ประธานสภาฯ ยันไม่ยื่นเอกสารกฏหมายลูกเลือกตั้งเพิ่มแล้ว แย้มรอฟังข่าวโปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภาวันไหน หลังนายกฯ ทูลเกล้าฯ แล้ว เชื่อมีเหตุขัดข้องวินิจฉัยกฎหมายไม่ตรงตามกำหนด ชี้ประชาธิปัตย์จับมือพรรคร่วมร่วมรัฐอีกรอบก็เป็นสิทธิ์ ถามเพื่อไทยรู้ว่าตัวเองแพ้แล้วจะส่งลง ส.ส.ทำไม
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนได้หารือกับนายกฯ และ กกต.แล้ว เห็นพ้องว่าจะไม่มีการยื่นเอกสารเพิ่มเติม กรณีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกฯ ก็สามารถยุบสภาได้ตั้งแต่วันนี้ แม้จะอยู่ระหว่างการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ตาม ทาง กกต.ก็สามารถออกระเบียบจัดการเลือกตั้งได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 อย่างไรก็ตาม หากดูตามมารยาทและกระบวนการแล้ว ควรจะให้มีการโปรดเกล้าฯ และประกาศใช้กฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับในราชกิจจานุเบกษาก่อน จากนั้นจึงจะเดินเรื่องยุบสภา
“ที่ผ่านมานายกฯ เป็นห่วงเรื่องวันยุบสภา เนื่องจากได้ประกาศออกไปแล้ว ดังนั้น ตอนนี้จึงต้องรอฟังข่าวว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาวันไหน ซึ่งทราบว่านายกฯ ได้ส่งเรื่องทูลเกล้าฯ แล้ว โดยส่งให้สำนักนายกรัฐมนตรียื่นต่อสำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง แต่จะจริงเท็จแค่ไหนต้องถามนายกฯ เพราะผมไม่ทราบว่านายกฯ ยื่นเรื่องไปวันไหน และก็ถือเป็นพระราชอำนาจของพระองค์ท่าน เพราะเมื่อทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว นายกฯ ก็ไม่มีอำนาจในการกำหนดแล้ว” นายชัยกล่าว
เมื่อถามว่า แต่ช่วงนี้พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอาการประชวรอยู่ นายชัยกล่าวว่า ใครไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ทุกคนก็คงรู้ว่าควรทำอย่างไร
เมื่อถามว่า หากมีปัญหาเรื่องกฎหมายลูกหลังการยุบสภาแล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ นายชัยตอบว่า ประชาชนทั่วประเทศต้องรับผิดชอบด้วยการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.
พร้อมกันนี้ นายชัยยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวคิดว่านายกฯ คงประเมินว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกฎหมายลูกเสร็จเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เกิดเหตุขัดข้องบางประการ เพราะถ้าวันที่ 2 พ.ค.ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เรื่องก็ส่งกลับมาที่รัฐสภา ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยพูดเรื่องนี้กับนายกฯ ว่าถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงมีการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาได้ในวันที่ 4 พ.ค. และวันที่ 5 พ.ค.จะมีงานพระราชพิธี ทำให้ต้องมีการยุบสภาวันที่ 6 พ.ค.ซึ่งก็ตรงกับช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่นายกฯ ระบุไว้พอดี
นายชัยยังได้กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยออกมาโวยพรรคประชาธิปัตย์จับมือพรรคร่วมรัฐบาลรุมในการเลือกตั้งและเตรียมจัดตั้งรัฐบาลว่า เป็นสิทธิของนักการเมือง ที่หัวหน้าพรรคการเมืองจะตกลงร่วมกับใครก็ได้ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และไม่มีกฎหมายใดเขียนไว้ว่าพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 แล้วจะมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน ส่วนที่มองกันว่าการกระทำของพรรคร่วมรัฐบาลจะทำให้พรรคเพื่อไทยแพ้ตั้งแต่ในมุ้งนั้น ตนคิดว่าเมื่อรู้ว่าแพ้แล้วจะส่ง ส.ส.ลงสมัครทำไม