xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ถอนเจบีซีพ้นสภา-ขยาย พ.ร.ก.3 จว.ใต้ต่อ 3 ด.-เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สวัสดิการชาวนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
มติ ครม.อ้างคำวินิจฉัยศาล รธน.ถอนเจบีซี 3 ฉบับออกจากสภา โยน กต.เจรจาตกลง ชี้ หากทำสัญญาค่อยส่งเข้าสภาใหม่-เห็นชอบขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จว.ใต้ เว้นแม่ลาน อีก 3 เดือน-อนุมัติปรับลดงบกลางใช้ปราบยาเหลือ 140 ล้าน-เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.สวัสดิการชาวนา ส่ง คลัง-กฤษฎีกา ดูร่างกฎหมาย

วันนี้ (12 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ครม.มีมติให้ถอนข้อตกลงเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ทั้ง 3 ฉบับออกจากรัฐสภา และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินไปตามขั้นตอนในเรื่องของการเจรจา การทำความตกลง แต่ถ้าจะมีเรื่องของการทำสัญญาก็เสนอให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป เนื่องจาก ครม.ได้รับทราบผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า การดำเนินการข้อตกลงเขตแดนไทย-กัมพูชา ยังมีขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการของฝ่ายบริหารอีกหลายขั้นตอน

โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้ขยายเวลา พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ จ.นราธิวาส จ.ยะลา จ.ปัตตานี ยกเว้น อ.แม่ลาน อีก 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.54 เป็นต้นไป เพราะการทำงานที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถขยายผลการปฏิบัติ เพื่อแก้ไขความไม่สงบเรียบร้อย จับกุมผู้ก่อความไม่สงบ คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้การก่อเหตุร้ายแรง และสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบมีศักยภาพในการปฏิบัติการ และยังมีความประสงค์ที่จะก่อเหตุร้ายแรงในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่ มีการทำร้ายเจ้าหหน้าที่ และประชาชน มุ่งให้เกิดความเกรงกลัว ซึ่งกระทบต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชนไม่สามารถดำรงชีวิตให้เป็นปกติสุข

โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังแถลงว่า ครม.อนุมัติกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เสนอขออนุมัติงบกลางประจำงบประมาณปี 2554 ได้ดำเนินการการปฎิบัติการประเทศไทยเข้มแข็งชนะยาเสพติดยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันระยะที่ 3 ในช่วงเดือน เม.ย.-ก.ย.54 จำนวน 250 ล้านบาท แต่สำนักงบประมาณเห็นว่ากรณีดังกล่าวควรที่จะปรับลดลงเหลือ 140 ล้านบาทเศษ

ด้าน นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ตามที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขอความเห็นชอบจากครม.ในร่างพระราชบัญญัติกองทุนสวัสดิการชาวนา ในเบื้องต้น นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ ได้ชี้แจง และรายงานถึงเหตุผลที่จำเป็น ว่า ชาวนาเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ มีจำนวนถึง 3.7 ล้านครัวเรือน ไม่ปรากฏว่า ชาวนามีระบบสวัสดิการ หรือสิ่งที่เป็นหลักประกันในชีวิตได้ กระทรวงเกษตรฯ จึงเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้น โดยในเบื้องต้นมีความเห็นที่หลากหลาย โดยเฉพาะใน 2 ประเด็น คือ เรื่องของ ครม.หน่วยงานบางส่วนอาจจะเกรงว่า อาจจะไปซ้ำซ้อนกองทุนอื่นๆ อาทิ กองทุนการออมแห่งชาติที่เป็นร่าง พ.ร.บ.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา หรือมีข้อสังเกตในเรื่องการจัดตั้งองค์กรหรือหน่วยงานที่มารองรับ

นายวัชระ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายว่า เป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชนในด้านการออมและสวัสดิการต่างๆ และรัฐบาลอยากให้ประชาชนมีทางเลือกในการเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ และการออมต่างๆ ของรัฐมากขึ้น หรือสามารถที่จะเลือกเข้ากองทุนที่สังกัดกระทรวงการคลัง หรือกระทรวงแรงงาน ได้ต่างๆ ซึ่ง ครม.จึงได้เห็นชอบในหลักการเรื่องร่าง พ.ร.บ.กองทุนสวัสดิการชาวนา และมีบางประเด็นที่ ครม.มอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปดูในรายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริง และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวนามากที่สุด โดยเฉพาะกรณีเงินสมทบที่เกษตรกรจะต้องส่งมาสมทบในกองทุนที่ขณะนี้ตามร่าง เดิมที่เสนอต่อ ครม.นั้น มีประมาณ 1.5 เท่า ดูแล้วจะสูงกว่ากองทุนอื่นๆ และในเรื่องสิทธิประโยชน์อื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น