“เทพเทือก” เมิน ส.ส.เขต ปชป.โวยไม่อยากขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ ยันพรรคมีขั้นตอนพิจารณายึดความเหมาะสม ไม่สนความพอใจส่วนตัว พร้อมปัดให้สิทธิ ส.ส.เก่าเจ้าของพื้นที่ลงเลือกตั้งก่อน อ้างส่งลูกบุญธรรมลง ส.ส.เพราะเรียนเก่งได้เกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด แถมมีมารยาททำงานเข้ากับประชาชนในพื้นที่ได้ ปฏิเสธขัดแย้ง “ชวน” หรือแกนนำนพรรคคนอื่น ยัน ปชป.ไม่ใช่พรรคเผด็จการทุกคนมีสิทธิแสดงควาเมห็นเท่ากัน เกทับ พท.ทำโพล ปชป.คะแนนิยมชนะเหนือคู่แข่ง แต่ไม่กล้าบอกลำดับปาร์ตี้ลิสต์ที่ปลอดภัย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาในการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งล่าสุด นางอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ส.ส.กทม.เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาแสดงความไม่พอใจที่ถูกดันขึ้นบัญชีรายชื่อว่า ในฐานะที่มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ว่าโดยฐานะเลขาธิการพรรคหรือเป็น กรรมการบริหารพรรคหรือเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกตัวผุ้สมัคร ส.ส. เรียนว่าพรรคมีระบบในการพิจารณาของพรรคเป็นขั้นตอน และคำนึงประโยชน์ของส่วนรวม เรื่องประโยชน์ส่วนตนของแต่ละคนนั้น พรรคก็ได้ดูแลเท่าที่เห็นสมควร
“การที่พรรคขยับผู้แทนราษฎร หรืออดีตผู้แทนราษฎรบางคนขึ้นไปอยู่บัญชีรายชื่อ เพราะพรรคเห็นว่ามีความเหมาะสมกว่า และมีตัวผู้สมัครคนอื่นที่จะลงพื้นที่แทนได้ดีกว่า ส่วนความชอบใจหรือไม่ชอบใจเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ของพรรค ซึ่งเมื่อผ่านกระบวนการพิจารณาคัดเลือกเสร็จแล้ว เจ้าตัวก็คงจะได้รับแจ้ง ซึ่งคณะกรรมการแต่ละชุดก็จะมีการพูดคุยอธิบายสอบถามกันอยู่เป็นระยะ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าไม่มีปัญหาความขัดแย้งกับนายชวน หลีกภัย ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ที่ระบุว่าน่าจะต้องให้สิทธิแก่ ส.ส.เจ้าของพื้นที่ก่อนที่จะเลือก นายสุเทพย้อนถามว่า “ทำไมต้องคิดว่าเวลาคุณชวนพูดอะไรแล้วเป็นความขัดแย้งกับผมล่ะครับ” เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่า แม้จะอยู่ในพรรคเดียวกันแต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างกันออกไป นายสุเทพกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเผด็จการ ทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นได้เท่าเทียมกัน
ต่อข้อถามว่าแล้วจะรับความคิดเห็นของนายชวนไปพิจารณาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เรารับข้อเสนอของท่านเสมอ ท่านเป็นอดีตหัวหน้าพรรค เป็นประธานคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ผู้อาวุโสของพรรคไม่เฉพาะนายชวนท่านอื่นที่ออกมาพูดจาในพรรคก็ต้องฟังและเอาไปพิจารณาปฏิบัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าโดยหลักแล้วจะต้องให้ ส.ส.เจ้าของพื้นที่ได้มีสิทธิก่อนหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่แน่ แล้วแต่ความเหมาะสม บางคนลงไปทำงานพื้นที่แล้วอาจจะไม่ราบรื่นด้วยคุณลักษณะส่วนบุคคล มันอาจจะต้องเอามาทบทวนกัน คราวนี้เนื่องจากเขตเลือกตั้งเล็กลง จากเดิมเขตใหญ่อยู่ร่วมกัน 3 คน แต่พอกระจายกันลงเป็นแขตเล็กลง ต้องดูว่าแต่ละเขตใครเหมาะสมอย่างไร โดยการพิจารณาพรรคตนจะไม่มีการพิจารณาว่าคนนั้นเป็นสายนั้นสายนี้
ส่วนพวกนักการเมืองที่ชอบเดินประกบหลังนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ยอมลงพื้นที่ยังจะได้ลงสมัคร ส.ส.เขตอีกหรือไม่ นายสุเทพยิ้มๆ พร้อมกล่าวว่า ก็ดูเป็นกรณีๆ ไป ต่อข้อถามว่าพวกทายาทของแกนนพรรค ใช้อะไรประเมินว่าถ้าส่งลงสมัครแล้วต้องได้ นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกับการใช้บารมีของแกนนำพรรค จริงๆ ไม่ใช่เรื่องของทายาท แต่พรรคเปิดกว้าง มีคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่เข้ามายังพรรคประชาธิปัตย์และมีบ้างที่เป็นลูกของ ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค แต่เขาก็ต้องมาเปรียบเทียบคุณสมบัติของคนอื่น เช่น นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ ที่พรรคกำลังพิจารณา ไม่ใช่เพราะเขาเป็นลูกตนหรืออะไร แต่เขาจบเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และมีกิริยามารยาทที่ทำงานเข้ากับประชาชนในพื้นที่เลือกตั้งได้ และเขาลงไปคุลกคลีกับประชานใพนื้นที่ เมื่อพรรคไปดูแล้วไม่มีบุคคลอื่นที่จะมาเปรียบเทียบกันแล้วจะเหมาะสมกว่านี้ พรรคก็จะพิจารณา
ส่วนที่นักวิชาการออกมาวิจารณ์ว่านักการเมืองบ้านเราส่วนใหญ่มักจะเป็นพวก ที่คอยหิ้วกระเป๋าเดินตามนายนั้น นักวิชาการก็มาสมัครดู เราก็จะส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ท่านก็อย่ามองในแง่ร้ายมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันได้หรือไม่ ภายหลังการจัดตัวผู้สมัคร ส.ส.แล้ว จะไม่มี ส.ส.คนใดย้ายพรรค นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องย้ายพรรคห้ามไม่ได้ ยังไม่ทันพิจารณาเสร็จก็มีการย้ายพรรคแล้วก็มี ส่วนเรื่องการจัดทำโพลสำรวจคะแนนนิยมของพรรคนั้นทำเฉพาะบางแห่ง ไม่ได้ทำทุกเขตเลือกตั้ง เพราะบางแห่งคณะผู้บริหารพรรคหรือคณะกรรมการคัดเลือกสงสัยตัดสินใจเลือกไม่ได้ จึงต้องทำโพลถามประชาชนดูว่าเป็นอย่างไร แล้วเอามาเป็นเครื่องประกบการตัดสินใจ แต่ถ้าคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชัดเจนอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำ
เมื่อถามว่าการทำโพลของพรรคได้มีการทำโพลไปถึงว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจจะแพ้ฝ่ายตรงข้าม ต้องไปหาตัวผู้สมัครที่มีคะแนนนิยมดีๆ มาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ขณะนี้ทำโพลออกมาว่าโดยภาพรวมคะแนนนิยมดีกว่าคู่ต่อสู้
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยก็ทำโพลระบุ ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ 1-70 หรือ 80 ของพรรคยังสามารถได้เป็น ส.ส.นั้น นายสุเทพย้อนถามว่า สื่อมวลชนเชื่อเขาหรือไม่ ถ้าเชื่อก็จดเอาไว้ แล้วพอเลือกตั้งเสร็จแล้วเรามาคุยกัน เมื่อถามว่า ส.ส.เขตพรรคประชาธิปัตย์ที่กลัวไม่อยากขึ้นบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ พรรคจะให้ความมั่นใจได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า วีธีการทำงานของเรา บรรดาคนที่เป็นผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว ถ้าเราจะต้องมีคนอื่นมาลงสมัครรับเลือกตั้งแทน พรรคก็จะดูแลให้ได้อยู่ในลำดับที่พรรคมั่นใจว่าจะได้เป็น ส.ส. และทำหน้าที่ทางการเมืองต่อไป เมื่อถามว่าผลสำรวจของพรรคบอกได้หรือไม่ว่า ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อถึงลำดับใดที่อยู่ในช่วงที่ปลอดภัย นายสุเทพ กล่าวเลี่ยงว่า ยังไม่ต้องบอกเดี๋ยวนี้