ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้(23 ก.พ.)กลุ่มส.ส.ใต้พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา นายอับดุลการิม เต็งระกีนา ส.ส.ยะลา นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และนายอิสมาแอล เบญอิบรอฮิม ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อกรณีการเกิดเหตุระเบิดในรายวันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
นายประเสริฐ กล่าวว่า พวกตนเป็นส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้มองว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการสร้างสถานการณ์ แต่เป็นความจงใจให้เกิดขึ้นเพื่อสร้างความเดือดร้อน และมองว่าเป็นสงครามย่อยๆ และไม่เชื่อว่ากลไกรัฐ ไม่สามารถหยุดปัญหาดังกล่าวได้ เพราะพื้นที่ที่เกิดเหตุส่วนใหญ่เป็นใจกลางเมือง หรือเป็นพื้นที่ไข่แดง ซึ่งจุดที่เกิดเหตุในแต่ละจุดห่างกันไม่เกิน 100 เมตร มีการตรวจตราอย่างแน่นหนา แต่ยังมีระเบิดหลุดรอดจนเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์
ดังนั้น พวกตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนเจ้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมีรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณ ทหาร ตำรวจ และเรือเหาะ ให้ไปหมดแล้ว เหลือเพียงอย่างเดียวคือการปรับเปลี่ยน เพราะที่ผ่านมา จากการรับฟังปัญหาจากชาวบ้านคือต้องการให้ทหารออกจากพื้นที่ เพราะไม่เชื่อว่าจะป้องกันสถานการณ์ได้
“ทหารบางคนเข้ามาบรรจุ เพื่อหวังรับตำแหน่งแบบก้าวกระโดด ไม่ยอมออกจากบ้าน ถึงเวลามาเซ็นชื่อเข้าบ้านก็มีเยอะ แต่เมื่อครบกำหนด ก็ได้รับตำแหน่งสูงกว่าเดิม ดังนั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเหมือนรถ หากคันนี้ใช้ไม่ได้ก็เอาคันใหม่มา หากคันใหม่มาใช้ไม่ได้ ก็ต้องซื้อคันใหม่เอาที่แรงกว่า”
เมื่อถามว่า ควรมีการปรับเปลี่ยนตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เลยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า หากปรับเปลี่ยนได้ก็ดี ทั้งนี้ ที่ผ่านมาส.ส.ได้เขียนกฎหมายศอ.บต. ที่ได้เขียนให้นายกฯเป็นประธาน และแต่งตั้งให้รัฐมนตรีรับผิดชอบในพื้นที่ แต่ส.ว.กลับมีการไปแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ทำให้นายกฯต้องลงมารับผิดชอบด้วยตัวเอง ซึ่งความเป็นจริงนายกฯกีมีภารกิจอยู่มาก จึงไม่สามารถลงมาแก้ปัญหาได้อย่างเต็มที่
เมื่อเวลา 08.00 น.ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ ก่อนเดินทางลงพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ที่กลุ่ม ผู้ก่อความไม่สงบมักจะก่อเหตุในพื้นที่ชุมชน นั้น ที่ผ่านมาการก่อเหตุในพื้นที่ชุมชนน้อยลง เพราะเราใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้น ในพื้นที่ชนบทรอบๆ เมือง จึงมีความเป็นไปได้ว่า ผู้ก่อความไม่สงบพยายามปรับเปลี่ยนสถานการณ์ไป และเราได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น
“ถ้าจะมาว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดคงไม่ได้ ผู้ร้ายไม่ถูกว่าเลยได้อย่างไร เขาเก่งสุดยอดหรืออย่างไร ให้ไปว่ากันบ้างว่า มันทำกันอย่างไร มันฆ่าคนบริสุทธิ์ได้อย่างไร ฆ่าครู ฆ่าพระ มันเป็นใคร ทำไม่ถึงไม่ไปสาปแช่งมันบ้าง เจ้าหน้าที่ก็ลงพื้นที่ ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน รวมแล้วประมาณ 6 หมื่นคน จะให้ไปยืนตามป่าเขาพื้นที่ในเมืองทุกจุด ก็ไม่ได้ ต้องไปวางจุดเพื่อครอบคลุมพื้นที่ให้ได้ โดยทั้งหมดมี 3 หน่วยเฉพาะกิจ กระจายฐานปฏิบัติการออกไป 300 กว่าฐาน ถามว่าทำให้มากกว่านี้ได้หรือไม่ ก็ขอตอบว่าได้ถ้ามีกำลังมากพอ ส่งเฝ้าทุกแยกทุกจุด ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า พวกตนเป็นส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้มองว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการสร้างสถานการณ์ แต่เป็นความจงใจให้เกิดขึ้นเพื่อสร้างความเดือดร้อน และมองว่าเป็นสงครามย่อยๆ และไม่เชื่อว่ากลไกรัฐ ไม่สามารถหยุดปัญหาดังกล่าวได้ เพราะพื้นที่ที่เกิดเหตุส่วนใหญ่เป็นใจกลางเมือง หรือเป็นพื้นที่ไข่แดง ซึ่งจุดที่เกิดเหตุในแต่ละจุดห่างกันไม่เกิน 100 เมตร มีการตรวจตราอย่างแน่นหนา แต่ยังมีระเบิดหลุดรอดจนเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์
ดังนั้น พวกตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนเจ้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมีรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณ ทหาร ตำรวจ และเรือเหาะ ให้ไปหมดแล้ว เหลือเพียงอย่างเดียวคือการปรับเปลี่ยน เพราะที่ผ่านมา จากการรับฟังปัญหาจากชาวบ้านคือต้องการให้ทหารออกจากพื้นที่ เพราะไม่เชื่อว่าจะป้องกันสถานการณ์ได้
“ทหารบางคนเข้ามาบรรจุ เพื่อหวังรับตำแหน่งแบบก้าวกระโดด ไม่ยอมออกจากบ้าน ถึงเวลามาเซ็นชื่อเข้าบ้านก็มีเยอะ แต่เมื่อครบกำหนด ก็ได้รับตำแหน่งสูงกว่าเดิม ดังนั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเหมือนรถ หากคันนี้ใช้ไม่ได้ก็เอาคันใหม่มา หากคันใหม่มาใช้ไม่ได้ ก็ต้องซื้อคันใหม่เอาที่แรงกว่า”
เมื่อถามว่า ควรมีการปรับเปลี่ยนตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เลยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า หากปรับเปลี่ยนได้ก็ดี ทั้งนี้ ที่ผ่านมาส.ส.ได้เขียนกฎหมายศอ.บต. ที่ได้เขียนให้นายกฯเป็นประธาน และแต่งตั้งให้รัฐมนตรีรับผิดชอบในพื้นที่ แต่ส.ว.กลับมีการไปแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ทำให้นายกฯต้องลงมารับผิดชอบด้วยตัวเอง ซึ่งความเป็นจริงนายกฯกีมีภารกิจอยู่มาก จึงไม่สามารถลงมาแก้ปัญหาได้อย่างเต็มที่
เมื่อเวลา 08.00 น.ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ ก่อนเดินทางลงพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ที่กลุ่ม ผู้ก่อความไม่สงบมักจะก่อเหตุในพื้นที่ชุมชน นั้น ที่ผ่านมาการก่อเหตุในพื้นที่ชุมชนน้อยลง เพราะเราใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้น ในพื้นที่ชนบทรอบๆ เมือง จึงมีความเป็นไปได้ว่า ผู้ก่อความไม่สงบพยายามปรับเปลี่ยนสถานการณ์ไป และเราได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น
“ถ้าจะมาว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดคงไม่ได้ ผู้ร้ายไม่ถูกว่าเลยได้อย่างไร เขาเก่งสุดยอดหรืออย่างไร ให้ไปว่ากันบ้างว่า มันทำกันอย่างไร มันฆ่าคนบริสุทธิ์ได้อย่างไร ฆ่าครู ฆ่าพระ มันเป็นใคร ทำไม่ถึงไม่ไปสาปแช่งมันบ้าง เจ้าหน้าที่ก็ลงพื้นที่ ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน รวมแล้วประมาณ 6 หมื่นคน จะให้ไปยืนตามป่าเขาพื้นที่ในเมืองทุกจุด ก็ไม่ได้ ต้องไปวางจุดเพื่อครอบคลุมพื้นที่ให้ได้ โดยทั้งหมดมี 3 หน่วยเฉพาะกิจ กระจายฐานปฏิบัติการออกไป 300 กว่าฐาน ถามว่าทำให้มากกว่านี้ได้หรือไม่ ก็ขอตอบว่าได้ถ้ามีกำลังมากพอ ส่งเฝ้าทุกแยกทุกจุด ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
