นายกฯ ประธานมอบเงินช่วยชาวนา-ชาวไร่ข้าวโพด ชัยนาท อยุธยา พิษณุโลก สุโขทัย เชียงราย 868 ราย โดนหลอก สั่งกระทรวงเกษตร, พาณิชย์, ยุติธรรม บูรณาการให้ความรู้เกษตรกร เผยอนุมัติงบกลาง 36 ล้าน จ่ายบรรเทาทุกข์
วันนี้ (12 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือค่าเสียหายให้แก่กลุ่มชาวนาและชาวไร่ข้าวโพดที่ถูกหลอกลวง โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนของการแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะพี่น้องที่ถูกกลุ่มพ่อค้าฉ้อโกงเงินค่าผลผลิตซึ่งเกิดจากน้ำพักน้ำแรง อันมีสาเหตุมาจากข้อจำกัดทางด้านต่างๆ ผู้ที่ประกอบอาชีพการเกษตรมีความสำคัญทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมือง การที่ประเทศไทยสามารถพัฒนาก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ และที่จะก้าวหน้าต่อไปได้เป็นเพราะมีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งคอยค้ำจุนระบบเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติมาโดยตลอด รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่าด้วยรากฐานอันเข้มแข็งด้านการเกษตรของไทย ประกอบกับความสามารถในการปรับตัวของพี่น้องเกษตรกรจะทำให้เราสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆได้อย่างมั่นคง รวมทั้งเรามีความภาคภูมิใจที่เป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกอาหารระดับต้นๆ ของโลกและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รัฐบาลได้มุ่งเน้นการคุ้มครองสิทธิพื้นฐานของเกษตรกรอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุขให้แก่พี่น้องเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงาน เพื่อส่งเสริมความรู้ให้แก่เกษตรกร สนับสนุนด้านวิชาการและการปฏิบัติ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลราคาผลผลิต และมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้สามารถรักษาและคุ้มครองสิทธิของตนเองได้ ส่วนในกรณีที่เกษตรกรถูกหลอกลวงหรือถูกฉ้อโกง ก็ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการคุ้มครองสิทธิ อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน และสนับสนุนเงินกองทุนยุติธรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณรายการจ่ายประจำปี 2554 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อการฉุกเฉินและจำเป็น เป็นเงินจำนวน 36,278,641.52 บาท จ่ายให้เกษตรกรเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ เมื่อกระบวนการดำเนินคดีเสร็จสิ้นและได้รับชดใช้เงินหรือชำระหนี้ตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลแล้ว กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะต้องนำส่งกลับคลังเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป ดังนั้นการช่วยเหลือในครั้งนี้จึงไม่ใช่การให้เปล่า และเกษตรกรผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือต้องผ่านกระบวนการและการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสนับสนุนเงินกองทุนยุติธรรม พ.ศ. 2553
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้มอบเงินช่วยเหลือค่าเสียหายให้แก่ตัวแทนกลุ่มชาวนา และตัวแทนชาวไร่ข้าวโพด ประกอบด้วย กลุ่มชาวนาอำเภอมโนรมย์ กลุ่มชาวนาอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท กลุ่มชาวนาอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลุ่มชาวนาจังหวัดพิษณุโลก กลุ่มข้าวโพดหวาน จังหวัดสุโขทัย และกลุ่มข้าวโพดหวานจังหวัดเชียงราย จำนวน 868 ราย
