"พิภพ" บอกรับไม่ได้ "ชัยวัฒน์" เล่าความเท็จ เหน็บไม่รู้จริงทำไมไม่โทรถาม แย้มประชุมพรรคเอนเอียงเน้นคนมีแนวคิดส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งอภิปราย ชี้อย่าทำตัวเป็นพวกขี้แพ้ชวนตี ปชต.จริงแพ้แล้วต้องยอมรับ แนะ"ชัยวัฒน์ -สมศักดิ์" กลับลำร่วมปฎิรูปประเทศโหวตโนร่วมกับพันธมิตรฯ แนะสืบ "ฮุนเซน" ตั้ง บ.จัดการทรัพย์สินทางทะเล ชนวนสถานการณ์อึมครึมหรือไม่
วันที่ 26 เม.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พล.อ.เตีย บันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พูดชัดเจน ถ้าไม่ได้พื้นที่ทั้งหมดอย่างน้อยต้องได้ พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ขณะที่ ฮุนเซน อาศัยพื้นที่ 4.6 เป็นอนาคตทางการเมือง ซึ่งหากไม่สำเร็จอาจหลุดจากตำแหน่งนายกฯได้ ที่จริงนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ น่าจะรับรู้ได้ตั้งนานแล้ว ส่วน ผบ.ทบ. ก็น่าชัดเจน ที่บอกว่า "จะให้ทหารบุกไปถึงไหน เราอยู่ติดชายแดนแล้ว" นั้น ตนอยากบอกพื้นที่ 4.6 เรายังไม่ได้เข้าไปอย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งนี้เราไม่ต้องการให้ทหารไปรบเหมือนสมัยอยุธยา เราขอแค่รักษาเขตุแดนที่ยอมรับมาตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ไว้ให้ได้เท่านั้นเอง
นายพิภพ ฝาก นักวิชาการ ของไทยสืบให้รู้ว่า ฮุนเซน ไปตั้งบริษัทจัดการทรัพย์สินทางทะเลไว้ต่างประเทศหรือไม่ มีอดีตรองผู้จัดการใหญ่ ปตท. บอกว่าสิ่งที่ควรระวัง หาก ฮุนเซน ไปตั้งบริษัทจะมีผลต่อการปักปันเขตแดนใหม่ เกรงว่านักการเมืองไทยจะไปร่วมด้วย ซึ่งนักการเมืองที่ขี้ฉ้อล้วนทำมาแล้ว ปัญหาชายแดนจะอึมครึม ทำให้ไม่กล้าสั่งทหารทำหน้าที่ปกป้องเช่นทุกวันนี้
“วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ และการรื้อรัวรอบปราสาท เกิดก่อนการร่างเอ็มโอยู43ในสมัย นายชวน หลีกภัย แต่ทำไมถึงไม่เอาวัด ชุมชุน ออกไปก่อน เป็นเหตุให้ต้องตั้งข้อสงสัย ว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์ มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่”
นายพิภพ กล่าวว่าความขัดแย้งในส่วนรวมเกิดขึ้นได้เป็นเรื่อปกติ และสามารถแก้ไขได้ด้วยกระบวนประชาธิปไตย กรณีพรรคการเมืองใหม่ การหาทางออกจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งหรือไม่ในที่ประชุมใหญ่ ถือเป็นภาพที่สวยงามมาก ไม่มีใครจัดตั้งให้ไป หากบอกมีคนจัดตั้ง แล้วฝ่ายสนับสนุนของคุณที่เคลื่อนไปแทบทุกจังหวัดทำไม่ไม่เกณฑ์คนมา เป็นเพราะเขาไม่เอาด้วยกับคุณในเรื่องโหวตโนใช่หรือไม่ หากยังไม่แน่ใจในมติ จะทำโพลถามย้ำ ก็ได้ อย่างไรก็ดี การประชุมมีความเห็นแย้งกัน ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนโหวตโน อีกฝ่ายหนึ่งอยากให้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ก็อยากถามนายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ที่เป็นคนหนึ่งในการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ก่อนประชุมคุณได้เชิญคนที่สนับสนุนให้ลงเลือกตั้งมาประชุมทั้งนั้น อย่างนี้เรียกว่าจัดตั้งหรือไม่
“ตนเป็นคนจุดชนวนเรื่องโหวตโนในรายการสภากาแฟ จากนั้นแกนนำเห็นว่ามีประโยชน์ จึงมีการประชุมร่วมกัน มีมติออกมาชูธงโหวตโน ดังนั้นขอยืนยัน ประเด็นที่กล่าวหาว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นเถ้าแก่สั่งให้โหวตโน ไม่เป็นความจริง”
นายพอภพ กล่าวถึงนายชัยวัฒน์ ว่าข้อความที่เขียน น่าจะพูดถึงเฉพาะความคิดเห็นที่แตกต่างกันเท่านั้น ที่รับไม่ได้ดันเอาความเท็จมาพูด ซึ่งความเห็นกับข้อเท็จจริงคนละเรื่องกัน สิ่งที่พูดนาย สนธิ เป็นเถ้าแก่ เป็นการเขียนที่ผิดข้อเท็จจริงไปเอาข้อมูลมาจากไหน ทั้งที่คุณก็ไม่เคยประชุมร่วม 5 แกนนำเลย และที่ว่าโจรห้าร้อยชนะพระร้อยรูป ก็ไปกันใหญ่แล้ว คุณเคยขึ้นเวทีนี้แทบทุกวัน ดังนั้นที่ว่าโจรห้าร้อย คือคนที่นั่งชุมนุมที่นี่ใช่หรือไม่ สิ่งที่คุณไม่รู้ทำไมไม่โทรถามตนสักคำ
“การประชุมสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ มีข้อสังเกตจากสมาชิก เอนเอียงเล็กน้อยให้คนมีแนวคิดส่งคนเลือกตั้ง อภิปรายเป็นส่วนใหญ่ เรื่องนี้ถือว่าขอกันกินได้ไม่ว่า แต่เมื่อผลรวมโหวตไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ตรงนี้ถือว่าเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ เมื่อเป็นดังนี้แล้วทำไม คุณชัยวัฒน์ ถึงทำตัวเป็นพวกขี้แพ้ชวนตี ระบอบประชาธิปไตย แพ้แล้วต้องยอมรับ”
นายพิภพ กล่าวต่อว่าเรื่องนี้ปัญหามันอยู่ว่า นายชัยวัฒน์ จะจบหรือไม่ หากจบเรามาคุยกันดีกว่า คุณก็เป็นคนหนึ่งที่เคลื่อนไหวกับพันธมิตรมาตลอด เป็นนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยที่ตนเคารพ ตั้งแต่ 1ต.ค.2546 เป็นหนึ่งใน 13 คนที่ถูกจับข้อหากบฎ เหมือนคุณประพันธ์ศักดิ์ บอระเพชร ที่นั่งรถเข็ญอยู่หลังเวทีนี้ ร่วมติดคุกกับคุณ ปัจจุบันก็ยังอยู่กับที่นี่ เราเป็นนักประชาธิปไตยที่มีจิตใจเป็นนักเลงด้วยกันทั้งคู่ คำว่านักเลงก็คือ รู้แพ้รู้ชนะ เราผ่านร้อนหนาวมากมากมาย มวลชนพันธมิตรที่คุณร่วมต่อสู้มา เมื่อคุณแพ้เสียงโหวตไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง วันนี้เรากลับมาต่อสู้ร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้โหวตโน เป็นพลังนำไปสู่การปฎิรูปจะดีกว่าไหม คุณ ชัยวัฒน์ คุณสมศักดิ์