อดีตโฆษก กก.ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา ชี้ ดีเอสไอสรุปฆ่าช่างภาพยุ่น สมรภูมิคอกวัว ช้า เป็นธรรมชาติของผู้มีอำนาจให้หน่วยงานรัฐเป็นบุญคุณ เชื่อ ลากยาวไปเรื่อย คาด กลุ่มแผ่อำนาจลงข้อมูลจะโผล่ จ่อชงสภาสูงตั้งทีมงานใหม่ หวั่น ส.ว.ชุดใหม่เข้าใจงานผิด ยันตั้งทีมแค่เพิ่มช่องทางทำงานให้
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี ในฐานะอดีตโฆษกคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่บรรณาธิการข่าวประจำภาคพื้นเอเชีย สำนักข่าวรอยเตอร์ เข้าทวงถามความคืบหน้ากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีการเสียชีวิตของ นายฮิโรยูกิ มูราโมโต ช่างภาพรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น ขณะปฏิบัติหน้าที่ในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง วันที่ 10 เมษายน 53 ที่มีความล่าช้า ว่า เป็นธรรมชาติของฝ่ายมีอำนาจ โดยเฉพาะผู้มีอำนาจของสังคมการเมืองไทย ที่หลัง 19 กันยายน 2549 พยายามจะทำให้ทุกหน่วยงานภาครัฐเป็นองคาพยพของตนเองให้มากที่สุด ผลคือ เกิดวิถีอุปถัมภ์ ระบบบุญคุณ ทำให้คนที่คิดจะทำงานตรงไปตรงมาต้องคอยเกรงใจ ฉะนั้น การทำคดีของข้าราชการประจำ แม้จะทำเต็มที่ แต่ก็ยาก เพราะทำแล้วไปขัดกับฝ่ายบริหารที่มีอำนาจอยู่ในขณะนั้นไม่ได้ จึงเชื่อว่า คงมีการทำคดีให้ลากยาวออกไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ คณะกรรมการแม้จะติดตามเรื่องนี้มาตลอด แต่พอเชิญดีเอสไอไป ก็ไม่เคยมาให้ข้อมูล แต่ก็ได้ข้อมูลจากส่วนต่างๆ มากพอสมควร วันหนึ่งกลุ่มที่แผ่อำนาจลดอำนาจลง ข้อมูลจากส่วนต่างๆ ก็เปิดเผยออกมามากขึ้น และน่าจะทำให้เกิดความรับผิดชอบในกรณีดังกล่าวได้
นายสิงห์ชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานของคณะกรรมการในการติดตามคดี ขณะนี้คณะกรรมการหมดวาระตั้งแต่ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา พ้นวาระ แต่กรรมการได้หารือเพื่อให้ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาติดตามงานต่อ เบื้องต้นได้หารือในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิ) เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา โดยจะขอให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งจะมีอำนาจออกคำสั่งเรียกบุคคลมาชี้แจงอันมีสภาพบังคับ เพราะร่าง พ.ร.บ.ออกคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว อย่างไรก็ดี หากที่ประชุมไม่เห็นด้วย ก็จะขอให้ประธานคนใหม่ใช้อำนาจตั้งคณะกรรมการในรูปแบบเดิมเพื่อเข้ามาทำหน้าที่
“แต่ผมยังกังวลว่า ส.ว.สรรหา ที่เข้ามาใหม่ เพราะอาจเข้าใจว่า กรรมการชุดนี้เป็นฝ่ายเสื้อแดง และผู้ที่อุปถัมภ์ ส.ว.สรรหา อาจร้องขอไว้ ทั้งที่ความเป็นจริงกรรมการชุดนี้เป็นการทำหน้าที่เพื่อเพิ่มช่องทางให้ ส.ว.ได้ทำงาน และเป็นช่องทางให้คนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมเข้ามา ทั้งนี้ ประชาธิปไตยต้องมีเวทีให้คนได้พูด ไม่ใช่คณาธิปไตยที่มีคนบางกลุ่มมาบังคับกะเกณฑ์ให้เลี้ยวขวาตลอด ซึ่งอันตราย อย่างไรก็ดี หากตั้งไม่ได้ งานที่ทำมาทั้งหมดคงสูญเปล่า แต่คณะกรรมการ ตั้งใจว่า จะเปิดเผยรายงานการศึกษาซึ่งกำลังทำสรุปอยู่ โดยไม่ได้ตอบโจทย์ว่าใครผิดหรือถูก แต่จะเป็นการนำข้อมูลที่ได้มา ประกอบเป็นภาพให้เห็นเหลี่ยมมุมที่รอบด้าน หลากหลาย” นายสิงห์ชัย กล่าว
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี ในฐานะอดีตโฆษกคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่บรรณาธิการข่าวประจำภาคพื้นเอเชีย สำนักข่าวรอยเตอร์ เข้าทวงถามความคืบหน้ากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีการเสียชีวิตของ นายฮิโรยูกิ มูราโมโต ช่างภาพรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น ขณะปฏิบัติหน้าที่ในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง วันที่ 10 เมษายน 53 ที่มีความล่าช้า ว่า เป็นธรรมชาติของฝ่ายมีอำนาจ โดยเฉพาะผู้มีอำนาจของสังคมการเมืองไทย ที่หลัง 19 กันยายน 2549 พยายามจะทำให้ทุกหน่วยงานภาครัฐเป็นองคาพยพของตนเองให้มากที่สุด ผลคือ เกิดวิถีอุปถัมภ์ ระบบบุญคุณ ทำให้คนที่คิดจะทำงานตรงไปตรงมาต้องคอยเกรงใจ ฉะนั้น การทำคดีของข้าราชการประจำ แม้จะทำเต็มที่ แต่ก็ยาก เพราะทำแล้วไปขัดกับฝ่ายบริหารที่มีอำนาจอยู่ในขณะนั้นไม่ได้ จึงเชื่อว่า คงมีการทำคดีให้ลากยาวออกไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ คณะกรรมการแม้จะติดตามเรื่องนี้มาตลอด แต่พอเชิญดีเอสไอไป ก็ไม่เคยมาให้ข้อมูล แต่ก็ได้ข้อมูลจากส่วนต่างๆ มากพอสมควร วันหนึ่งกลุ่มที่แผ่อำนาจลดอำนาจลง ข้อมูลจากส่วนต่างๆ ก็เปิดเผยออกมามากขึ้น และน่าจะทำให้เกิดความรับผิดชอบในกรณีดังกล่าวได้
นายสิงห์ชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานของคณะกรรมการในการติดตามคดี ขณะนี้คณะกรรมการหมดวาระตั้งแต่ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา พ้นวาระ แต่กรรมการได้หารือเพื่อให้ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาติดตามงานต่อ เบื้องต้นได้หารือในคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิ) เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา โดยจะขอให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งจะมีอำนาจออกคำสั่งเรียกบุคคลมาชี้แจงอันมีสภาพบังคับ เพราะร่าง พ.ร.บ.ออกคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว อย่างไรก็ดี หากที่ประชุมไม่เห็นด้วย ก็จะขอให้ประธานคนใหม่ใช้อำนาจตั้งคณะกรรมการในรูปแบบเดิมเพื่อเข้ามาทำหน้าที่
“แต่ผมยังกังวลว่า ส.ว.สรรหา ที่เข้ามาใหม่ เพราะอาจเข้าใจว่า กรรมการชุดนี้เป็นฝ่ายเสื้อแดง และผู้ที่อุปถัมภ์ ส.ว.สรรหา อาจร้องขอไว้ ทั้งที่ความเป็นจริงกรรมการชุดนี้เป็นการทำหน้าที่เพื่อเพิ่มช่องทางให้ ส.ว.ได้ทำงาน และเป็นช่องทางให้คนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมเข้ามา ทั้งนี้ ประชาธิปไตยต้องมีเวทีให้คนได้พูด ไม่ใช่คณาธิปไตยที่มีคนบางกลุ่มมาบังคับกะเกณฑ์ให้เลี้ยวขวาตลอด ซึ่งอันตราย อย่างไรก็ดี หากตั้งไม่ได้ งานที่ทำมาทั้งหมดคงสูญเปล่า แต่คณะกรรมการ ตั้งใจว่า จะเปิดเผยรายงานการศึกษาซึ่งกำลังทำสรุปอยู่ โดยไม่ได้ตอบโจทย์ว่าใครผิดหรือถูก แต่จะเป็นการนำข้อมูลที่ได้มา ประกอบเป็นภาพให้เห็นเหลี่ยมมุมที่รอบด้าน หลากหลาย” นายสิงห์ชัย กล่าว