“โฆษกมาร์ค” มั่นใจไม่มีคนขวางออก กม.ลูกทั้ง 3 ฉบับ ปลอบ “สดศรี” อาจเข้าใจผิด โต้เพื่อไทยมือที่มองไม่เห็น จ้องทำปฏิวัติ ยุ “เหลิม” ตั้งพรรคใหม่ หวั่นสภาขาดสีสัน ดักคอ ปชป.ไม่ต้อนรับอ้างมีแม่เหล็กอยู่ในพรรค
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงที่ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการพรรคการเมือง ระบุว่า มีกลุ่มคนขัดขวางการออกกฎหมายลูก 3 ฉบับ แต่ตนเห็นว่าไม่มีกลุ่มใดที่ออกมาขัดขวาง โดยเฉพาะในที่ประชุมสภา ก็มีการลงมติเกี่ยวกับเรื่องนี้แบบเป็นเอกฉันท์ ซึ่งทำให้เห็นว่าทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างก็มีการผลักดันให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพราะฉะนั้นการที่นางสดศรีออกมาพูดเช่นนี้ อาจจะมีการเข้าใจผิด หรือไม่ก็อาจจะเป็นการโยนหินถามทาง ทางเมืองก็เป็นได้
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่ามีมือที่มองไม่เห็นอยู่เบื้องหลังการเมือง และกำลังคิดทำปฏิวัตินั้น ตนคิดว่า ในขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น เว้นแต่พวกหัวที่มองไม่เห็น ก็คือ พรรคการเมือง ที่ไม่มีหัว แต่พยายามแทรกแซงทางการเมืองตลอดเวลา
ส่วนกรณีการลาออกจาก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นั้น นายเทพไท กล่าวว่า เหมือนเป็นการเสียเปล่าทางการเมือง เพราะเห็นได้ชัดว่าท่าทีของคนในพรรคเพื่อไทยไม่มีใครสนใจการลาออกของ ร.ต.อ.เฉลิม แถมยังมีการขับไล่ไสส่งให้ออกจากพรรคด้วยซ้ำ ในฐานะที่ตนก็เป็นนักการเมือง ตนรู้สึกเสียดายที่สีสันของสภาจะขาดไป เพราะฉะนั้นตนจึงสนับสนุนให้ ร.ต.อ.เฉลิม กลับเข้าสู่เส้นทางทางการเมือง ซึ่งหากไม่สังกัดพรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม ก็สามารถตั้งพรรคใหม่ได้ แม้ ร.ต.อ.เฉลิม จะระบุว่า หาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็อาจจะกลับมาเล่นการเมือง แต่ตนคิดว่าหากเป็นเช่นนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ผู้ที่เคยประกาศตัวท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็คงจะอยู่ในพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เช่นกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ร.ต.อ.เฉลิม ตัดสินใจกลับเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือว่าเป็นบ้านหลังเก่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้อนรับหรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ต้องการกลับมาหรอก เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ถือเป็นนักการเมืองแบบแม่เหล็ก และพรรคประชาธิปัตย์ก็มีแม่เหล็กอยู่แล้ว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อถึงกรณีการแบ่งเขตของกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ที่ปัจจุบันได้มีการแบ่งเขต 375 เขตเรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหาในการแบ่งเขตต่างจังหวัดเริ่มมีปัญหา โดยตนต้องการเรียกร้องไปยัง กกต.ทั้ง 5 คน ให้เข้ามาดำเนินการทำทุกอย่างแบบเปิดเผยด้วย เพราะตนได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก ว่า การแบ่งเขตไม่มีการทำประชามติจากประชาชนในพื้นที่ เหมือนเป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามความคิดเห็นของนายเทพไท ต่อกรณีที่ศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ่ายเงินจำนวน 552 ล้านบาท เป็นค่าเสียหายจากรณีสนามบินนั้น นายเทพไท ตอบแบบปัดๆ ว่า ตนไม่ขอตอบ เพราะไม่มีข้อมูล และขี้เกียจตอบ