ส.ว.อุทัยธานี เผยล่าชื่อ ส.ว.ซักฟอกรัฐได้แล้ว 25 คน คาดประชุมวุฒิฯ อังคารนี้คงได้ครบ คาดมีแต่พวกเลือกตั้ง ยันอภิปรายไม่เน้นการเมือง ซัดนายกฯ ไม่มีนโยบายแก้ไขปัญหาม็อบ มัวแต่ไปแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ “สุเทพ” จะไปคุยเขมร เป็นเรื่องดี
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติขอ วุฒิสภาว่า ขณะนี้มี ส.ว.มาร่วมลงชื่อแล้ว 25 คน อาทิ นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร นายตวง อันทะไชย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ซึ่งคาดว่าในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่จะมีการประชุมวุฒิสภา จะล่ารายชื่อได้จนครบ 50 คน ซึ่งคาดว่าจะได้เสียงจาก ส.ว.เลือกตั้งมากว่า ส.ว.สรรหา เนื่องจาก ส.ว.สรรหากลุ่มใหญ่เตรียมลาออกเพื่อกลับเข้ามาสมัครเข้ารับการสรร หา ส.ว.สรรหาชุดใหม่ นอกจากนี้ยังมี ส.ว.บางส่วนที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลจึงไม่อยากร่วมลง ชื่อด้วย แต่อย่างไรก็ตามตนจะพยายามเกลี่ยกล่อมเพื่อน ส.ว.เข้าร่วมลงชื่อให้ครบ แล้วยื่นกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ซึ่งตนก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเจอขบวนการใต้ดิน เพื่อทำให้การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจล่าช้าออกไปอีกหรือไม่ แต่ก็จะพยายามทำให้ได้อธิปรายไม่ไว้วางใจทันสมัยประชุมนี้
นายสิงห์ชัยกล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่จะมีการอภิปราย จะไม่เน้นเรื่องการเมือง แต่จะเน้นถึงปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ที่เกิดความแตกแยกขึ้นในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นในขณะนี้ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาชุมนุม กรณีที่เกิดปัญหาในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ออกมา ชุมนุมเพื่อเรียกร้องความยุติ ปัญหาที่เกิดขึ้น รัฐบาลนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำ กลับไม่มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาของประชาชนทั้งสองกลุ่มอย่างมีรูปธรรมที่ชัดเจน ไม่มีกุศโลบายใดๆ ทั้งสิ้น แต่รัฐบาลกลับมัวแต่ไปแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเองก็ไม่ได้ประโยชน์เลยแม้ แต่น้อย แถมกลับมีผลประโยชน์กับรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น การอภิปรายของ ส.ว.เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาใส่ใจ ดูแลปัญหาบ้านเมืองอย่างจริงจัง โดยการตั้งวอร์รูมเพื่อชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา และเรื่องให้ความยุติธรรมของกลุ่ม นปช. เพื่อทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าใจ และลดความแตกแยกที่เกิดขึ้นในสังคมให้ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงเตรียมที่จะเจรจากับผู้นำของฝ่ายกัมพูชาแล้ว นายสิงห์ชัยกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดี เพราะความขัดแย้งเรื่องการแบ่งเขตแดนของทั้งสองประเทศ ไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ด้วยความรุนแรง ดังนั้นการเจรจาพูดจากันเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่ง ส.ว.ก็จะเสนอประเด็นนี้ในการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลด้วย
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติขอ วุฒิสภาว่า ขณะนี้มี ส.ว.มาร่วมลงชื่อแล้ว 25 คน อาทิ นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร นายตวง อันทะไชย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ซึ่งคาดว่าในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่จะมีการประชุมวุฒิสภา จะล่ารายชื่อได้จนครบ 50 คน ซึ่งคาดว่าจะได้เสียงจาก ส.ว.เลือกตั้งมากว่า ส.ว.สรรหา เนื่องจาก ส.ว.สรรหากลุ่มใหญ่เตรียมลาออกเพื่อกลับเข้ามาสมัครเข้ารับการสรร หา ส.ว.สรรหาชุดใหม่ นอกจากนี้ยังมี ส.ว.บางส่วนที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลจึงไม่อยากร่วมลง ชื่อด้วย แต่อย่างไรก็ตามตนจะพยายามเกลี่ยกล่อมเพื่อน ส.ว.เข้าร่วมลงชื่อให้ครบ แล้วยื่นกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ซึ่งตนก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเจอขบวนการใต้ดิน เพื่อทำให้การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจล่าช้าออกไปอีกหรือไม่ แต่ก็จะพยายามทำให้ได้อธิปรายไม่ไว้วางใจทันสมัยประชุมนี้
นายสิงห์ชัยกล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่จะมีการอภิปราย จะไม่เน้นเรื่องการเมือง แต่จะเน้นถึงปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ที่เกิดความแตกแยกขึ้นในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นในขณะนี้ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาชุมนุม กรณีที่เกิดปัญหาในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ออกมา ชุมนุมเพื่อเรียกร้องความยุติ ปัญหาที่เกิดขึ้น รัฐบาลนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำ กลับไม่มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาของประชาชนทั้งสองกลุ่มอย่างมีรูปธรรมที่ชัดเจน ไม่มีกุศโลบายใดๆ ทั้งสิ้น แต่รัฐบาลกลับมัวแต่ไปแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเองก็ไม่ได้ประโยชน์เลยแม้ แต่น้อย แถมกลับมีผลประโยชน์กับรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น การอภิปรายของ ส.ว.เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาใส่ใจ ดูแลปัญหาบ้านเมืองอย่างจริงจัง โดยการตั้งวอร์รูมเพื่อชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา และเรื่องให้ความยุติธรรมของกลุ่ม นปช. เพื่อทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าใจ และลดความแตกแยกที่เกิดขึ้นในสังคมให้ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงเตรียมที่จะเจรจากับผู้นำของฝ่ายกัมพูชาแล้ว นายสิงห์ชัยกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดี เพราะความขัดแย้งเรื่องการแบ่งเขตแดนของทั้งสองประเทศ ไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ด้วยความรุนแรง ดังนั้นการเจรจาพูดจากันเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่ง ส.ว.ก็จะเสนอประเด็นนี้ในการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลด้วย
