แถลงการณ์สำนักพระราชวัง
เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช
ฉบับที่ 36
วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่าตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร มีพระปรอท (เป็นไข้) และต่อมามีพระปัปผาสะ (ปอด) อักเสบ และพระอาการอ่อนเพลีย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาจนหายจากพระอาการประชวรแล้ว แต่ยังประทับอยู่ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อให้คณะแพทย์ฯ ทำกายภาพบำบัดถวายเพื่อฟื้นฟูพระวรกาย และเพิ่มกำลังพระกล้ามเนื้อ ตลอดจนถวายพระกระยาหารบำรุงตามหลักโภชนาการนั้น คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวมาเป็นลำดับ แต่ยังทรงพระดำเนินไม่มั่นคง จึงได้ถวายการตรวจพิเศษต่างๆ เป็นระยะๆ ติดต่อกัน ผลปรากฏว่า ทรงมีภาวะน้ำไขสันหลังในโพรงพระสมองมากกว่าปรกติ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ทรงพระดำเนินไม่มั่นคง อาการเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ คณะแพทย์ฯ ได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างมีความเห็นตรงกันว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีใส่สายระบายน้ำไขสันหลังจากช่องพระสันหลังบริเวณบั้นพระองค์ (บั้นเอว) เข้าสู่ช่องพระนาภี (ช่องท้อง) ซึ่งเป็นการรักษาแบบมาตรฐานทั่วไป ทั้งนี้ได้กำหนดการถวายการรักษาในคืนวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2554 ส่วนผลการตรวจต่างๆ ในระบบอื่นอยู่ในเกณฑ์ปรกติและพระอาการทั่วไปดี เสวยพระกระยาหารได้เป็นปรกติ คณะแพทย์ฯ จะรายงานผลการถวายการรักษาในโอกาสต่อไป
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
2 พฤษภาคม 2554
เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช
ฉบับที่ 36
วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่าตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร มีพระปรอท (เป็นไข้) และต่อมามีพระปัปผาสะ (ปอด) อักเสบ และพระอาการอ่อนเพลีย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาจนหายจากพระอาการประชวรแล้ว แต่ยังประทับอยู่ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อให้คณะแพทย์ฯ ทำกายภาพบำบัดถวายเพื่อฟื้นฟูพระวรกาย และเพิ่มกำลังพระกล้ามเนื้อ ตลอดจนถวายพระกระยาหารบำรุงตามหลักโภชนาการนั้น คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวมาเป็นลำดับ แต่ยังทรงพระดำเนินไม่มั่นคง จึงได้ถวายการตรวจพิเศษต่างๆ เป็นระยะๆ ติดต่อกัน ผลปรากฏว่า ทรงมีภาวะน้ำไขสันหลังในโพรงพระสมองมากกว่าปรกติ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ทรงพระดำเนินไม่มั่นคง อาการเช่นนี้มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ คณะแพทย์ฯ ได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างมีความเห็นตรงกันว่าควรถวายการรักษาด้วยวิธีใส่สายระบายน้ำไขสันหลังจากช่องพระสันหลังบริเวณบั้นพระองค์ (บั้นเอว) เข้าสู่ช่องพระนาภี (ช่องท้อง) ซึ่งเป็นการรักษาแบบมาตรฐานทั่วไป ทั้งนี้ได้กำหนดการถวายการรักษาในคืนวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2554 ส่วนผลการตรวจต่างๆ ในระบบอื่นอยู่ในเกณฑ์ปรกติและพระอาการทั่วไปดี เสวยพระกระยาหารได้เป็นปรกติ คณะแพทย์ฯ จะรายงานผลการถวายการรักษาในโอกาสต่อไป
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
2 พฤษภาคม 2554