xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” ชี้ “โหวตโน” โพลออนไลน์ สะท้อน ปชช.อยากเห็นการปฏิรูปการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
โฆษกพันธมิตรฯ ชูโพลออนไลน์ “โหวตโน” นำหน้าการเมืองน้ำเน่า “ปานเทพ” สัญญาณสะท้อน ปชช.อยากเห็นการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ รณรงค์สั่งสอนนักการเมือง ฉะ “มาร์ค” ไม่อายปากให้เลือกคนเลวน้อยที่สุด จี้หากรู้ว่าเลวไม่ควรมาเสนอตัว “ประพันธ์” ซัด “ติ๊งต่าง” ตั้งกลุ่มเชลียร์นายกฯ-ปชป. ใช้คำว่า “สงบ” บังหน้า ฝากถามตอนแดงเผาเมืองไม่เห็นแสดงตัว

วันนี้ (1 พ.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในการแถลงข่าวประจำต่อสื่อมวลชนถึงผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ในหัวข้อ “ถ้าเลือกตั้งวันนี้คุณจะเลือกพรรคใด” ทางหน้าเว็บไซต์ของเอ็มเอสเอ็น ประเทศไทย (th.msn.com) ว่า ขณะนี้พบว่าประชาชนที่ประสงค์จะไม่ลงคะแนนให้ใคร หรือโนโหวต มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ที่ 37 เปอร์เซ็นต์ โดยมีพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับที่ 2 ที่ 36 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้ 26 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในอันดับที่ 3 แสดงให้เห็นว่าคนไทยในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นผู้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารและใช้เทคโนโลยี ต่างมีความเห็นว่าประเทศไทยต้องมีการเปลี่ยนแปลง และยังมีแนวโน้มที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความรู้สึกในทำนองเดียวกันว่า การเมืองตอนนี้ไม่ใช่คำตอบ และจำเป็นต้องมีการปฏิรูปครั้งใหญ่

ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงการรณรงค์โหวตโนของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เป็นการเสียโอกาส รู้สึกเสียดายที่คะแนนจะหายไปเฉยๆ เพราะคะแนนโหวตโนไม่มีผลทางกฎหมาย นายปานเทพกล่าวว่า ขอยืนยันว่าการรณรงค์ของเราไม่ได้ต้องการหวังผลทางกฎหมาย แต่จะเป็นการส่งสัญญาณให้นักการเมือง และผู้มีอำนาจในประเทศนี้ว่า ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายทางการเมือง และไม่ต้องการให้นักการเมืองนำสิทธิของพวกเขาไปใช้แอบอ้างในการทำร้ายประเทศ ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาล ในการโกงบ้านกินเมือง ทุจริตคอร์รัปชัน ไม่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ส่วนฝ่ายค้านก็กลายเป็นเสียงข้างน้อยที่ยอมรับคะแนนในระบบ และยอมจำนนกับเสียงข้างมาก

“ส่วนเสียงที่ไม่ต้องการจะเลือกใคร เป็นการสงวนสิทธิ์ของประชาชนที่พร้อมจะคัดค้านความประพฤติของนักการเมืองที่ไม่ชอบและต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั้งระบบ” นายปานเทพกล่าว

โฆษกพันธมิตรฯ ยังได้กล่าวถึงการที่นายอภิสิทธิ์ขอให้ประชาชนพิจารณาเลือกพรรคที่ดีที่สุดหรือเลวน้อยที่สุดมาเป็นผู้บริหารประเทศว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองที่เลวมากหรือน้อย หากนายอภิสิทธิ์ตระหนักดีว่ามีความเลวด้วยกันทั้งคู่ จึงไม่สมควรที่จะแสดงตัวมาเป็นตัวเลือกให้ประชาชน เราไม่สมควรได้เลือกเพียงคนที่เลวมากหรือเลวน้อย เพราะเราต้องการให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือ การไม่ให้ฝ่ายการเมืองนำคะแนนเสียงของเราไปทำร้ายประเทศไทยต่อไป จึงเห็นว่าประชาชนกำลังตอบรับการไม่เลือกใครมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ยังไม่ได้มีการรณรงค์ไปนอกพื้นที่การชุมนุม ทำให้เห็นว่าประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองสูงมาก และต้องการลงโทษนักการเมือง เปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ นายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวถึงการตั้ง “กลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ” ของนางกาญจนี วัลยเสวี แกนนำกลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ ร่วมกับ ม.ร.ว.รำพิอำภา เกษมศรี และนางเบญจวรรณ กระจ่างเนตร ว่า ตนยอมรับว่านางกาญจนีเคยร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ การในชุมนุม 193 วันต่อต้านระบอบทักษิณ แต่ตนได้ทราบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้เข้าร่วมเพราะมีความนิยมศรัทธาในกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งหมด เป็นแต่เพียงต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ที่พวกเขาสนับสนุนอยู่ได้ประโยชน์จากการชุมนุม ดังนั้น การที่นางกาญจนีตั้งกลุ่มขึ้นมานั้น ไม่ได้ต้องการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองแต่ประการใด เป็นเพียงการตั้งกลุ่มเพื่อเชลียร์และปกป้อง โดยการเป็นปากเป็นเสียงให้แก่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ เพราะหากกลุ่มนี้มีความประสงค์ในความสงบตามที่อ้างจริง ควรที่จะร่วมต่อสู้กับพันธมิตรฯ ในตอนนี้มากกว่า เพราะพวกเราได้ชุมนุมเพื่อต่อต้านการรุกรานทำลายความสงบของประเทศจริง อีกทั้งในเหตุการณ์ที่มีการปะทะตามแนวชายแดน สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีการเผาบ้านเผาเมือง เหตุใดกลุ่มคนเหล่านี้จึงไม่ออกมาแสดงตน

“การตั้งกลุ่มรักสงบนี้ จึงเป็นเพียงเหตุผลบังหน้าที่ไม่ได้ต้องการมารักษาความสงบอะไรทั้งสิ้น โดยต้องการที่จะออกมาปกป้องรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เท่านั้น เนื่องจากเป็นตัวแทนของพวกเขาเหล่านั้น ทั้งที่รัฐบาลมีพฤติกรรมไม่ต่างจากรัฐบาลของระบอบทักษิณ แต่มาวันนี้คนเหล่านี้กลับไปสนับสนุนไม่ต่อต้านเหมือนเมื่อครั้งรัฐบาลระบอบทักษิณ คนเหล่านี้จึงถือว่าไม่ได้มีอุดมการณ์ แต่พันธมิตรฯ มีจุดยืนที่ไม่เปลี่ยนแปลง” นายประพันธ์กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น