ที่ประชุม ครม.สั่งทุกระทรวงเร่งพิจารณาของบ ก่อนยุบสภาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทิ้งทวนอนุมัติงบกว่า 4 พันล้านบาท ให้กองทัพจัดซื้อรถถังยานเกราะยูเครน ไฟเขียว บำเหน็จ “จนท.ปราบยาเสพติดดีเด่น” ตั้งเพดานไม่เกินร้อยละ 0.5 ของเงินเดือนตาม “เทพเทือก” เสนอ
วันนี้ (20 เม.ย.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า นายกฯได้แจ้งให้ที่ประชุม ทราบว่า อีก 2 สัปดาห์ก็จะมีการยุบสภาตามกำหนดเดิม ดังนั้น จึงเร่งให้รัฐมนตรีรีบเสนองานเข้ามาที่ ครม.เพื่อให้พิจารณา นอกจากนี้ นายกฯได้ให้เลขาธิการ ครม.หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา และปรึกษากับ กกต.ด้วย ว่า ในช่วงที่มีการยุบสภาแล้ว ทาง ครม.จะสามารถทำอะไรได้บ้างในช่วงที่มีการประชุม ครม.โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง สำหรับการประชุม ครม.อีก 2 ครั้งที่เหลือ ก่อนที่รัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลรักษาการนั้น การประชุม ครม.ครั้งหน้าวันอังคาร จะมีการประชุมกันที่รัฐสภา ส่วนอีกครั้งหนึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ค.
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องที่ ครม.ได้พิจารณานั้น วันนี้ ครม.ได้อนุมัติตามข้อเสนอของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่จะให้ขยายพื้นที่การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ออกไปอีก 30 วัน ในพื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ดุสิต ปทุมวัน วังทองหลาง วัฒนา และ ราชเทวี เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความต่อเนื่อง โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.54- 24 พ.ค.54 โดยให้ ศอ.รส.เป็นหลักตามเดิม
นายปณิธาน ยังกล่าวด้วยว่า ครม.ยังอนุมัติให้ ผบ.ทบ.หรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามในข้อตกลงซื้อยานเกราะแบบต่างๆ ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย รวมทั้งการลงนามในเอกสารการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ข้อตกลงในการจัดซื้อรถนายเกราะแบบต่างๆ โดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล จากรัฐบาลยูเครน ในวงเงินประมาณ 4,318 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องต่อเนื่องที่ ครม.เคยมีมติไว้แล้วตั้งแต่ปี 53 และมีการกำหนดให้ก่อหนี้ผูกพันในการจัดหายานเกราะ เพื่อให้กองทัพมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยจำนวน 121 คัน ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติ และเห็นว่า ไม่เข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญา
นอกจากนี้ ครม.ยังได้อนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอให้ก่อหนี้ผูกพันของกองทัพบก ข้ามปีงบประมาณในโครงการจัดหาปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มิลลิเมตร ระยะที่ 4 ห้วงที่ 2 ในวงเงินประมาณ 882 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาประมาณ 3 ปี ตั้งแต่ปี 54-56 ซึ่งเป็นการทดแทนของเดิมที่มีสภาพเก่า ชำรุด แต่จะมีการจัดซื้อจำนวน 13,331 กระบอก วงเงิน 882 ล้านบาท ซึ่งครม.อนุมัติตามที่เสนอ
ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติตามที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้เสนอให้ ครม.พิจารณามอบบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดประจำปี 2553 ซึ่งเป็นผู้มีผลงานการปราบปรามยาเสพติดดีเด่น จำนวน 292,767 คน ทั้งนี้เพดานเงินไม่เกินร้อยละ 0.5 ของเงินเดือน โดยผู้ที่ได้รับเงินเดือนเต็มขั้นให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด
