ยืมเงินคนอื่นเขาแล้วไม่บอกความจริงให้เขาทราบว่าตัวเองเป็นบุคคลล้มละลาย แถมเช็กติดสปริง เช็กเด้งอีกต่างหาก เลยโดนฟ้องออกหมายจับ แล้วก็โดนจับ นี่กรรมตามสนองไหมครับ พอโดนจับก็ทำเป็นโวยวายกับตำรวจว่าเป็นแม่ของนายศิริโชค โสภา นึกว่าตำรวจจะกลัว ความจริงถ้าโวยวายว่าเป็นแม่ยายผู้นำประเทศ ตำรวจอาจจะกลัว นี่ไปโวยวายว่าเป็นแม่นายศิริโชค โสภา เอ๊ะศิริโชค โสภา เขาจะกลัวอะไรเพราะไม่รู้เลือกตั้งคราวหน้าจะได้เป็น ส.ส.กลับมารึเปล่ายังไม่รู้เลย ความจริงแล้วตำรวจคงรู้แล้วทิศทางลมว่าเป็นอย่างไร เพราะนายศิริโชค โสภา เขาระบุ อ้างมาในคำฟ้องว่าเขาเป็นเลขานุการส่วนตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นเลขานุการส่วนตัวนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตำรวจยังไม่เกรงใจแม่เลขานุการส่วนตัวนายกฯ เลยครับ แสดงว่าตำรวจรู้แล้วว่า ทั้งศิริโชค ทั้งอภิสิทธิ์ คงไม่มีโอกาสกลับมาอีกแล้ว ตำรวจเลยไม่กลัว
แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้มีเบื้องหลังเบื้องลึกมากกว่านั้น รู้ไหมครับ ความจริงแล้วศิริโชค โสภา กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เขาไม่ค่อยถูกกัน ตอนที่มีข่าวแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ เห็นไหมครับโผของสุเทพโผหนึ่ง โผของศิริโชคโผหนึ่ง ศิริโชคอาศัยอำนาจอิงแอบอยู่กับนายกฯ ว่าเป็นเลขานายกฯ มีการจัดโผเหมือนกัน มีนายตำรวจหลายคนวิ่งเต้นเพื่อให้ได้ตำแหน่งผ่าน 2 ช่องทางนี้ และเป็นที่มาข่าวฉาวโฉ่ว่า ตำรวจหลายคนเสียเงินเสียทองแล้วไม่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายตามตำแหน่งที่วิ่งเต้น และเรื่องฉาวโฉ่อีกเรื่องคือ เรื่องที่จ่าเพียรต้องเสียชีวิตเพราะไม่ถูกโยกย้ายจากพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ แล้วโดนระเบิดเสียชีวิต นั่นมีสาเหตุมาจากจ่าเพียรขอโยกย้ายแล้วไม่ได้รับการพิจารณา ทั้งๆ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่รับปากแล้ว แต่เรื่องนี้ยังไม่สำคัญขนาดนั้น
ที่ผมหยิบยกว่าสุเทพกับศิริโชคเขาไม่ค่อยถูกกันเพราะปีนเกลียวกันนั้น ผมกำลังจะชี้ให้พี่น้องเห็นว่า ที่โดนจับคราวนี้น่าจะเป็นพวกเดียวกันกระทืบกันเองครับ กระทืบกันเองตรงไหน ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์คกับคุณนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เขาเกี่ยวดองกัน เพราะลูกคุณนิพนธ์กับลูกเจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์คเพิ่งแต่งงานกัน เกี่ยวดองเป็นญาติกันด้วยเหตุนี้ และน้องสาวนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เป็นภรรยาของสุเทพ เทือกสุบรรณ สุเทพ เทือกสุบรรณ นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์ค ก็น่าจะอยู่สนเครือข่ายเดียวกัน พวกเดียวกัน ถ้าหากว่าศิริโชคอยากจะเคลียร์หนี้กับเจ้าของโรงแรมแลนด์มาร์คก็น่าจะคุยกับนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ คุยกับสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ ทำไมคุยกันไม่ได้ ถึงต้องโดนจับคาสนามบินดอนเมือง แสดงว่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หรือพวกเดียวกันกระทืบกันเอง เสียแล้วครับพี่น้อง นี่มันมีที่มาที่ไปอย่างนี้
ผมเลยเอามาเล่าให้ฟังว่า คนเราเห็นหรือยังครับ เมื่อไม่อยู่กับความจริง เดี๋ยวผมจะพูดให้ฟังต่อไปว่า นักการเมืองที่ไม่ดี หรือดี เป็นอย่างไร และนักการเมืองที่เอาคนแบบนี้มาอยู่ใกล้ตัวนั้น จะนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่หายนะอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่จะมาคุยกับพี่น้องในโอกาสต่อไป แต่เกริ่นนำให้พี่น้องเห็นว่า เราสู้ เรายืนอยู่บนความถูกต้อง อยู่บนความจริง ใครจะใส่ร้ายป้ายสีอย่างไรก็ตามเราไม่ต้องหวั่นไหว เพราะเรายืนอยู่กับสัจจะธรรมและความจริง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย มีแต่คนโกหก ทรยศประชาชนเท่านั้นที่จะถูกประชาชนลงโทษ ลงทัณฑ์ และตายไปในทางการเมือง ตายไปในความเป็นจริงในที่สุดครับ
เมื่อกี้คุณสนธิพูดถึงเรื่องที่มีคนใส่ร้ายพวกเรา ผมถือโอกาสเพิ่มเติมให้ดีกว่าเดี๋ยวผมจะลืม คือขณะนี้ ขบวนการของคนในพรรคประชาธิปัตย์ พยายามจะใส่ร้ายพวกเราและเวทีนี้ เมื่อวานนี้ผมพูดไปแล้วเรื่องพยายามจะกล่าวหาว่า สนธิรับเงินทักษิณมารณรงค์โหวตโน การชุมนุมครั้งนี้ความจริงมันใส่ร้ายเราว่ารับเงินทักษิณตั้งแต่เราชุมนุม ตั้งแต่เริ่มตั้งเวทีนี้ยังไม่รณรงค์โหวตโนด้วยซ้ำครับ และคนที่พูดคำนี้ ปล่อยข่าวเรื่องนี้ก็คือใครครับ คือคนๆ หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ และมีชื่อนำหน้าว่า ม.ร.ว.นั่นแหละครับ ลูกชายเป็น ส.ส.อยู่พรรคประชาธิปัตย์ ตัวเขาเองได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิติมศักดิ์ ที่สถาบันนิด้า ความจริงผมมีรู้ด้วยนะแต่ผมไม่อยากเอาขึ้นมาโชว์ เพราะถ่ายอยู่เบื้องพระพักตร์สมเด็จพระเทพฯ ไม่บังควรที่จะเอามาโชว์ให้พี่น้องดู คนพวกนี้ไปพูดว่า สนธิรับเงินทักษิณมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ ตั้งแต่เราเริ่มเปิดเวทีนี้ ตั้งแต่ 25 ม.ค.เขาพยายามปล่อยข่าวเรื่องนี้ทำลายพวกเรามาตั้งแต่นู้น โดยไปพูดกับคณาจารย์ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ว่าไปฟังอะไรสนธิรับเงินทักษิณมาเคลื่อนไหว แล้วไปทานอาหารอิตาเลียนที่ร้านคุณแป๊ว ก็พูดแบบเดียวกันนี้กับคนในร้านและพูดกับคุณแป๊ว ไปช่วยทำไมสนธิ สนธิรับเงินทักษิณมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ ใส่ร้ายเรามาตั้งแต่ยังไม่รณรงค์โหวตโน นี่คือพฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกลุ่มปีกของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกลุ่มของนายสุเทพ นายสุเทพไปพูดที่ชุมพรก็ใส่ร้ายพวกเราว่า ทั้งเหลืองทั้งแดงเป็นตัวป่วนบ้านเมืองทั้งนั้น จงเกลียดจงชังพวกเราและใส่ร้ายมาโดยตลอด แต่ไม่สำเร็จครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเก่า แล้ววันนี้พอเรารณรงค์โหวตโน ก็พยายามจะปลุกเรื่องนี้ขึ้นมาอีก โดยเอาเรื่องมิสเตอร์เอสเดินทางไปฮ่องกงพร้อมมีคุณหญิงคนหนึ่ง ภรรยาอดีตผู้นำนั่งอยู่ในเครื่องบินไปด้วย พยายาม สร้างเป็นข่าวว่า เหมือนกับว่าสนธิไปรับเงิน โธ่ เวลาเราสู้กับทักษิณ ทักษิณก็หาว่าเรารับเงินพรรคประชาธิปัตย์มาล้มทักษิณ เวลาเราไล่ประชาธิปัตย์ก็บอกว่าเรารับเงินทักษิณมาไล่ประชาธิปัตย์ มันเลวทั้ง 2 ฝ่ายเลยครับ เห็นไหมครับ นี่คือสันดานของนักการเมือง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมบอกไปแล้วว่า ถ้าคุณแน่จริงเอาหลักฐานมาตีแผ่ มาฆ่าคุณสนธิ มาฆ่าพี่น้องประชาชน ถ้าเอามาตีแผ่ สนธิรับมาไม่แบ่งประพันธ์ สนธิก็ตายเอง เป็นไปไม่ได้ ถ้าสนธิงุบงิบรับคนเดียว พี่น้องประชาชนจะเอาหรอครับ
เหมือนกับคนบางคนที่หัวล้าน มีหนวดเครา ผมจะบอกให้ เวลานี้ไปโจมตีบอกว่า พี่น้องพันธมิตรฯ รับเงินบริจาค พรรคการเมืองบริจาค สนธิบริจาคให้ 2-3 ล้าน เอามาจากไหน ใครเป็นคนรับ ตั้งกรรมการสอบ ทำตัวอย่างกับตัวเองโปร่งใสครับพี่น้อง คุณจำไว้นะ ถ้าคุณแหลมาเมื่อไหร่ผมจะแฉคุณให้ดู คนๆ นี้ ผมจำได้ดีครับ ในการชุมนุมสมัยพฤษภาทมิฬ คนชุมนุมเรือนแสนเรือนล้าน พี่น้องบริจาคเงินมาเต็มลังเลยครับ ให้ช่วยรณรงค์ขับไล่สุจินดา สนธิบริจาคคนเดียวก็ 5 ล้านผ่านชัชวาลย์ ประชาชนบริจาคเงินจำนวนมากเพื่อล้มระบอบสุจินดา สมัยพฤษภาทมิฬ หลังจากชุมนุมพี่น้องรู้ไหมครับมีเงินเหลือจากการชุมนุมประมาณ 30-50 ล้าน แล้วไปจัดคอนเสิร์ตที่หัวหมาก รณรงค์ให้พี่น้องประชาชนบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์ภัยจากการถูกปราบปรามในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เงินก้อนนี้คณะกรรมการที่ดูแลเรื่องนี้คือ สมาพันธ์ประชาธิปไตย ผมเป็นผู้หนึ่งในการบริจาคเงินจัดงานคอนเสิร์ตครั้งนั้นรณรงค์ สมาพันธ์ประชาธิปไตยนี้ มีนายแพทย์เหวง มีคุณประทีป อึ้งทรงธรรม มีหมอศัลย์ และมีนายเคราแพะนี่เป็นกรรมการอยู่ด้วยครับพี่น้อง สมาพันธ์ประชาธิปไตย ยังไม่สามารถเปิดเผยบัญชีเงินที่หายไป 30-40 ล้านครั้งนั้นได้เลยว่า เอาไปทำอะไรจนทุกวันนี้ครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นอย่าได้แหลมมาใส่ร้ายผู้อื่นในเรื่องนี้ เพราะที่เราสู้มาตลอด ไม่ว่าไล่ทักษิณ กองทุนทวงคืนเขาพระวิหาร มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ชุมนุม 193 วัน มีบัญชีค่าใช้จ่ายเปิดเผย ให้พี่น้องเข้าไปดูในเว็บไซต์ได้หมด ตลอดเวลา และเป็นเงินของพี่น้องประชาชน ลงขันกันสู้เพื่อปกป้องแผ่นดิน ทุกบาททุกสตางค์ เพราะฉะนั้นเราไม่เคยหวาดกลัวและไม่เคยหวั่นไหวในเรื่องนี้ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ใครต่อใครพยายามจะปลุกประเด็นนี้ขึ้นมา ก็ไม่มีวันจะจุดติดครับ เพราะพวกเราไม่มีแผลเหมือนพวกคุณ ใช่ไหมครับพี่น้อง
ทีนี้มาประเด็นที่ 2 คนบอกว่า โหวตโนเพื่อให้ทักษิณกลับมาหรอ ผมอยากจะถามพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ ใครเป็นคนไล่ทักษิณ ใครเป็นคนโค่นทักษิณ ใครเป็นคนสู้จนกระทั่งทักษิณถูกศาลพิพากษาดำเนินคดี ถ้าไม่ใช่พวกเรา พวกเราเป็นคนสู้กับทักษิณและระบอบทักษิณ จนเขาถูกศาลพิพากษาจำคุก และหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ คำถามคือ วันนี้คุณมาเป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ อำนาจกฎหมาย อำนาจรัฐอยู่ในมือคุณใช่ไหม หน้าที่ในการลากคอทักษิณมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นหน้าที่ของสุนัขตัวไหนครับ ถ้าทักษิณกลับมาก็เป็นหน้าที่คุณลากคอเขาไปอยู่ในคุก กลัวอะไรล่ะ เขามีคดีติดตัว เขามีความผิด ถอดยศถอนเครื่องราช เห็นตอนแรกส่งกษิต ส่งชวนนท์ ส่งพนิช ไปติดตามจะเอาตัวเขา ทำเป็นขึงขัง ตอนนี้ไม่เห็นทำอะไรเลย เพราะฉะนั้นทักษิณจะกลับมาหรือไม่กลับมามันคนละเรื่องกับการเลือกตั้ง ถ้าทักษิณกลับมาก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะเอาเขามาดำเนินคดี ลงโทษตามกฎหมายและคำพิพากษาของศาล เพราะฉะนั้นการบังคับใช้ตามกฎหมาย ในขณะนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของคุณ คุณกลัวอะไร ถ้าคุณกลัว ส่งคนไปด่อมๆ มองๆ จะล่าตัวเขาทำไมถ้าคุณกลัวเขากลับมา มีแต่คุณต้องมีหน้าที่ไปเอาตัวเขากลับมาลงโทษจำคุกตามกฎหมาย ไม่ใช่กลัวเขาจะกลับมา ใช่ไหมครับพี่น้อง บ้ารึเปล่า ที่สำคัญ ปัญหาทักษิณจะกลับมาหรือไม่กลับมามันคนละเรื่องกับการโหวตโน มันเกี่ยวกันตรงไหน เขาจะกลับมาได้หรือไม่ได้มันขึ้นอยู่กับขื่อแปรและกฎหมายของบ้านเมือง ไม่ขึ้นอยู่กับผลของการเลือกตั้ง ถ้าหากเขาเลือกตั้งได้รับชัยชนะ เขากลับมาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่ใช่พวกเราหรอ ที่เขากลับมาแล้วกราบแผ่นดิน ไม่ใช่พวกเราออกมาชุมนุมไล่สมัคร ไล่สมชายหรอ ทักษิณถึงต้องเผ่นหนีไปอีกรอบ เพราะฉะนั้นหน้าที่จัดการทักษิณพวกเราไม่กลัวเลย ที่กลัวขี้ขึ้นสมองคือพวกคุณต่างหากใช่ไหมครับ
เพราะฉะนั้นเวลานี้ พรรคประชาธิปัตย์ พยายามหาเสียงกับการปลุกผีเสื้อแดง ปลุกผีทักษิณให้คนส่วนใหญ่กลัว แล้วจะข่มขืนจิตใจพี่น้องประชาชนให้โหวตเลือกตัวเอง แล้วพยายามสร้างภาพว่าตัวเองเลวน้อยกว่า ทั้งๆ ที่เลวมากกว่าครับพี่น้อง วิธีการแบบนี้ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นแบบนี้มาตลอด คือชอบแบล็คเมล์ ข่มขืนประชาชน แล้วหาเสียงด้วยวิธีแบบนี้ แต่ตลอดประวัติศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ พี่น้องจำได้ไหม มีครั้งไหนบ้างที่ชนะเลือกตั้งเพราะประชาชนชื่นชมทำงานดี ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวครับพี่น้อง ไปเปิดดูประวัติศาสตร์เลย พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะเลือกตั้งโดยมีเสียงข้างมากแม้แต่ครั้งเดียว และที่ได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลเพราะประชาชนเลือก ส่วนใหญ่แล้วเพราะไล่รัฐบาลเก่าไป มันก็ได้กินบุญเก่า และกินบุญจากการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนทั้งนั้น คราวนี้ก็เหมือนกัน อยากกลับมาเป็นนายกฯ อีก แล้วพี่น้องดูซิ เขาทำงานอะไรประสบความสำเร็จ ทำงานอะไรให้ประชาชนชื่นชมและพอใจสักเรื่องมีไหมครับ ไม่มีเลย แต่เสือกอยากจะเป็นนายกฯ อีก ทำงานก็ล้มเหลว แผ่นดินก็เสีย โกงก็โกง ทำงานไม่ได้เรื่องได้ราวแต่อยากจะกลับมาเป็นนายกฯ หาเสียงด้วยวิธีสร้างภาพ สร้างสถานการณ์ให้ประชาชนกลัวเสื้อแดง ให้ประชาชนกลัวทักษิณ พวกกูไม่กลัวโว้ย ถ้าแกกลัวแกก็ออกนอกประเทศไทยไปเลยอย่ามาให้ประชาชนเห็นหน้า เราจะกลัวอะไร สู้กันมาหลายยกแล้ว มวยมันรู้ทางกัน เราไล่ออกไปแล้ว กลับมากราบแผ่นดินเรายังตะเพิดออกไปอีกรอบ จะกลัวอะไร ผมไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว พวกที่กลัวขี้ขึ้นสมอง คือคนอย่าง อภิสิทธิ์ เจิมศักดิ์ แก้วสรร พวกนี้กลัวจนขี้ขึ้นสมอง กลัวทักษิณจะมาล้างแค้น ความจริงถ้ากลับมาเราน่าจะปล่อยให้ล้างแค้นซะก่อนเราค่อยไล่มันไป ใช่ไหมครับพี่น้อง จะได้ยืมมือศัตรูฆ่าศัตรูไปเลย
นี่คือแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์และตัวนายอภิสิทธิ์ แทนที่เขาจะทำงานให้ประชาชนชื่นชม ให้ประชาชนพอใจ เขากลับหาเสียงด้วยวิธี ไม่ชนะฟาวล์ ฟาวล์ก็คือ จับใบแดงฝ่ายตรงข้าม หรือหาทางยุบพรรคฝ่ายตรงข้าม 2.หาตัวช่วย ให้ทหาร ประชาชน มาเป็นตัวช่วยไล่รัฐบาลเก่า 4.ประชาชนลุกขึ้นสู้ แผ่นดินลุกเป็นไฟ บาดเจ็บล้มตาย ตัวเองจะได้กลับมา มันไม่เคยทำงานให้ประชาชนเห็นคุณงามความดี ความดีความชอบ แล้วเต็มใจไปเลือกเลยแม้แต่ครั้งเดียว นี่คือประชาธิปัตย์ ใครเลือกประชาธิปัตย์เพราะทำงานดี ทำงานเก่งไม่มีครับ ส่วนใหญ่เขาเลือกเพราะด่าเก่ง เอาไว้เป็นฝ่ายค้าน มีแค่นี้ครับ ไม่เคยเลยว่าบริหารบ้านเมืองเก่ง แก้เศรษฐกิจดี มีฝีมือในการสร้างชาติบ้านเมือง ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนใหญ่แล้วหาวิธีเอาชนะคู่แข่งขันด้วยวิธีน็อกเอาท์ ชนะฟาวล์ มีตัวช่วยทั้งนั้น ไม่เคยทำงานได้ผลดีชนะคู่แข่งขันด้วยฝีมือของตัวเองแม้แต่ครั้งเดียวครับ
ทีนี้ก่อนจะพูดประเด็นอื่น ผมขออ่านมันจะได้ตรงกับเหตุการณ์ตอนนี้ พี่น้องทำมานานแล้วผมเพิ่งเห็น มีจดหมายส่งมาถึงผมเยอะมาก บางวันเปิดอ่านบางทีตี 1 ตี 2 กลับบ้านก็เปิดอ่าน พบจดหมายที่เขียนมามีความคิดดีๆ มากของพี่น้องประชาชน ต้องยอมรับว่า การชุมนุมครั้งนี้เพิ่มปัญญาให้พี่น้องประชาชนอย่างสุดยอดจริงๆ เรียกว่าจบด็อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยราชดำเนินกันหมดเลยครับ ท่านผู้นี้ทำมาอย่างดี หน้าปกเป็นรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงดนตรี มีภาพสมเด็จพระพุทธชินราช ท่านทำมาอย่างดี แล้วท่านเขียนบทกวีมาด้วย ผมขออนุญาตอ่านก่อนพูดประเด็นต่อไป
ตอนที่ 1 "ขอพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ อภัย อำนาจอธิปไตยป่วยแล้ว ลูกหลานสุดแก้ไขเจียนหมดแรงเฮย แผ่นดินคง บ่ แคล้วคลาดเงื้อมือมาร หลุดสักพักตั้งหลักใหม่ เลือกตั้งมาหลายปี หาคนดีเข้าสภา เลือกไปได้คนบ้า เข้าสภาหลายร้อยคน ก่อนเลือกเขามาหา ไหว้วันทาทุกแห่งหน จะแก้ความยากจน เพื่อหลุดพ้นความทุกข์ตรม เลือกเขาไปไม่ผิดหวัง เขาจะฟังเพื่อสะสม รับติรับตำหนิชม เพื่อระดมเขาสภา แจกเงินอ้างน้ำใจ แจกของใช้ไม่ห่วงหา ไหว้เด็กเล็กชรา ใครเดินมาไหว้ไม่เว้น เมื่อเข้าไปได้ดั่งคิด คนสะกิดยังไม่เห็น รวมตัวไม่กลัวเวร โกงไม่เว้นกินไม่พอ เลือกตั้งสักกี่หน ก็เวียนวนเช่นนี้หนอ พ่อแม่แม่ชูคอ ลูกคอยต่อสืบสันดาน คณาธิปไตยสืบทอดไปถึงลูกหลาน พวกตนถึงคนพาลก็ได้ผ่านเข้าครองเมือง ธนาธิปไตยคือต้องใช้เงินทุกเรื่อง คนรวยจึงรุ่งเรือง คนฝืดเคืองกัดเกลือกิน เหนื่อยนักพักสักครู่ มองหาลู่ทางถวิล มันวกมันเวียนกิน จนเสียถิ่นดินแดนไทย คำสัตย์สาบานตน เอาไปโยนไว้ที่ไหน รักชาติ กษัตริย์ไซร์ จึงหมดไปจากผู้แทน พักก่อนการเลือกตั้ง เพื่อหยุดยั้งเงินร้อยแสน หาสิ่งที่ดีแทน ถึงนานแสนก็จะทน ธรรมาธิปไตย ธรรมาไซร์ ไม่สับสน ผู้นำของปวงชน ต้องเปี่ยมล้นคุณธรรม" ปรบมือให้ท่านหน่อยครับ ทำมาดีมาก และเขียนดี นี่แสดงภูมิปัญญาพี่น้องประชาชน แต่ท่านไม่ระบุชื่อนะครับ
พี่น้องครับ ผมคิดว่าเรื่องที่อยากจะพูดคุยกับพี่น้องวันนี้ เอาประเด็นนี้แล้วกันเวลามีน้อย เวลานี้มีคนพูดกันมากว่า โดยเฉพาะปีกฝ่ายที่กลัวกระแสโหวตโน พยายามจะบอกว่าให้พวกเราเลือกคนที่เลวน้อยกว่า เพราะระบอบประชาธิปไตย ถึงอย่างไรก็ยังเป็นระบอบการปกครองที่เลวน้อยที่สุด พี่น้องครับ ความเป็นจริงแล้วเวลาที่เราจะดูใครดีใครเลว ในทางการเมืองมันไม่เหมือนดูคนที่เราเห็นอยู่ตามบ้าน หรือเห็นอยู่ในสังคม ชุมชน หมู่บ้านเราธรรมดา เกณฑ์ที่เขาจะดูว่านักการเมืองคนไหนดีคนไหนไม่ดี คนไหนเลวนั้น เขามีหลักเกณฑ์อย่างไร อันนี้ผมอยากจะพูดให้พี่น้องฟัง และเวลาพี่น้องไปคุยกับเพื่อนบ้าน กับพี่น้องประชาชน ที่บอกให้เลือกคนดี คนเลวนั้น จะได้มีหลักพิจารณาและเปรียบเทียบ ผมอยากหยิบยกบทความนี้ก่อนครับ คือบทความของนายทหารท่านหนึ่ง แล้วจะทำให้เรารู้ว่า ความจริงแล้วนายทหารที่เขารักบ้านรักเมืองก็มีอยู่เยอะ พี่น้องครับ และความคิดของนายทหาร เราคิดว่าเขาจะไม่เข้าใจปัญหาบ้านเมือง แต่โดยความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่มีเพียงพี่น้องประชาชนเข้าใจปัญหาบ้านเมือง ทหารที่มีความรักชาติรักบ้านรักเมือง มีความเข้าใจปัญหาค่อนข้างดีมาก มีบทความดีๆ อยู่ในเว็บไซต์ เป็นอดีตนายทหารเป็นลูกศิษย์สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงฯ สมเด็จพระเทพฯ ซึ่งเขียนไว้ค่อนข้างจะดีมาก ผมเลยเอามาให้พี่น้องดูว่า คนเวลาจะดูว่าการเมืองดีหรือไม่ดีเขาดูตรงไหน แต่เว็บไซต์ขึ้นช้า แต่เดี๋ยวเอาหลักการตรงนี้ก่อน
ผมได้หนังสือมาเล่นหนึ่ง เป็นหนังสือในงานครบรอบ 60 ปี ศาสตราจารย์สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ที่ระลึกงานครบรอบ 60 ปี ศาสตราจารย์สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เมื่อ 17 เม.ย.2554 ท่านรวบรวมไว้ดีมาก และสามารถเอาไปเป็นเครื่องมือในการพิจารณาว่า เวลาเราจะดูว่านักการเมืองดีไม่ดี พรรคการเมืองไหนดีไม่ดีเขาดูตรงไหน นี่เรื่องใหญ่ มิเช่นนั้นแล้วเราจะถูกนักการเมืองมาตีกิน หลอก สร้างภาพมายาหลอกลวง ต้มตุ๋นพี่น้องประชาชน
พี่น้องครับในเรื่องการเมือง ถ้าการเมืองที่ดีนั้น การเมืองที่เราพึงประสงค์นั้น คือ การจัดสรรอำนาจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เขาให้ดูตรงนี้ว่า เวลานักการเมืองมีอำนาจ ได้จัดสรรอำนาจเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนรึเปล่า เช่นจะยุบสภา ประชุม ครม.วันเดียว ทุก 3 นาทีอนุมัติโครงการ รวมแล้วเป็นแสนๆ ล้าน การใช้อำนาจแบบนี้เป็นการใช้อำนาจอนุมัติโครงการเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน หรือประโยชน์สุขของนักการเมือง นี่ก็เป็นหลักเกณฑ์ที่เราดูได้ การตัดสินใจแต่ละเรื่อง แต่ละอย่างของนายอภิสิทธิ์ คำนึงถึงประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนไหม เช่น วีระ ราตรีถูกจับ 7 คนไทยถูกจับ ทะลึ่งตัดสินใจหาว่า 7 คนถูกจับในแผ่นดินเขมร อย่างนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจ ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน หรือผลักไสประชาชนไปติดคุก ติดตาราง เพราะฉะนั้นเวลาจะดูคนดีคนไม่ดีต้องดูจากตรงนี้ นักการเมืองดีหรือไม่ดี พรรคการเมืองดีหรือไม่ดี เลวหรือไม่เลว ดูที่การตัดสินใจแต่ละเรื่องที่เป็นรูปธรรม แล้วเรานำสติปัญญาของเรามาวิเคราะห์ เราจะทราบเองว่า เขาจัดสรรอำนาจและผลประโยชน์ประเทศไปเพื่อประชาชนหรือไม่ หรือจัดสรรงบประมาณไปลงแต่ จ.สุพรรณ บุรีรัมย์ เชียงใหม่ จังหวัดที่นักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลมีอำนาจ อย่างนี้ถือว่าเป็นนักการเมืองที่คำนึงถึงแต่ประโยชน์ของนักการเมืองด้วยกัน
ประการที่สอง ถ้าหากผู้นำทางการเมืองใช้อำนาจเพื่อประโยชน์สุขประชาชนแท้จริง ปัญหาประชาชนจะได้รับการแก้ไข และประชาชนจะอยู่ดีกินดีในที่สุด มาดูปัญหาน้ำมันปาล์ม ผู้นำประเทศ รัฐมนตรี แก้ปัญหาโดยคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชนหรือไม่ แก้ปัญหาโดยคำนึงถึงประโยชน์ของนักการเมือง และนายทุนที่สนับสนุนพรรคทั้งนั้นเลย ประชาชนถึงขาดแคลนน้ำมันได้รับความเดือดร้อน เรื่องราคาข้าวก็เหมือนกัน เวลาจะแก้ไขปัญหาข้าว จะขายข้าว ก็คำนึงถึงประโยชน์ของบริษัท นายทุนที่จะได้ประโยชน์ ประชาชนมาทีหลังเสมอ อย่างนี้ละครับที่เขาเรียกว่า นักการเมือง พรรคการเมืองเลว เพราะฉะนั้นเวลามีใครมาบอกว่า นักการเมืองเลวน้อยเลวมาก ไม่มีครับ มีแต่ว่า การตัดสินใจแต่ละเรื่องแต่ละอย่างเป็นไปเพื่อประโยชน์ประชาชนหรือไม่
อันต่อมาก็คือ เขาให้มองว่า การที่การเมืองถูกมองว่าไม่ดีเป็นเพราะนักการเมืองใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของตนเองและพรรคพวก ประชาชนจึงเดือดร้อน ดังนั้นผู้ที่ชั่วร้ายคือ นักการเมืองที่เลว เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะดูว่า นักการเมืองเมื่อมีอำนาจแล้วเราอย่าดูที่หน้าหล่อไหม มาจากชาติตระกูลดีไหม ตัดออกไปเลยอย่าเอามาดู บางคนสร้างภาพ ทำตัวรักลูกรักเมีย บางทีอาจแอ๊บแมน มีพฤติกรรมนอกคอก เวลาสร้างภาพหน้าหล่อ รักครอบครัว ไปงาน เหมือนอดีตผู้นำ พาลูกพาเมียไปช้อปปิ้ง ปรากฏเงินที่ช้อปปิ้งเป็นเงินที่โกงไปจากประเทศไทยทั้งนั้น เราต้องตัดประเด็นนี้ออกไปอย่าดูแต่ภาพภายนอก ดูเวลาเขามีอำนาจ เขาตัดสินใจแต่ละเรื่องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือของพรรคพวก หรือตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ประชาชน
เช่นเดียวกับปัญหาที่เราเรียกร้องอยู่ขณะนี้ เรื่องดินแดน เอกราช เรื่องอธิปไตย มันไม่สนใจเลย แต่ถ้าเรื่องไหนเป็นประโยชน์กับนักการเมือง มันประชุมวันเดียวอนุมัติเป็นแสนๆ ล้าน อย่างนั้นรีบทำ เพราะฉะนั้นนักการเมืองที่ดีเขาให้ดูที่จิตสำนึกในการอุทิศและเสียสละเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนส่วนรวม อย่างพวกเรา หรือแกนนำบนเวทีนี้ทุกคนเป็นนักการเมืองภาคประชาชนที่ดีได้ เพราะเสียสละเพื่อประโยชน์สุขประชาชนส่วนรวม ส่วนนักการเมืองที่อยู่ในสภา 500 หรือที่กำลังจะเลือกตั้ง ช่วยหยิบยกมาสักคน มีใครบ้างที่อุทิศตนและเสียสละเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มีแต่จะขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง นี่อนุมัติอีกแล้ว ขึ้นเงินเดือนให้ ส.ก., ส.ข. เวลาเราจะดูนักการเมืองดีไม่ดีให้ดูเหล่านี้
อีกเรื่องหนึ่ง ผู้นำทางการเมืองมีหน้าที่อะไร คนที่จะเป็นผู้นำทางการเมืองได้ ต้องมีหน้าที่สร้างสรรค์ชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ทีนี้เราจะดูว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นคนดีหรือไม่ดี เป็นนักการเมืองดีไหม เป็นนายกฯ และเป็นนักการเมืองมาจนกระทั่งทุกวันนี้ คุณสร้างสรรค์สิ่งที่ดีอะไรให้กับประชาชนบ้าง ช่วยสาธยายมาหน่อยซินายแหล นี่ผมตอบคำถามเจิมศักดิ์ไปด้วยในตัว เพราะเจิมศักดิ์ชอบอธิบายว่า เราเลือกนักการเมืองที่ดีหรือเลวน้อยที่สุด ผมสาธยายให้คุณฟังแล้ว เวลาเขาดูนักการเมืองดีไม่ดีเขาดูเรื่องพวกนี้ ไม่ดูว่านามสกุลอะไร ไม่ดูว่าจบการศึกษามหาวิทยาลัยใด ไม่ดูว่ามีเครื่องราชสายสะพายกี่เส้น ไม่ต้องดูสิ่งเหล่านี้ ดูว่า เมื่อเวลามีอำนาจแล้วสร้างสรรค์ชีวิตอะไรที่ดีให้ประชาชนบ้าง พี่น้องตามผมมาเรื่อยๆ แล้วท่านจะได้หลักการในการไปดูและอธิบายให้พี่น้องประชาชนด้วยกันฟังว่า เวลาคุณจะดูนักการเมืองดีไม่ดีคุณอย่าดูว่ารวยไหม มีเงินมากไหม มีรถใช้กี่คัน ลูกจบการศึกษาสูงไหม ไม่เกี่ยวเลย ให้ดูเรื่องเหล่านี้
อีกเรื่องหนึ่ง นักการเมืองที่มีคุณธรรม ต้องมีความกล้าหาญในการรักษาความถูกต้อง และความดีงามของสังคม โดยไม่หวั่นเกรงต่อภัยอันตรายที่จะมาถึงตน ถามครับ นายอภิสิทธิ์มีความกล้าหาญอะไรบ้าง มีคุณธรรมและมีความกล้าหาญอะไรบ้าง คนไทยถูกจับก็หน่อมแน้มไม่มีความกล้าหาญอะไรเลย สนธิถูกยิง มันรู้แล้วมีสำนวนมีหลักฐานอยู่แล้ว ใครเป็นผู้ร้าย เป็นอาชญากร มันกล้าหาญอะไรบ้างที่จะจับตัวคนผิดมาลงโทษ ตำรวจปราบปรามพี่น้องประชาชน 7 ต.ค. ฆ่ายิงพี่น้องประชาชน ป.ป.ช.วินิจฉัยมีความผิด นายอภิสิทธิ์กล้าหาญอะไรที่จะเอาคนผิดมาลงโทษ ไม่มีสักเรื่อง กัมพูชาเอากำลังทหารมายึดแผ่นดินไทย ยิงระเบิดถล่ม คนไทยหนีตายเป็นหมื่นๆ ยึดครองแผ่นดินไทยจนกระทั่งทุกวันนี้ ดีแต่ปาก ดีแต่ประท้วง ไม่มีความกล้าหาญในการปกป้องรักษาแผ่นดินเลยแม้แต่น้อย คนเสื้อแดงออกมาชุมนุม มีกระสุน มีอาวุธปืน เผาบ้านเผาเมือง มันหดหัวอยู่ในกระดอง เจ๊าะแจ๊ะอยู่กับศิริโชค มีความกล้าหาญอะไรบ้าง ถ้าไม่มีความกล้าหาญในการรักษาความถูกต้อง รักษาความดีงามของสังคม ไม่หวั่นเกรงอันตราย ก็เป็นนักการเมืองที่ดีไม่ได้ คุณเจิมสาก คุณจะมาแหลอธิบาย นี่ดีอย่างนั้น ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ ไม่จริง ถ้าไม่มีความกล้าหาญ ไม่รักษาความถูกต้อง ไม่กล้าสู้กับความไม่ถูกต้อง ก็เป็นคนดีไม่ได้ ที่สำคัญที่สุด พรรคร่วมรัฐบาลทุจริตเห็นอยู่โครมๆ ทุกเรื่องทุกราวที่เรานำมาแฉ ป.ป.ช.ก็ชี้มูล ไม่เคยมีแม้แต่เรื่องเดียวที่นายอภิสิทธิ์กล้าจับทุจริตในรัฐบาลของตนเองเลยแม้แต่คนเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อไม่มีความกล้าหาญก็เป็นนักการเมืองที่ดีไม่ได้
พี่น้องตามมาเรื่อยๆ ผมว่า อ.สมบัติ ท่านรวบรวมไว้ดี ผมเลยขอความรู้มาเล่าให้พี่น้องฟัง ต่อมา นักการเมืองที่ดี ต้องดำรงตนด้วยความดีงาม เพื่อเป็นแบบอย่างแก่อนุชนในชาติ นายอภิสิทธิ์เป็นแบบอย่างอะไรกับอนุชนในชาติบ้างครับ เป็นแบบอย่างของความอ่อนแอ เป็นแบบอย่างของความล้มเหลว เป็นแบบอย่างของความขี้ขลาด เป็นแบบอย่างความเห็นแก่ตัว เป็นแบบอย่างของคนยโสโอหัง เป็นแบบอย่างของคนที่ไม่มีสัมมาคารวะ แม้กระทั่งเรื่องยุบสภา ควรยื่นระหว่างนี้หรือไม่ ก็ไม่มีสัมมาคารวะครับพี่น้อง แล้ว 30 ประการที่ผมลิสต์เอาไว้ ทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูง จิตใจคับแคบ ไม่มีวิธีคิด ไม่มีวิธีทำงาน ความรู้ประสบการณ์แค่หางอึ่ง ไม่เคารพความคิดเห็นผู้อื่น ไม่เป็นนักประชาธิปไตย ขี้ขลาด ยอมจำนน ไม่กล้าหาญ ขาดความรับผิดชอบ หยิ่งยโสโอหัง อวดดีอวดเก่ง ปลิ้นปล้อนตลบแตลง โกหกมดเท็ด ปกปิดความจริงต่อประชาชน ไร้สำนึกรับผิดชอบทางการเมือง อคติ เจ้าคิดเจ้าแค้น เลือดเย็น อำมหิต ขาดความกตัญญูรู้คุณประชาชน ไร้ภาวะผู้นำ ไม่มีสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชน หลงใหลศรัทธาวัฒนธรรมตะวันตก ทำงานไม่เพื่อนไม่มีทีมงานไม่มีที่ปรึกษา ทำงานกับเด็กๆ แก๊งไอติม ผมไล่มายังไม่หมด ชอบหลอกใช้ผู้ใหญ่ ถอนหงอกผู้ใหญ่ หลอกนายชวน หลอกอานันท์ ปันยารชุน หลอกประเวศ แล้วจะมาหลอกพวกเรา ปรากฏหลอกไม่ได้ครับพี่น้อง ผมถึงบอกนักการเมืองที่ดี ผมไล่มาแค่บางส่วน ความจริงอภิสิทธิ์มี 30 คุณลักษณะที่เลว เพราะฉะนั้นจึงเป็นผู้นำที่ดี เป็นแบบอย่างไม่ได้
อีกอันหนึ่งประเด็นนี้จะทำให้เห็นชัดเจนขึ้นอีก นักการเมืองที่ดีเขาบอกว่า ต้องมั่นคงในคุณธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน อันนี้ผมพูดไปแล้ว นักการเมืองที่ดีต้องมีจุดยืนที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อการรักษาความถูกต้อง และความดีงามของสังคม นักการเมืองจะต้องไม่กระทำการใดๆ เพื่อรักษาตำแหน่งโดยละทิ้งหลักการและความถูกต้องอย่างเด็ดขาด ถ้านายอภิสิทธิ์เป็นคนดีจริง ต้องไม่ละทิ้งหลักการโดยยอมก้มหัวแล้วกอดนายเนวิน และเป็นขี้ข้ารับใช้บรรหาร เนวิน สุวัจน์ สุเทพ ใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นข้อที่อ้างว่า ถ้าไม่เอาใจเขาไม่ยอมให้เขาโกงบ้างกินบ้างก็จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง นี่แสดงว่า คุณเป็นนักการเมืองไม่มีหลักการ ยอมละทิ้งหลักการเพื่อเห็นแก่ตำแหน่งอย่างเดียว
อันนี้เจ๋งมาก เป้าหมายนักการเมืองที่ดีคือ การอุทิศ เสียสละตนเองเพื่อแก้ปัญหาและความทุกข์ยากของประชาชนให้บรรลุผล มิใช่การได้รับตำแหน่งที่สูงส่ง แต่มิได้กระทำสิ่งใดเป็นประโยชน์สุขต่อประชาชนอย่างแท้จริง เหมือนอภิสิทธิ์เปี๊ยบ คืออยากเป็นแต่นายกฯ อยากได้แต่ตำแหน่ง แต่ไม่เคยทุ่มเททำงานให้เห็นผล นอกจากดีแต่พูด ใช่ไหมครับพี่น้อง และเขาบอกว่า ความสำเร็จของนักการเมือง คือความสำเร็จในการสร้างชาติ ถามว่านายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ มันสร้างชาติอะไร มีแต่ขายชาติ เพราะฉะนั้นเวลาเราจะวัดความสำเร็จนักการเมืองว่าเป็นนักการเมืองดีไหม ต้องดูว่า เมื่อคุณมาเป็นนายกฯ แล้วสร้างชาติไหม เปรียบเทียบ พล.อ.เปรม สมัยนั้นคอมมิวนิสต์เต็มบ้านเต็มเมือง โจรจีนแบ่งแยกดินแดน เวียดนามหนุนกัมพูชารบประชิดชายแดนไทย ปัญหาความไม่สงบในชาติบ้านเมือง ท่านเอาเรียบร้อยอยู่มือ สงบเรียบร้อยหมดทุกเรื่อง พรรคคอมมิวนิสต์แตกสลาย ยุติการต่อสู้ สงครามในประเทศหมดสิ้น ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องแบ่งปันน้ำมัน ปิดไฟแต่หัวค่ำ เศรษฐกิจรุ่งเรือง ยุคโชติช่วงชัชวาลย์ สร้างชาติ เก็บเงินออมสำรองคงคลัง จนกระทั่งประเทศเจริญรุ่งเรืองมาเท่าทุกวันนี้ นักการเมืองอย่างนี้เขาเรียกว่าสร้างชาติ และเป็นรัฐบุรุษได้ แต่นักการเมืองแบบนายอภิสิทธิ์ เป็นนักการเมืองแบบผลาญชาติ นอกจากไม่รักษาแผ่นดินแล้ว ยังถลุงงบประมาณแผ่นดิน เอาเงินไปใช้จ่ายแบบเทกระจาดแจกอย่างเดียว แต่ไม่มีปัญญาหาเงินเข้าประเทศแม้แต่เรื่องเดียว ไม่มีความสามารถสร้างเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความเจริญให้ประชาชนมีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ มีแต่ประเทศตกต่ำ ถอยหลัง แถมเผาบ้านเผาเมือง ฆ่ากัน จลาจลวุ่นวาย ตายนับพันนับหมื่น แล้ววันนี้ภาคใต้ตายไปอีก 7 ศพ ตำรวจ 3 ทหาร 3 อดีต อบต.อีก 1 ตายทุกวันในยุคอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ผมถึงบอกนักการเมืองที่ดีต้องสร้างความสำเร็จในการสร้างชาติ สร้างประชาชนให้พ้นจากความทุกข์ยาก และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างถ้วนหน้า มิใช่การได้รับตำแหน่งเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลด้านชาชีวะเท่านั้น โดยมิได้ทำประโยชน์ให้ประชาชนส่วนใหญ่พ้นจากความทุกข์ยาก ได้ตำแหน่งเป็นนายกฯ มีสายสะพาย เมียเป็นคุณหญิง งานราชพิธีได้ไป แล้วยังไง ได้เป็นแค่นายกฯ แล้วทำอะไรให้พวกกูดีขึ้นบ้างวะ นี่ไงครับพี่น้อง ตระกูลเวชชาชีวะหน้าบาน ลูกชายได้เป็นนายกฯ ลูกคุณได้เป็นนายกฯ แต่ประชาชนฉิบหาย ชาติเสียแผ่นดิน มีอะไรดีสำหรับประเทศชาติบ้านเมือง ไม่มีเลยครับ แล้วยังหน้าด้านอยากมาเป็นนายกฯ อีก นี่ไงที่ผมบอก เวลาจะวัดว่านักการเมืองดีไม่ดีให้ดูอย่างนี้ มีตำแหน่งแล้วทำอะไรให้กับชาติบ้านเมืองบ้าง นอกจากแหลแล้วก็แถไปวันๆ
ทีนี้อีกอันหนึ่ง อันนี้เจ็บ นักการเมืองที่ไร้จุดยืนและอุดมการณ์ จะปราศจากความจริงใจต่อประชาชน เขาพร้อมจะหลอกได้ทุกคนแม้กระทั่งตนเอง นักการเมืองประเภทนี้ไม่ต่างไปจากสวะสังคม เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลอกประชาชน หลอกตัวเองว่า กูเก่ง จบอีต้มอีตั้น ออกฟอร์ด ต้องเป็นนายกฯ ได้ นึกว่าตัวเองเก่งเป็นเทวดา ความจริงทำงานเทียบคนอื่นไม่ได้เลย หลอกประชาชน เราจับโกหก พูดจากลับไปกลับมา กลับกลอก มาเวทีนี้ลอกคราบออกมาหมดแล้ว ในที่สุดทุกคนรู้หมดแล้ว อภิสิทธิ์ลูกอีช่างพูด แล้วก็ตอแหล ไม่มีอะไรเลย หากินบนความหน้าด้าน และสร้างภาพหลอกประชาชนอย่างเดียว นักการเมืองประเภทนี้ถือว่าเป็นนักการเมืองที่ดีไม่ได้ ส่วนไร้จุดยืน ไร้อุดมการณ์ วันก่อนด่าเขา วันนี้ไปกอดเขาเสียแล้ว ไอ้ห้อยไอ้โหนกอดกันเกลียว ไม่มีจุดยืน วันก่อนทักษิณโกง ด่าเขาว่าโกง ทุจริต โกงทั้งโคตร ถึงเวลาตัวเองเป็นรัฐบาลก็โคตรโกงเหมือนกัน ก็โกงโคตรๆ ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกันตรงไหน เพราะฉะนั้นคนแบบนี้ไร้จุดยืน ไร้อุดมการณ์ ดีแต่ว่าคนอื่น ว่าแต่เขาอีเหนาเป็นเอง
อันต่อมาแสบครับ ท่านบันทึกไว้ว่า ประชาชนทั้งหลายควรระมัดระวังนักการเมืองที่ภาพพจน์ดูดี แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยความสกปรกโสมม เห็นประชาชนเป็นเพียงบันไดก้าวขึ้นสู่อำนาจ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน โดยอาศัยภาพพจน์ที่ดีในการหลอกลวงประชาชน ซึ่งในประเทศด้อยพัฒนา มีนักการเมืองประเภทนี้ไม่น้อย และอภิสิทธิ์รวมอยู่ในประเภทนี้ด้วยครับ ชัดเจนไหมครับ ภาพพจน์ดูดี แต่งตัวใส่สูทผูกไท ผู้ดีอังกฤษ แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยความสกปรกโสมม เห็นประชาชนเป็นเพียงบันไดขึ้นสู่อำนาจ จำได้ไหม พอประชาชนที่สะพานมัฆวานโดนปราบ โดนตีเลือดท่วม ล้มระเนระนาด จนเหตุการณ์สงบแล้ว มาเดินสร้างภาพเยี่ยมพี่น้องประชาชน โธ่เอ๊ยนายแหล เสร็จแล้วเห็นใจประชาชน ทำหนังสือยื่นไปที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ให้ตรวจสอบตำรวจที่ปราบปรามประชาชน พอ ป.ป.ช.ชี้มูลเสร็จเก็บเข้าลิ้นชัก พอเหยียบหัวประชาชนเป็นบันไดขึ้นสู่อำนาจเสร็จ ทุกสิ่งทุกอย่างที่รับปากประชาชน มันปัดสวะทิ้งไปลืมหมดเลย ไปเห็นดีเห็นงามกับไอ้ห้อยไอ้โหน ไอ้จรกาหน้าดำหมดเลย ลืมพี่น้องประชาชนหมดเลย นี่ไงครับนักการเมืองประเภทนี้อันตรายที่สุด
แล้วต่อมา พี่น้องครับ นักการเมืองลวงโลก มักจะพูดดีต่อหน้าสาธารณชน แต่ลับหลังจะดูถูกเหยียดหยามประชาชนอย่างตลกครื้นเครง อันนี้ผมยืนยันว่า นายคนนี้เป็นแบบนี้จริงๆ ครับ เพราะอะไร เวลาหลังจากชุมนุมแล้วมันจะหัวเราะคิกคักๆ สุเทพ อภิสิทธิ์ เฮ้ยลื้ออย่าไปยุ่งกับเขา ปล่อยให้เขาเคลื่อนไหว ASTV ไม่ต้องไปแล้ว ตอนนี้เราอยู่ทางนี้แล้ว มันจะนินทา ดูถูกประชาชน เห็นประชาชนทำอะไร ตอนนี้อย่าเพิ่งไปยุ่ง รอให้เหตุการณ์คลี่คลายชัดเจนค่อยกระโดดเข้าไป มันทำตัวเหมือนตำรวจบางคน พอประชาชนกับโจรชกต่อย มันปล่อยให้ตีกันให้น่วมก่อน หมดแรงตำรวจค่อยมาจับ เป็นวีรบุรุษจับผู้ร้ายไปโรงพัก แล้วที่ไปชุมพร พอได้เป็นรัฐบาลแล้ว ไปด่าเราลับหลังว่า ทั้งเหลืองทั้งแดงเป็นปัญหากับบ้านเมืองเหมือนกัน ลับหลังมันด่าพวกเรา ดูถูกเหยียดหยามพวกเรา แต่ระหว่างที่สู้กับทักษิณ มันจะยุให้ไปสู้ พอชนะแล้ว ตีกินได้ประโยชน์แล้ว ก็ลับหลังนินทาประชาชน เหยียดหยามประชาชน เห็นประชาชนเป็นเพียงเครื่องมือขึ้นสู่อำนาจเท่านั้น นี่คือคนพวกนี้ครับพี่น้อง
มีอีกอันหนึ่ง อันนี้ชัดเลย นักการเมืองที่ดีนอกจากจะรักษาตนให้เป็นคนดีแล้ว จะต้องไม่ปล่อยให้คนรอบข้างประพฤติตนมิชอบ หากผู้อยู่รอบข้างประพฤติตนมิชอบ จะต้องมีความกล้าหาญในการลงโทษ โดยไม่เห็นแก่ความเป็นพวกพ้อง จึงจะเรียกได้ว่า เป็นผู้นำทางการเมืองที่ดี เห็นหรือยังครับอภิสิทธิ์เอาใครรอบข้าง เอาศิริโชคไงครับแนบติดตัว หรือรอบหน้ารอบหลังรอบตูด ผมไม่รู้ แล้วศิริโชคอ้างว่า ตัวเองเป็นเลขานุการส่วนตัวนายกฯ ถ้าประพันธ์ไม่เปิดโปงว่าครอบครัวนี้ล้มละลาย มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่สมควรให้เข้าไปจุ้นจ้านในตำแหน่งอำนาจนายกฯ พี่น้องรู้ไหม คนในวงการการเมืองเขาบอก นายกฯ ตัวจริงคือ ศิริโชค ไม่ใช่อภิสิทธิ์ ใหญ่กว่านายกฯ เหมือนผมเป็น ผบ.ทบ.แต่ผมก็มี ผบ.ทบ.อีกคนอยู่ที่บ้าน นี่ก็เหมือนกัน เข้าทำนองเดียวกัน ศิริโชคจะเอาอะไรไม่กล้าขัด เขาถึงบอกว่า ผู้นำที่ดีจะต้องไม่ปล่อยให้คนรอบข้างประพฤติตนไม่เหมาะสม ขณะนี้ที่ผมวิพากษ์วิจารณ์ เปิดเผยข้อเท็จจริงให้พี่น้องประชาชนเห็น เขายังไม่ทิ้งกัน เขายังรักกันดี เป็นแต่เพียงคนจับได้แล้วว่าเราเป็นอย่างไร ลื้อออกห่างๆ แล้วอย่าให้ใครเห็น สรุปคือ ให้คนนี้ทำงานอยู่เบื้องหลัง แต่อย่าโผล่หน้าจอเคียงข้างกันเท่านั้น แต่ยังทำงานปรึกษาหารืออี๋อ๋อกันอยู่ เพราะฉะนั้นคนรอบข้างนายอภิสิทธิ์เป็นพิษทั้งนั้น
พี่น้องที่ผมกล่าวมาทั้งหมดโดยคัดย่อมาเพียงบางส่วน เพื่อให้พี่น้องได้หลักเกณฑ์ในการเอาไปพิจารณาว่า ถ้าเราจะดูนักการเมืองดีหรือนักการเมืองไม่ดีนั้นจะดูอะไร เขาให้ดูที่ผมพูดมานี้ ถ้าพี่น้องเอาหลักการณ์นี้ไปพิจารณา พี่น้องจะเห็นว่า นักการเมืองที่ดีนั้นเขาดูที่ตรงไหน การดูคนไม่ดีดูที่ตรงไหนอย่างไร เพราะฉะนั้นเวลาพิจารณานักการเมืองดีหรือไม่ดีนั้น อย่าดูอย่างที่ผมว่า หน้าหล่อ ชาติตระกูลดี รวยรึเปล่า ครอบครัวสร้างภาพถ่ายรูปอี๋อ๋อกันอย่างนั้นอย่างนี้ อะไรอย่างนี้อย่าไปดู ให้ดูสิ่งที่ผมพูด แล้วพี่น้องจะได้หลักการในการพิจารณาว่า นักการเมืองดีหรือไม่ดีดูตรงนี้ เขาไม่ดูอย่างที่นักวิชาการแหลออกมาให้ข้อมูลความรู้ประชาชน ถ้าเราดูอย่างนั้นเราจะถูกนักการเมืองลวงตา
วันนี้สรุปว่า การตัดสินใจโหวตโน เพราะว่านักการเมืองที่มาให้เราเลือกในขณะนี้ ไม่ว่าปีกฝ่ายค้าน ปีกฝ่ายรัฐบาล พิจารณาตามที่ผมพูดมาทั้งหมด มันหานักการเมืองที่ดีทำยาไม่ได้เลยในประเทศไทยขณะนี้ ทุกคนอยากจะเข้ามามีอำนาจเพียงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ได้อำนาจแล้วแสวงหาผลประโยชน์ และเอาผลประโยชน์นั้นไปซื้ออำนาจอีกครั้งถ้ามีการเลือกตั้ง แล้วกลับเข้ามา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเช่นนี้บ้านเมืองถึงเดินหน้าไปไม่ถึงไหน เสียดายครับ ผมอยากเปิดบทความนายทหารท่านหนึ่ง ซึ่งเขียนไว้ดีมาก แต่วันนี้ไม่ทัน ไว้วันหลังดีกว่า บนเวทีไม่มีสัญญาณเลยต้องติดค้างพี่น้องไว้ก่อน ก่อนจบวันนี้ ความจริงผมอยากพูดถึงบทความของ อ.ยินดี วัชรพงศ์ ต่อสุวรรณ เอาไว้วันพรุ่งนี้ เพราะท่านเขียนไว้ดีมาก ซึ่งเป็นบทความเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่วันนี้ขอมอบสิ่งที่พูดมาทั้งหมดให้เป็นหลักเกณฑ์ของพี่น้อง เพราะใกล้สู่เลือกตั้ง ถ้ามีการยุบสภา มีการเลือกตั้ง เราจะได้เอาสิ่งเหล่านี้ไปพิจารณาว่า จะดูนักการเมืองดีไม่ดี ให้ดูสิ่งที่คุณประพันธ์พูด ถ้าดูอย่างนี้จะรู้ว่า นักการเมืองที่มีอยู่ในระบบ และลงเลือกตั้งให้เราเลือกนั้น เป็นนักการเมืองใช้ไม่ได้ และไม่มีใครเหมาะสมเป็นผู้นำประเทศ แม้แต่คนเดียวในขณะนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว การเรียกร้องให้ปฏิรูปการเมืองของพวกเรา ด้วยการเรียกร้องให้ประชาชนทั้งประเทศรณรงค์โหวตโนกาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ใครนั้น จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และเป็นแนวทาง ยุทธวิธีที่ชอบแล้วของประชาชน
เขาบอกว่า สิ่งนี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชน คือ ความศรัทธา ความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เขาบอกว่า พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ คือพลังแห่งศรัทธาในตัวผู้นำที่เขาเชื่อถือ ถูกไหมครับพี่น้อง นี่คือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ และเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพี่น้องพันธมิตรฯ วันนี้ เพราะเราเชื่อมั่น ศรัทธาในตัวผู้นำที่เราเชื่อถือ วันนี้พี่น้องเชื่อถือจำลองไหม เชื่อถือสนธิไหม เชื่อถือแกนนำที่มีอยู่ขณะนี้ เชื่อถือผม เชื่อถือคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไหม ถ้าพี่น้องเชื่อถือ ศรัทธา ว่าผู้นำเหล่านี้จะพาเราไปสู่แนวทางถูกต้อง พี่น้องจงเชื่อมั่นและเดินตามผู้นำเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน และให้พี่น้องพิจารณากลั่นกรองด้วยสติปัญญาของพี่น้องเอง อย่าให้คนประสงค์ร้ายต่อชาติบ้านเมือง ประสงค์ร้ายต่อพี่น้อง และเคยหลอกต้มพี่น้องประชาชนแล้ว มาสร้างข่าวเท็จใส่ร้ายป้ายสี ทำลายพวกเรา เพราะคนพวกนั้นเคยได้รับความไว้วางใจจากพวกเราหลายครั้งแล้ว แต่ทรยศพี่น้องประชาชนทุกครั้ง ต่อไปนี้เราจะไม่ไว้วางใจใครนอกจากผู้นำของพี่น้องประชาชน ใช่ไหมครับพี่น้องครับ ถ้าพี่น้องเห็นด้วยปรบมือดังๆ หน่อยครับ
เพื่อเป็นการยืนยันในสิ่งนี้ ผมขอเพิ่มข้อความดังต่อไปนี้ว่า พลังแห่งความศรัทธาสามารถเปลี่ยนวิถีมนุษย์ได้ เปลี่ยนระบบสังคมได้ และเปลี่ยนแปลงโลกได้ เหมือนที่เคยศรัทธาผู้นำและล้มระบอบทักษิณมาแล้วใช่ไหมครับ เราทำมาแล้ว นั่นก็มาจากพลังศรัทธาของพี่น้อง ประชาชน M79 ยิงถล่ม บาดเจ็บล้มตายเท่าไหร่ เราไม่เคยถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว เพราะเราศรัทธา เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำว่าถูกต้อง เราจึงสามารถเอาชนะและเปลี่ยนแปลงการเมืองที่ผ่านมาได้ และอำนาจใดๆ ทั้งปวงในโลกนี้ ไม่อาจต้านทานพลังศรัทธาของประชาชนที่มีต่อผู้นำที่เขาเชื่อถือได้เลย นี่คือสัจธรรมและความจริงที่เราได้พิสูจน์แล้ว แต่พลังศรัทธาที่มีต่อผู้นำที่เราเชื่อถือนั้นจะมีคุณค่าต่อเมื่อเกิดขึ้นพร้อมกับเป้าหมายที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ผู้นำจะนำไปโดยไม่สอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชนก็ไม่มีวันชนะ เหมือนผู้นำบางคนที่กระโดดฆ่าตัวตายแล้ว 1 คน ผู้นำที่จะสามารถประสบความสำเร็จ จะต้องนำพลังที่ประชาชนศรัทธานั้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ และความเรียกร้องต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ วันนี้ประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองไปสู่การเมืองที่ดีกว่า ต้องการเปลี่ยนสังคมไปสู่สังคมที่ดีกว่า ต้องการแผ่นดินคืนมา ต้องการกวาดล้างทุจริตคอร์รัปชั่น ใช่ไหมครับพี่น้อง ใครก็ตามที่นำประชาชนไปนอกจากทางนี้ โดยรวมของสังคม ผู้นำต้องนำประชาชนไปสู่การเมืองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เท่านั้นจึงจะประสบความสำเร็จ
วันนี้พวกเรายืนยันว่า จะนำพลังศรัทธาของพี่น้อง ก้าวเดินไปพร้อมกันด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกันกับพี่น้องประชาชน สุดท้ายนี้ขอให้ ความศรัทธาและพลังมุ่งมั่นของพี่น้องประชาชน และเป้าหมายที่เรามีร่วมกัน จงประสบความสำเร็จ และประสบชัยชนะร่วมกันครับพี่น้อง ขอบคุณครับ