“เทพเทือก” ปฎิเสธ ครม.แบ่งเค้กทิ้งทวนนัดสุดท้าย อ้างทุกโครงการจำเป็นและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ตรวจสอบได้ เฉ่งพวกปากหอยปากปูวิจารณ์สนุกปากโดยไม่รับผิดชอบ รับแปลกใจบางกระทรวงดันร่างกฎหมายเข้า ครม.อย่างน่าสงสัย ทั้งๆ ที่ไม่สามารถส่งให้สภาพิจารณาได้แล้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการอนุมัติงบประมาณแบบทิ้งทวนในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดสุดท้ายเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) ว่า เนื่องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้งกำหนดไว้ว่าในช่วงยุบสภา รัฐมนตรี และครม.ไม่สามารถจะทำการบางอย่างได้ เช่น การอนุมัติโครงการ หรืออนุมัติการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ซึ่งจะทำให้ในช่วงเป็นรัฐบาลรักษาการ 2 เดือน และอีก 1 เดือนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่เข้ามารับหน้าที่ รวมแล้วก็ 3 เดือนเต็มที่การบริหารราชการบ้านเมืองอาจจะเกิดชะงักงันได้
ดังนั้น กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ จึงจำเป็นต้องรีบทำเรื่องขอความเห็นชอบในโครงสำคัญๆ ที่จะต้องดำเนินการ หรือขอใช้เงินเพื่อเอาไปแก้ไขปัญหาของประชาชนและประเทศในช่วง 90 วันต่อไปนี้ เช่น เรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ครม.ก็ได้เอาโครงการทั้งหมดที่ช่วยฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยมาขอความเห็นชอบจาก ครม.เสียก่อน เพราะถ้าเลยช่วงนี้ไปอนุมัติไม่ได้ คนที่ได้รับความเสียหายก็จะเคว้งคว้างได้ หรือกรณีที่เราจะไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่อินโดนีเซีย ก็ต้องนำเข้าให้ ครม.ตัดสินก่อน อย่างนี้เป็นต้น เพราะหลังจากนี้จะทำไม่ได้
“เมื่อเรื่องของทุกกระทรวง ทบวง กรม ประดังเข้ามาพร้อมๆ กัน ก็ทำให้วาระการประชุม ครม.มี 100 กว่าเรื่อง แต่ไม่ถึง 200 กว่าวาระ มีแค่ 100 กับอีก 2-3 เรื่อง จึงต้องประชุมกันถึงตี 2 กว่า แต่ไม่ใช่เรืองที่จะไปทิ้งทวนอย่างที่กล่าวหากัน สิ่งเหล่านี้สามารถที่จะตรวจสอบได้”
นายสุเทพยืนยันว่า โครงการทั้งหลายที่ ครม.อนุมัติไป ได้พิจารณากันด้วยความรอบคอบ เงินที่จะใช้ก็ได้พิจารณากันอย่างถี่ถ้วน ไม่มีเรื่องการทิ้งทวน หรือแบ่งเค้กกัน แต่วันนี้ในประเทศไทย อะไรๆ ก็รู้สึกว่าจะกล่าวหากันง่าย คนกล่าวหาก็สนุกสนานมันปาก พอเรื่องจบไม่มีใครสนใจแล้ว คนที่ไปกล่าวหาเขาไว้ ก็ลืมเรื่องจริงหมด และคนที่กล่าวหาก็ไม่เคยออกมาชี้แจง ขอโทษใครเลย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีบางวาระที่ตนก็รู้สึกแปลกใจที่บางกระทรวงพยายามกันเหลือเกินที่จะเสนอเรื่องให้ ครม.พิจารณาในวันที่ 3 พ.ค.ให้ได้ ซึ่งมีประมาณ 7-8 เรื่องเป็นอย่างน้อย เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเสนอร่าง พ.ร.บ.ให้ ครม.เห็นชอบ เพราะแม้ว่า ครม.จะให้ความเห็นชอบก็ไม่สามารถส่งไปสภาได้แล้ว เพราะสภาก็ไม่บรรจุวาระแล้ว ทำให้ ครม.ต้องใช้เวลาพิจารณากันนานมาก
