“มาร์ค” เผยอุทกภัยใต้เสียหายเฉียดหมื่นล้าน เร่งสรุปเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า

“อภิสิทธิ์” เร่งสรุปความเสียหายน้ำท่วม-โคลนถล่มใต้ เข้า ครม.สัปดาห์หน้า เผยความเสียหายเฉียดหมื่นล้าน ยันการช่วยเหลือครั้งที่แล้ว รัฐไม่อืด เหตุที่ช้าเพราะมีลักไก่ใส่ชื่อ ผิดหลักเกณฑ์มาเกินครึ่ง อ้างเงินชดเชยเป็นภาษี ปชช.ต้องใช้อย่างละเอียด รับดัชนีเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจลดแต่ไม่ถึงขั้นปี 51

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม-ดินโคลนถล่มในพื้นที่ภาคใต้ว่า วันนี้ได้ประชุมกับทาง คชอ.ได้เร่งรัดเรื่องหลักๆ ในตอนนี้ คือ เรื่องการเชื่อมต่อให้ทุกพื้นที่สามารถขนส่งคมนาคมเดินทางกันได้ตามปกติ ในส่วนของทางหลวง กับทางหลวงชนบทจะทำให้เรียบร้อยภายในวันเสาร์นี้ในเส้นทางหลักๆ แต่อาจจะยังไม่คืนสู่สภาพเดิมทั้งหมด แต่สะพานอะไรที่ขาดจะสามารถทำให้ข้ามได้เพื่อไม่ให้พื้นที่ใดถูกตัดขาดหรืออ้อมไกล

อีกเรื่องคือปัญหาน้ำ โดยเฉพาะที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยทางการประปาฯ คิดว่าในวันอาทิตย์นี้จะสามารถกลับมาผลิตและจ่ายน้ำได้ตามปกติ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันไปได้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ได้ระดมอย่างเต็มที่ ส่วนนอกพื้นที่ในเรื่องของรถน้ำที่จะไปผลิตน้ำเพิ่มเติม คิดว่าหากทางการประปาฯ สามารถเดินได้ตามแผนในวันอาทิตย์นี้ก็จะเรียบร้อย

ส่วนเรื่องของที่อยู่อาศัยที่ใกล้สู่ระยะเวลาในการอพยพคนกลับนั้น กำลังให้เร่งสำรวจ เพราะแต่ละพื้นที่ปัญหาไม่เหมือนกัน บางพื้นที่พี่น้องประชาชนเริ่มมีความวิตกหวาดกลัวไม่อยากกลับพื้นที่เดิม ตรงนี้จะเป็นปัญหามากที่สุด กำลังเร่งให้รายงานมาและจะทำเป็นจุดๆ ว่าจะทำกันอย่างไร ซึ่งเบื้องต้นประชาชนที่ไม่กล้ากลับพื้นที่เดิมยังไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจน แต่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ดินถล่มหรือมีเหตุการณ์ที่รุนแรง ซึ่งได้ให้มีการไล่ตรวจสอบแล้ว

ส่วนเรื่องของเกณฑ์การช่วยเหลือที่อยู่อาศัยต่างๆ นั้นได้มีการเดินหน้าไปบ้างแล้วจะระดมความช่วยเหลือไปในส่วนนั้น สำหรับการซ่อมแซมถนนหนทางโรงเรียน วัด โรงพยาบาลต่างๆ กำลังรวบรวมตัวเลขอยู่ จะเร่งรวบรวมให้เสร็จทันสำหรับคณะรัฐมนตรีในวันอังคารมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นไปตามแผนสัปดาห์หน้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบน่าจะใช้ชีวิตตามปกติได้แล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นส่วนใหญ่ น้ำที่ จ.สุราษฎร์ธานีน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ก็น่าจะอีก 2-3 วัน แต่จะมีที่ปากพนังที่คิดว่าน้ำจะสู่ปกติน่าจะ 8-9 วัน และพื้นที่ตรงนั้นน่ามักจะมีปัญหาตรงนี้อยู่ ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นนอกจากปัจจัยธรรมชาติแล้วการขยายพื้นที่ปลูกยางเกี่ยวด้วยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงประกอบกันหลายส่วน แต่ยอมรับว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงมามันคือปัจจัยหลัก

ต่อข้อถามว่าเหมืองแร่มีส่วนด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หน่วยงานเขาได้ออกมาชี้แจงแล้ว เมื่อถามว่าการถล่มภูเขา ปลูกยาง ปาล์ม เป็นเหตุด้วยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ด้วยประกอบกัน อยากย้ำว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคนไปดูพื้นที่กันแม้แค่พื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ก็ยังมีปัญหาที่ถล่มลงมา เพราะปริมาณน้ำมันเยอะจริงๆ เมื่อถามว่าผู้มีอิทธิพลเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตรงนั้นก็ต้องว่ากันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินความเสียหายเป็นตัวเลขถึงหมื่นล้านหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความเสียหายคงจะมากแล้วแต่จะนับรวมอะไรด้วย มีปัญหา เช่น หลายพื้นที่สถานประกอบการปิดไป ลูกจ้างไม่มีรายได้ แต่ที่อนุมัติไปมูลค่า 6,000 ล้านบาท ยังไม่นับส่วนที่จะมีการซ่อมแซมต่างๆ ขณะนี้มีการทดรองจ่ายและทำกันไปก่อน ฉะนั้นหมื่นล้านถือเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียง แต่คิดว่าไม่น่าจะถึง 10,000 ล้านบาท

ส่วนที่มีการออกมาพูดรัฐเข้าไปเยียวยา ชดเชยล่าช้า พ้อมกับบอกว่าคราวที่แล้วยังไม่ได้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอย้ำว่าตัวเลขพื้นที่ที่ยังไม่ได้ขณะนี้มีน้อยมาก ยกเว้นพื้นที่ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์แล้วเสนอมาไม่ผ่านเกณฑ์ โดยเฉพาะคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์เซ็นรับรองมาเดือดร้อนร้อยละ 5 แต่ส่งชื่อมาร้อย นี่คือความล่าช้าที่เกิดขึ้น เพราะต้องมาคัดออก ไม่เช่นนั้นเท่ากับไม่สุจริตในการจ่ายเงินช่วยเหลือ ตนได้ไปพบปะพี่น้องในพื้นที่และได้ย้ำไปแล้วและขอความกรุณาว่าอย่าไปส่งรายชื่อเกินจากผู้ที่ได้รับผลกระทบและเข้าหลักเกณฑ์

ส่วนบางพื้นที่ที่อยากจะไปแบ่งกันเองทีหลัง เพราะอยากเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่าให้เกิดการเข้าใจผิด บางพื้นที่คนที่เข้าหลักเกณฑ์รับไปแล้วเอาไปเฉลี่ยให้คนอื่นกลายเป็นว่ารับคนละ 3 พันกว่าแล้วมาบอกว่าไม่ครบ ข้อเท็จจริงคืออย่างนี้ รายชื่อรอบแรกๆ ที่เสนอมาหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายได้จ่ายไปหมดแล้ว ที่ยังไม่จ่ายและเข้าหลักเกณฑ์คือรายชื่อที่เพิ่งส่งมาและกลั่นกรองกันเพิ่งเสร็จประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อน

“ผมขอยืนยันไม่ได้มีความล่าช้าตรงนี้ แต่เป็นเรื่องของปัญหาที่เราจะต้องดูแลให้ถูกหลักเกณฑ์ เพราะไม่ใช่เงินของรัฐบาล แต่เป็นเงินภาษีอากรของบพี่น้องประชาชนทั่วประเทศต้องจ่ายให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์”

ส่วนกรณีพื้นที่ที่ไม่มีนายอำเภอนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นปัญหาที่ตกค้างมาจากคำวินิจฉัยที่จะต้องไปแก้ไขกันให้ถูกต้องตามระบบ ซึ่งต้องเร่งรัดกันและได้เร่งรัดไปแล้ว มีมติกันไปเรียบร้อย ซึ่งต้องถามกระทรวง เมื่อถามว่าเป็นการฉวยโอกาสโจมตีรัฐบาลช่วงใกล้เลือกตั้งหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นธรรมดา อย่างที่บอกบางทีคนที่พูดน่าจะรู้ความจริงดี เป็นธรรมดาอาจมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งตนองได้ย้ำกับคนทำงานทุกคนในทุกหน่วยงานให้หนักแน่น ทำให้ดีที่สุด เป็นธรรมดามันอาจจะมีข้อบกพร่องบ้างหรือมีคนที่วิพากษ์วิจารณ์บ้าง แต่ไม่ให้คนทำงานท้อแท้ ให้เดินหน้าทำงานต่อไปโดยยึดความถูกต้อง อย่างเรื่องเงิน 5 พันบาทหลายหน่วยงานแม้กระทั่งท้องถิ่นเขายอมรับและรายงายมาเองว่ามีปัญหาทำอย่าวงไรถ้าจะเอาความถูกใจ ก็ถูกกดดันมา แต่เข่ารู้ถ้าเสนอขื่อมาเราก็ต้องกลั่นกรองตรวจสอบ บางพื้นที่ตัดไปกว่าครึ่ง เพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์จริงๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรเราต้องยึดความถูกต้อง

ต่อข้อถามว่าผู้ประกอบการบางพื้นที่ร้องได้รับผิดกระทบจากการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวไม่ไปเที่ยวแม้ไม่ได้เกิดเหตุน้ำท่วมแต่คนตกใจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คิดว่าเราต้องลำดับความสำคัญคนที่เขาได้รับผลกระทบโดยตรงเดือดร้อนเราต้องช่วยก่อน ถ้าเราบอกว่าทุกคนกระทบกันหมดคนที่เดือดร้อนจริงๆ จะยิ่งเดือดร้อนมาก ต้องขอความเข้าใจตรงนี้ แน่นอนภัยพิบัติที่เกิดขึ้นแล้วกระทบเราจะคาดหวังว่าทุกคนไม่ได้รับผลกระทบต้องได้รับการเยียวยาเลยคงไม่ใช่ เราต้องช่วยกันแบ่งเบาภาระบางส่วนเหมือนกัน เพราะเงินที่ช่วยไม่ใช่เงินของตนเองหรือรัฐบาลแต่เป็นเงินของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นเราต้องดูความเหมาะสม ส่วนการฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจจะดูแลกัน ที่ผ่านมาในสัปดาห์ที่แล้วได้มีมติค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องสินเชื่อและเรื่องอะไรต่างๆ

สำหรับการแจ้งเตือนรอยเลื่อนในพื้นที่ต่างๆ นั้น ตอนนี้กำลังตรวจสอบทั้งหมด โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญนักวิชาการมา ที่รายงานมาความเห็นยังไม่ตรงกันเสียทีเดียว แต่ไม่ให้ประมาทและไม่ให้ตื่นตระหนก กำลังจะสรุปให้คระรัฐมนตรีอีกครั้งภายในสองสัปดาห์นี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ดัชนีความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจลดลงทุกตัว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นไปตามที่บอกว่าในภาวะที่ข้างของแพงตรงนี้จะเริ่มกระทบความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคและผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่อะไรที่เราพอจะมีกำลังหรือมีความสามารถในการที่จะช่วยได้เราก็จะช่วย เราได้ติดตามเอาใจใส่ไม่มีละเลย เวลามีการร้องเรียนกันขึ้นมาตัวนั้นตัวนี้ไม่น่าจะขึ้นแต่มันขึ้นเราก็ติดตามไปดูจริงๆ

เมื่อถามว่าปกติของแพงมันจะมาพร้อมกับเงินเฟ้อ แต่ตอนี้เป็นเงินฝืดและของก็แพง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนขนาดนั้นเพราะรายการของสินค้าถ้ามาไล่ดันจริงๆ สภาพอาจจะใกล้เคียงหรืออาจจะยังน้อยกว่าปี 2551 เพียงแต่ว่าตัวที่มันใช้กันแพร่หลายจะเดือดร้อนกันเป็นพิเศษ อย่างกรณีน้ำมันพืชต้องยอมรับกระทบมาก ซึ่งเราพยายามเร่งแก้ไขตรงนี้ เมื่อถามว่า สภาพการณ์แบบนี้จะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในชั้นนี้คงมีบ้าง แต่ตัวเลขที่ออกมาใน 2 เดือนแรกยังไม่กระทบมากนัก