เป็นข่าวเด่น ข่าวดัง สร้างสีสันทางการเมืองขึ้นมาทันที เมื่อ “บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ พ่อม่ายหมาดๆ อดีตนักเทนนิสมือวางอันดับ 9 ของโลก ชาวไทย เตรียมลงเล่นการเมืองในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน โดยเชื่อกันว่าเป็นฝีมือการเชื้อเชิญของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกสมาคมลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ
การจัดแถลงข่าวเส้นทางชีวิตใหม่สายการเมืองของ “ภราดร” มี “น้องฟ้า” นาตาลี เกลโบวา อดีตนางงามจักรวาล และอดีตภรรยา จะมาร่วมอวยพรด้วย
ปั่นกระแส สร้างข่าว กระชากเรตติ้ง เหมือนวงการบันเทิงยังไงยังงั้น
นอกจากนั้นยังมีข่าวเตรียมเปิดตัว “น้องวิว” น.ส.เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2004 ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินด้วย
เป็นยุทธศาสตร์-การตลาดใหม่ของพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคขนาดเล็กงัดมุขใหม่มาขายหาคะแนน เพราะถ้าสู้กับพรรคใหญ่ไปตามเนื้อผ้า ก็แพ้ยับเยิน
ยิ่งวันนี้ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนมีแนวโน้มว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึง จะเทไปเลือกพรรคการเมืองค่ายใหญ่ที่มีโอกาสได้จัดตั้งรัฐบาล พรรคขนาดเล็ก ขนาดกลาง จะเหลือเพียงแฟนขาประจำ จึงต้องมีการขยับปรับเกมสู้กระแสบ้าง
การนำ “เจ้าบอล” กับ “น้องวิว” เข้ามาอย่างน้อยก็จะมีแฟนกีฬาส่วนหนึ่งลงคะแนนให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คะแนนในระบบปาร์ตี้ลิสต์
ก่อนหน้านี้ สุนารี ราชสีมา นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ก็เปิดตัวไปแล้ว รายนี้มีแฟนเพลงนับล้าน น่าจะเก็บเกี่ยวคะแนนได้เป็นกอบเป็นกำพอสมควร
แฟนเพลง แฟนกีฬา ที่ไม่ค่อยสนใจการเมือง อาจหันมามอง และลงคะแนนให้ศิลปิน นักกีฬาคนโปรดก็ได้
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าคนมีชื่อเสียงเหล่านี้คงมาเป็นเพียงชิ้นส่วนตกแต่งพรรค ใช้ประโยชน์หาเสียง ดึงความสนใจจากแฟนๆ เท่านั้น ถ้าลงเลือกตั้งในระบบเขต น่าจะยากที่จะได้รับการเลือกตั้ง ถ้าจะใช้ประโยชน์ได้มากหน่อยคงต้องลงในระบบบัญชีรายชื่อ แต่ทว่าคงได้อยู่ในลำดับท้ายๆ หรือลำดับที่คาบลูกคาบดอกว่าจะได้หรือไม่
เมื่อรู้ว่าต้องมาเป็นเหยื่อ ทั้ง สุนารี ภราดร และ เยาวภา ก็น่าจะเรียกค่าตัว เรียกค่าตอบแทนกันเยอะๆ หน่อย จะใช้งานเราทั้งที แหมก็เอาให้คุ้มหน่อย โขกสับกันไปเลย
ยุทธศาสตร์สร้างสีสันดึงคะแนนนิยมในรูปแบบนี้ มันเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วในแวดวงการเมือง ศิลปิน ดารา ใครที่พอดูมีหน่วยก้านดีเหมาะเล่นการเมือง ก็จะมีพรรคการเมืองมารุมตอมจีบจนหัวกระไดไม่แห้ง
แม้แต่พรรคการเมืองใหญ่ๆ อย่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทยก็เล่นมุกนี้เหมือนกัน
เพราะมันเป็นการกระชากเรตติ้ง เรียกคะแนนแบบ “ทางลัด” เพราะคนมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ย่อมหาคะแนนได้ง่ายกว่า ไม่ต้องไปแนะนำตัวเองให้เสียเวลา มีแต่คนเข้ามาทักทายเพราะความเป็นคนดัง
อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ดังกล่าวมันก็แค่วูบวาบชั่วคราว ไม่ยั่งยืน และไม่ได้สร้างความนิยมในภาพรวมให้พรรคการเมือง เหมือนเป็นกระแสหลอกชาวบ้าน
พรรคการเมืองที่ดี สำคัญคือนโยบายต้องโดนใจ ทำได้จริง ประชาชนพึ่งหวังได้ มิใช่ใช้วิธีการปั่นกระแสหลอกหวังเพียงผลคะแนน
วงการการเมืองนั้นแตกต่างจากวงการบันเทิง สาระต้องแน่น การทำงานต้องจริงจัง จริงใจ แต่วันนี้การเมืองหลายฉากนั้นไม่ต่างจากละคร วงการบันเทิง ทั้งปั้นหน้าเข้าหากัน หักหลัง ตบตา อยู่บนเงื่อนไขเกมการเมือง ที่หลงลืมหน้าที่ของตัวเองว่า
ใครเป็นคนเลือกมา ให้ทำหน้าที่อะไร และตอบแทนใคร!!