“ธนาธิป” ระบุเรือดำน้ำมือ 2ใช้งบน้อย แต่ได้จำนวนมาก ชี้ความลึกทะเลไม่เป็นอุปสรรคการใช้งาน โอดเป็นชาติมหาอำนาจของอาเซียน แต่ยังไม่มีเรือดำน้ำใช้ พ้อกัมพูชาก็กำลังจมีเรือดำน้ำ เผยสภากลาโหมเห็นชอบ เร่งเสนอ ครม.อนุมัติ คาดใช้เวลาจัดหาน้อยกว่าปกติ น่าจะเข้าประจำการได้ ก.ย.56
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2554 พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมเป็นประธานในการประชุม ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมที่น่าจะใช้เวลามากที่สุด เพราะทางกองทัพเรือมีการชี้แจงเรื่องเรือดำน้ำให้ที่ประชุมได้รับทราบโดย ใช้เวลา 1.40 ชั่วโมง จากนั้นจะทำโครงการสรุปผ่านไปยังสภากลาโหมอีกครั้งหนึ่ง โดยกองทัพเรือมีการชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นในการรักษาผลประโยชน์ทางทะเล และรักษาผลประโยชน์ของชาติ รวมถึงเรื่องการเสริมสร้างขีดความสามารถของเรือดำน้ำในประเทศอาเซียน ที่สำคัญเป็นการรักษาความสมดุลทางทหาร เพราะในทุกประเทศในแถบอาเซียนมีเรือดำน้ำใช้งานอยู่แล้ว และประเทศกัมพูชาก็กำลังจมีเรือดำน้ำ
ส่วนเรือที่ทางกองทัพเรือจัดหา แม้จะเป็นเรือเก่าแต่มีความสอดคล้องต่อสภาพทางทะเล ในพื้นที่แถบอันดามัน ความลึกและความขุ่นของน้ำไม่ได้เป็นผลต่อปัจจัยในการใช้งานแต่อย่างใด ประกอบกับเรือดำน้ำของประเทศเยอรมนีมีหัวใจที่สำคัญ คือ ระบบอินทริเกต ในเรื่องของอาวุธยุทโธปกรณ์ให้สอดรับกันทั้งหมดในการปรับระบบนำร่องของขีปนาวุธต่างๆ ส่วนเหล็กก็มีความคงทนสามารถตอบสนองเรื่องของพื้นที่ในประเทศเราได้ และสามารถตรวจจับได้ยากจากเรดาร์ต่างๆ
พ.อ.ธนาธิปกล่าวว่า เรือดำน้ำน่าจะใช้เวลาในการจัดหาน้อยกว่าปกติที่ตั้งไว้จากเดิม 10 ปี น่าจะเหลือสักประมาณ 5 ปี ส่วนการเข้าประจำการก็น่าจะเร็วขึ้นสักประมาณ 2 ปี ซึ่งคาดว่าประมาณกันยายนปี 56 น่าจะเข้าประจำการได้ และคิดว่ากองทัพเรือจำเนินการจัดโครงการดังกล่าว และนำเสนอเข้าสู่สภากลาโหม โดยอาจจะมีการเชิญสื่อมวลชนเข้ามาร่วมรับฟังทั้งหมดในทุกประเด็นที่เป็นปัญหา อย่างเหตุใดที่เราซื้อเรือเก่า เพราะเรือเก่าใช้งบประมาณไม่ถึงที่ตั้งเป้าไว้ จากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้ 4 หมื่นกว่าล้าน ซื้อได้เพียง 2 ลำ แต่ครั้งนี้เราใช้งบประมาณ 7 พันกว่าล้าน ได้เรือ 6 ลำ
ทั้งนี้ ทางกองทัพจะพยายามนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เร็วที่สุด เพราะสมาชิกหลายฝ่ายเห็นชอบและเห็นความจำเป็นในการพยายามสร้างให้ประเทศของ เราได้ทัดเทียมเพื่อนบ้าน ซึ่งในฐานะที่ไทยเป็นชาติมหาอำนาจของอาเซียน แต่ยังไม่มีเรือดำน้ำใช้ ซึ่งถ้าไม่มีปัญหาอะไรจะนำเสนอเข้าที่ประชุมสภากลาโหมครั้งหน้าได้ และขณะนี้เราทำโครงการคู่ขนานของกองทัพเรือได้ให้ฝั่งรัฐบาลได้ดูคร่าวๆ แล้ว