“อภิสิทธิ์” งงเป็นไก่ตาแตก “รัฐบาลเขมร” ปฏิเสธขออภัยโทษ “วีระ-ราตรี” ยังตะแบง คาด “ฮอร์ นัมฮอง” พูดในฐานะส่วนตัว ยึดหลักกู น่าจะเข้าข่ายหลักมนุษยธรรมแบบ “ศิวรักษ์” รับรายงาน ประชุม “เจบีซี” เรียบร้อย วอนทุกฝ่ายช่วยทำให้บรรยากาศความสัมพันธ์ลื่นไหล จะช่วย 2 คนไทย พ้นอิสรภาพง่ายขึ้น
วันนี้ (7 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายฮอร์ นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ว่า ทางรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธการขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ นายวีระ สมความคิด และ นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ โดยต้องให้ทั้งสองคนได้รับโทษ 2 ใน 3 ก่อนว่า เราเคยได้ยินมาก่อนแล้วว่ากฏระเบียบภายในของเขามีการรับโทษอะไรต่างๆ ซึ่งในอดีตก็เคยมีข้อยกเว้น ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ของนายฮอ นัมฮง ที่ให้ความเห็นต่อสื่อ
เมื่อถามถึงความพยายามของรัฐบาลที่จะช่วยนายวีระ และ นางสาวราตรี ให้เร็วที่สุด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็มีการดำเนินการหลายทาง ซึ่งไม่ต้องมาอธิบายว่า ทำด้วยวิธีไหนอย่างไร เมื่อถามว่า ทางญาติของ นายวีระ ออกมาระบุว่า รัฐบาลไม่มีความคืบหน้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่จริง ได้คุยกันอยู่ เรื่องดูแลความเป็นอยู่อำนวยความสะดวกก็ช่วยกันอยู่ ซึ่งทุกคนทราบแล้วตั้งแต่ต้นว่า ความยากของเรื่องนี้ เพราะทั้งสองท่านมีข้อหาที่ต่างกับคนอื่น ไม่ใช่เรื่องของการเข้าเมือง ซึ่งคนอื่นก็ได้รับอิสรภาพแล้ว แต่มันมีข้อหาเพิ่มขึ้นมาด้วย
เมื่อถามว่า ในการขออภัยโทษ ต้องให้ นายวีระ-นางสาวราตรี ติดคุก 2 ใน 3 ก่อน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องกฎหมาย และกฎระเบียบภายในของเขา แต่ขณะเดียวกัน เราก็เห็นว่า เคยมีประสบการณ์ที่ไม่เป็นอย่างนั้นมาแล้ว เมื่อถามว่า นายฮอร์ นัมฮอง อ้างว่า กรณี นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ที่โดนข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินนั้น ใช้หลักมนุษยธรรม ตรงนี้จะเข้าข่ายเดียวกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า ถ้าเราคิดถึงหลักมนุษยธรรม ก็เข้าข่ายแน่นอนทั้งสองคน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อสักครู่ก็ได้รับรายงานว่าการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) เรียบร้อยดี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะการประชุมเจบีซีเป็นไปตามระเบียบวาระที่เรียนไว้ ว่า หลักที่เราใช้คืออะไร และเป็นกลไกทวิภาคีที่ชัดเจน สองฝ่ายพูดคุยกันแล้ว ก็เป็นเรื่องที่บ่งบอกว่า เมื่อบรรยากาศเหล่านี้ดีขึ้น ก็จะง่ายขึ้น ตนอยากจะย้ำกับทุกคนว่าถ้าเราช่วยให้บรรยากาศเหล่านี้ดีขึ้น ก็จะช่วย 2 คนนี้ได้ง่ายขึ้น
เมื่อถามว่า หากบรรยากาศเหล่านี้ดีขึ้นแล้ว มีความจำเป็นหรือไม่ที่ผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซียยังต้องเข้าพื้นที่อยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะพูดคุยกัน ซึ่งตอนนี้จะพิจารณารายละเอียดทางเทคนิคไปก่อน ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของเจบีซี หรือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) เพราะเป็นเรื่องที่รัฐมนตรีต่างประเทศคงจะคุย
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เป็นปัจจัยหลักสำหรับบรรยากาศขณะนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากจะไปเจาะจงอะไร แต่เพียงให้ทุกคนช่วยกัน ว่าถ้าบรรยากาศความสัมพันธ์มันดี การช่วยเหลือก็ง่ายขึ้น