xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” โวภาพรวม ศก.ตามเป้า โยน “สามสี” ชง ครม.แก้ของแพง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
นายกฯ ยันภาพรวมเศรษฐกิจตามเป้า ชูส่งออกสูง นักเที่ยวเข้าไทยพรึ่บ รับของแพง เงินเฟ้อ ยังเป็นปัญหา โยน รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ รวมข้อมูลชง ครม.สัปดาห์หน้า สั่งแรงงานดูปรับค่าแรงกลางปีนี้ เล็งขึ้นเงินเดือนนักการเมืองท้องถิ่น

วันนี้ (24 เม.ย.) ที่เรือนจำกลางเขาบิน จังหวัดราชบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ว่า การติดตามแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ได้มีการดำเนินการในหลายๆ ด้าน ซึ่งภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจในขณะนี้ก็ถือว่าอยู่ในภาวะที่เป็นไปตามการคาดการณ์ อาจจะมีการเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ในบางเรื่อง ตัวเลขที่เข้ามาทั้งในส่วนของการส่งออก ทั้งในส่วนของการท่องเที่ยวยังเป็นไปด้วยดี จะเห็นได้ว่า การส่งออกก็ยังขยายตัวโดยเฉลี่ยแล้วสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวในไตรมาสแรกของปีนี้ 3 เดือนแรกของปีนี้จากต่างประเทศเข้ามามากกว่า 5 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก และเราก็สามารถที่จะยกเลิกมาตรการชั่วคราวหลายมาตรการก่อนหน้านี้ ซึ่งเราได้มีการออกไปในช่วงที่ประชาคมโลกขาดความมั่นใจในเรื่องของสถานการณ์ภายในประเทศ เพราะฉะนั้นขณะนี้มาตรการเหล่านี้ก็แทบจะไม่จำเป็นแล้วก็มีการยกเลิกไปเกือบหมดแล้ว แล้วก็ยังสามารถที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เป็นปัญหาทางด้านเศรษฐกิจก็ยังคงเป็นปัญหาในเรื่องของแพง เรื่องเงินเฟ้อ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินจึงได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นไปในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ว่าสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่อย่างที่เคยได้ย้ำกับประชาชนก็มี 2 ทาง คือ มีต้นทุนสินค้าอะไรที่เราสามารถที่จะควบคุมดูแลได้ มีกำลังที่จะไปช่วยประชาชนเราก็จะทำ นั้นคือ ที่มาว่า ทำไมในสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลได้ตัดสินใจอย่างชัดเจนในการที่จะอาจจะใช้คำว่ายกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เก็บเอาไว้เพื่อเป็นเทคนิคทางกฎหมายอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง ครึ่งสตางค์ หนึ่งสตางค์ แต่ว่าก็เหมือนกับเป็นการยกเว้นไป เพราะว่าเดิมนั้นเก็บอยู่ที่ประมาณ 5 บาท 30 สตางค์ ที่ทำเช่นนี้ เพราะว่าที่ผ่านมาเราได้ใช้เงินกองทุนน้ำมัน ซึ่งย้ำว่า เราได้สะสมเงินนี้ในช่วงที่ราคาน้ำมันถูกออกมาใช้ช่วยประชาชนเพื่อพยุงราคา คือ ป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลเกิน 30 บาท ที่ทำอย่างนี้เพราะว่าถ้าเกิน 30 บาท เมื่อไร ข้อตกลงซึ่งเคยทำกันไว้กับบรรดาบริษัทขนส่งก็จะทำให้เกิดปัญหาการขึ้นราคาค่าขนส่งและราคาสินค้า แต่ถ้าเราตรึงไว้ที่ 30 บาท สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ไปซ้ำเติมประชาชนในเรื่องของราคาสินค้าต่างๆ เราใช้เงินกองทุนน้ำมันมาขณะนี้กองทุนน้ำมันก็ใกล้จะหมด

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า พูดชัดเจนว่าไม่ประสงค์ที่จะให้กองทุนน้ำมันนั้น เป็นหนี้เป็นสินติดลบเหมือนกับที่เคยทำกันมาในอดีตเกือบแสนล้าน ก็ต้องมาแก้ไขปัญหากันภายหลัง เราก็ได้ตัดสินใจว่าจะให้กองทุนน้ำมันนั้น สามารถที่จะหยุดที่จะเข้าไปช่วยเหลือตรงนี้ โดยเอาเรื่องของภาษีสรรพสามิตเข้ามาแทน ซึ่งก็เคยทำกันมาในอดีต ปี 2551 เมื่อวันที่ราคาน้ำมันดิบสูงเกินร้อยเหรียญต่อบาร์เรลก็เคยมีการดำเนินการเช่นนี้ เพียงแต่ว่า เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายลงรัฐบาลก็กลับมาจัดเก็บภาษีสรรพสามิต อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็เป็นไปตามหลักการของการรักษาเสถียรภาพของราคา มีบางฝ่ายไปพูดถึงเรื่องการบิดเบือนกลไกตลาด ความจริงแล้วการไม่เก็บภาษีการไม่เอากองทุนเข้าไปแทรกแซงนี่ ก็คือราคาตลาดที่แท้จริงของน้ำมัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลกระทบทางด้านการเงินการคลัง เมื่อเราตัดสินใจเช่นนี้ โดยจะทำไปถึงสิ้นเดือนกันยายนก่อน เพื่อจะประเมินอีกครั้งหนึ่งเมื่อสิ้นปีงบประมาณนี่ งบประมาณหรือรายได้ที่จัดเก็บที่สูญเสียไปประมาณ 4 หมื่นกว่าล้าน ไม่กระทบกระเทือนกับกรอบการบริหารนโยบาย เพราะ 4 หมื่นล้านนั้นก็จะประมาณใกล้เคียงกับการจัดเก็บภาษีที่เกินเป้าในขณะนี้ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ขอให้การยืนยันว่า การตัดสินใจครั้งนี้ได้ทำด้วยความรอบคอบ และไม่ได้สร้างปัญหาระยะยาวใดๆ ทั้งสิ้น แต่ว่าพยายามที่จะให้เราสามารถฟันฝ่าสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งราคาน้ำมันนั้น ไม่มีใครตอบได้หรอกว่าที่ยืนอยู่ในราคานี้ ขณะนี้ จะถาวรหรือจะชั่วคราว ยาวนานแค่ไหน เพราะว่าส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางด้านตะวันออกกลาง ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงเราก็จะติดตามอย่างต่อเนื่องต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาสินค้าแพงว่า ราคาไข่ ราคาปุ๋ย ได้มีการมอบหมาย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เดินหน้ารวบรวมข้อมูลอย่างเต็มที่ เพื่อจะมีมาตรการที่นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีได้ ก็คาดว่า จะเป็นในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ นอกจากนั้น การดูแลในเรื่องของการเพิ่มรายได้ก็มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยได้รับการปรับเพิ่มนั้น ขณะนี้ในเรื่องของค่าแรงก็ได้มีการมอบหมายทางกระทรวงแรงงานให้ไปดูว่าในช่วงกลางปีนี้ สมควรที่จะมีการปรับค่าแรงขึ้น เพื่อที่จะให้ประชาชนนั้น สามารถที่จะสู้กับราคาสินค้าของแพงได้

นอกจากนั้น ในสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีก็ยังอนุมัติให้มีการปรับขึ้นค่านิยภัตสำหรับพระสงฆ์ และใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งยังตกหล่นไปก็คือเรื่องของคนทำงานในท้องถิ่น โดยเฉพาะในส่วนของเทศบาล อบจ.และกรุงเทพฯ ในส่วนของ ส.ก., ส.ข., ส.จ., ส.ท.ซึ่งยังไม่ได้รับการปรับขึ้น ก็จะได้มีการพิจารณา ก็จะดูตัวเลขให้มีความเหมาะสม ให้เกิดความเป็นธรรมที่จะรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้ ขอย้ำว่า รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน และจะทำทุกวิถีทางทั้งในด้านของการที่จะดูแลกำกับราคาสินค้า
กำลังโหลดความคิดเห็น