“มาร์ค” เสนอหน้าหนุนมาตรการจัดทำสัตยาบัน กับ กกต.เพื่อผูกมัดแนวทางการเลือกตั้งของพรรคการเมือง เตรียมประกาศรายชื่อ 375 เขต หลังยุบสภา ยันไม่มีลูกเศรษฐี-นายทุนพรรคเข้าเบียดส.ส.เก่า เน้นความดี-ความรู้-ความสามารถ สนามเลือกตั้งแพร่เริ่มระอุ เด็กแม่เลี้ยงติ๊ก ยันแจกหม้อถูก กม.แฉกลับ “เด็กแม้ว” แจกขันวันสงกรานต์ เตรียมยื่น กกต.สอบฐานผิด กม.เลือกตั้ง
วันนี้ (1 พ.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในวันที่ 2 พ.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะแสดงเจตจำนงของพรรคในการให้การสนับสนุนมาตรการของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทุกเรื่อง เพื่อเป็นหลักประกันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมที่จะให้การเลือกตั้งนี้เป็นทางออกเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และพรรคมีความยินดีหาก กกต.จะให้ลงนามสัตยาบันผูกมัดแนวทางการเลือกตั้งของพรรคการเมือง พรรคขอยืนยันเข้าร่วมเป็นพรรคแรก ในการเข้าร่วมสัตยาบันในทุกลักษณะ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ โดยเฉพาะการไม่ดึงสถาบันสูงลงลงมาเกี่ยวกับการเมือง การหาเสียงตามกติกาของ กกต.และหวังว่า ทุกพรรคจะยืนยันพร้อมกันยอมรับผลการเลือกตั้งในการจัดตั้งรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ
“เชื่อว่า หากการหารือเป็นไปโดยเรียบร้อยก็จะเป็นการส่งสัญญาณสำคัญไปให้สังคมสบายใจว่า การเลือกตั้งคราวนี้ ทุกฝ่ายพร้อมกันให้ประเทศเดินหน้าเข้าสู่การคืนอำนาจประชาชนกำหนดทิศทางอนาคตของประเทศร่วมกัน” นพ.บุรณัชย์ กล่าว
นพ.บุณัชย์ กล่าวว่า ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อคัดเลือกผู้สมัคร ระบุเขตเลือกตั้งทั้ง 375 เขตให้เสร็จสิ้น และคาดว่า จะประกาศรายชื่อภายหลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภา หรือภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ค.ขณะที่บัญชีรายชื่อจะทยอยเปิดในภายหลัง ส่วนกรณีที่นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม.ที่ถูกจับไปขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ระบุว่า พรรคต้องตอบสังคมให้ได้นั้น ยืนยันว่า สังคมเข้าใจอยู่แล้ว ส.ส.ในพรรคก็ไม่มีการย้ายเข้าหรือย้ายออกเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น และรวมถึงพรรคไม่มีการนำลูกเศรษฐีหรือนายทุนเข้ามาทำงาน เพราะพรรคเน้นในเรื่องความรู้ ความสามารถ และความดี รวมถึงกรณีบุตรบุญธรรมของ นายสุเทพ ก็ไม่มีสิทธิ์เหนือคนอื่น ทั้งนี้ เชื่อว่า หากมีการประกาศรายชื่อก็จะสามารถสะท้อนความดีความสามารถของผู้สมัครพะรคประชาธิปัตย์ได้ อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะกรรมการบริหารก็มีความเห็นใจ ผู้สมัครที่อยู่ในระบเขตแล้วถูกย้ายขึ้นไปเพราะคนหล่านั้นมีความผูกพันธ์กับคนในพื้นที่ และอยากทำงานใกล้ชิดกับประชาชน แต่พรรคยืนยันว่าไม่ว่าจะอยู่ในระบบบัญชีไหนก็สามารถทำงานให้ประชาชนในพื้นที่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประสงค์ ชุ่มเชย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 แพร่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ นำคณะกรรมการพัฒนาสตรี จ.แพร่ มาแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้ระบุว่า มีการซื้อเสียงล่วงหน้าด้วยการแจกหม้อประกอบอาหาร โดย นางศิริรรณ ปราศจากศัตรู อดีต ส.ส.แพร่ พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายประสงค์ชี้แจงว่ากลุ่มแม่บ้านใน จ.แพร่ ได้ทำหนังสือขอการสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน อาทิ หม้อและแก้วน้ำ ตั้งแต่ปี 2552 แต่พวกตนได้รวบรวมเงินให้การสนับสนุนเมื่อปี 2553 จนถึง6 เดือนก่อนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภา จึงไม่ถือเป็นความผิดในการซื้อเสียงล่วงหน้าตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
นายประสงค์ กล่าวว่า แต่ปรากฏว่า ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีบางพรรคการเมืองได้มีการแจกขันให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยมีการพิมพ์ชื่ออดีต ส.ส.และยังมีข้อความอวยพรที่อ้างว่าเป็นคนตกยากในต่างแดนระบุอยู่ข้างขัน โดยมีการแจกในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งที่รู้มาตลอดว่าจะมีการยุบสภาในต้นเดือนนี้ ดังนั้น ตนจะนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือตตั้ง (กกต.) ว่า จะเข้าข่ายการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายประสงค์ ยอมรับว่า การเลือกตั้งใน จ.แพร่ มีการแข่งขันสูง โดยในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะมีการส่งนายพงษ์สวัสดิ์ ศุภสิริ น้องชายนางศิริวรรณ ลงเลือกตั้งในเขต 1 ส่วนเขต 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้ใหญ่ในพรรค ส่วนตนเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าจะลงเลือกตั้งในเขต 3