ปชป.ระบุ “พลังชล” ไม่กระทบ ปชป. เพราะมีฐานเสียงแค่จ.ชลบุรีเทานั้น เชื่อเป็นพรรคลูก ภท. เชื่อภาคกลางจะได้ ส.ส.เพิ่ม ส่วน “มานิตย์” ยังไม่ชัดเจนว่าจะอยู่หรือไป เรียกร้อง ปชช.ลงโทษ ส.ส.ขายตัว
วันนี้ (17 เม.ย.) ที่ประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับการตั้งพรรคพลังชล ในฐานะที่เป็นกรรมการบริหารและคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัครพื้นที่ภาคกลาง คิดว่าการตั้งพรรคไม่มีผลกระทบต่อพรรค ปชป.ในภาคตะวันออก กลุ่มชลบุรีหรือกลุ่มของนายสนธยา คุณปลื้ม มีเฉพาะที่ชลบุรี ที่เสียที่นั่งให้ ปชป.ยกจังหวัด 8 ที่นั่ง แต่ด้วยความเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เป็นฐานส่วนหนึ่งที่ทำให้กลุ่มนี้ไปตั้งพรรคใหม่ไม่แน่ใจว่าเป็นพรรคลูกของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่
“จากการสำรวจที่ จ.ชลบุรี มักจะเลือกผู้นำผู้บริหารพรรคการเมืองนั้นๆ ขณะนี้ไม่ทราบว่าพรรคพลังชลจะมีใครเป็นหัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เป็นที่นิยมของคนภาคตะวันออกเป็นผู้นำ ส่วนจังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด ปราจีน ฉะเชิงเทรา พรรคประชาธิปัตย์จะปักธงเพิ่ม หลังจากการทำโพลคิดว่าจะได้ที่นั่ง ส.ส.เพิ่มเติม พรรคพลังชลไม่มีฐานเสียงที่พูดถึงคิดว่าเป็นเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่มีพรรคมัชฌิมาเข้ามา แต่สุดท้ายเวลาที่ประชาชนตัดสินใจเลือกจะเป็นแลนด์สไลด์ว่าใครเป็นคนมาบริหารประเทศ ดูที่ผู้นำและตัวผู้สมัคร พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าจะได้ ส.ส.ชลบุรีอย่างน้อย 6 ที่นั่ง แต่ถ้าจะให้ได้ 8 ที่นั่งก็ต้องทำการบ้านให้หนักกว่าเดิม” นายสาธิตกล่าว
นายสาธิตกล่าวว่า ส่วนกรณีนายมานิตย์ ภาวสุ ส.ส.ชลบุรี ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะย้ายพรรคชัดเจน แต่อยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ หรือหยุดเล่นการเมือง หรือย้ายสังกัดไปพรรคการเมืองอื่น ยังพูดคุยกันอยู่ ซึ่งเคารพการตัดสินใจว่าจะใช้แนวทางไหน หากนายมานิตย์ย้ายไปพรรคเพื่อไทยก็รับได้ แต่ขอเรียกร้องให้ประชาชนตรวจสอบ นักการเมืองย้ายพรรค ว่าย้ายด้วยอุดมการณ์หรือย้ายเพราะการซื้อขายตัว คนที่จะลงโทษ ส.ส.เหล่านี้ได้ คือประชาชนนั่นเอง ทั้งนี้ การจัดสรรคนขณะนี้พร้อม 80-90% เพราะต้องรอ กกต.ประกาศเขตเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะประกาศวันที่ 20 เม.ย. จากนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็จะประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรีได้
นายสาธิตกล่าต่อว่า กรณีของ พล.ต.ต.วีระ อนันตกูล ส.ส.ชลบุรี ถ้าได้ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ท่านก็พอใจก็พอใจ ไม่มีปัญหายังหารือกันอยู่ ทั้งนี้การตกลงบนความต้องการทุกคนคงไม่ได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับผลประโยชน์โดยรวมของพรรค