“เทือก” บ้อท่านำตัว “วีระ” รักษานอกคุกเขมร ทำได้แค่หวัง “ฮุนเซน” เห็นใจคนไทยที่กำลังเดือดร้อน ด้านโฆษกบัวแก้ว ยืนยันเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยไม่ได้ทอดทิ้ง ส่งข้าวน้ำให้ทุกวัน แต่ไม่รู้ป่วยหนัก เตรียมทำหนังสือขออนุญาตนำตัวออกมารักษานอกคุก หากไม่ได้ก็พร้อมส่งแพทย์เข้าไปดูอาการ เผย เขมรยังไม่ตอบรับประชุม เจบีซี
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ นายปรีชา สมความคิด น้องชาย นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ระบุว่า พี่ชายป่วยหนักในเรือนจำกัมพูชา ขอให้รัฐบาลช่วยนำตัวพี่ชายออกมารักษาอาการป่วยนอกเรือนจำเปรย์ซอ ว่า รัฐบาลก็พยายามที่จะพูดจากัน ตนเชื่อว่า สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมควรที่จะได้มีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจคนไทยที่กำลังเดือดร้อนอยู่ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสถานทูตดูแลอยู่แล้ว
ส่วนความเป็นไปได้ในการประสานทางการทูต เพื่อนำตัวออกมารักษานอกเรือนจำ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะลองหารือเขาดูว่า กฎเกณฑ์กติกาของกัมพูชาจะอนุญาตได้แค่ไหน อย่างไร ทั้งนี้ ในเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น ตนให้ทางฝ่ายของนายวีระพูดเองดีกว่า เพราะบางฝ่ายจะนำไปเป็นประเด็น
ด้าน นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการช่วยเหลือ นายวีระ และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำของกัมพูชาว่า กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ไม่ได้ละเลยที่จะช่วยเหลือ นายวีระ และ น.ส.ราตรี แม้ทางเรือนจำของกัมพูชาจะไม่ให้เข้าพบ แต่ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทย ยังนำอาหารไปส่งให้ที่เรือนจำทุกวัน วันละ 2 รอบ และมีการสอบถามเจ้าหน้าที่กับแพทย์ในเรือนจำอยู่ตลอด ซึ่งแพทย์ในเรือนจำได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย เพียงว่า นายวีระ ป่วยเป็นไข้หวัดเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อญาติได้เข้าเยี่ยมแล้ว กลับพบว่า นายวีระ ป่วยหนัก ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตไทย จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเรือนจำของกัมพูชา เพื่อขออนุญาตส่งแพทย์จากข้างนอกเข้าไปดูแลอาการนายวีระ ในเรือนจำ หรือจะขอนำตัวนายวีระ ออกมาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้กำลังรอคำตอบจากทางการกัมพูชาอยู่ ส่วนการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น เป็นเรื่องที่ นายวีระ กับ น.ส.ราตรี จะต้องหารือกับทนายความของตัวเองว่าจะยื่นเมื่อใด ซึ่งเมื่อได้วันและเวลาที่แน่นอนแล้ว ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย จะอำนวยความสะดวกในการยื่นคำร้องให้เต็มที่
นายธานี ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) ไทย-กัมพูชา ซึ่งไทยเสนอให้มีขึ้นในวันที่ 7-8 มี.ค.นี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่จนถึงขณะนี้กัมพูชายังไม่ตอบกลับมาว่าจะต้องรอให้บันทึกผลการประชุมเจบีซี 3 ฉบับ ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาไทยก่อน แล้วจึงมาตกลงวันประชุมกันอีกครั้ง
ส่วนการที่อินโดนีเซียจะส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามาประจำตามแนวชายแดนทั้งฝั่งไทย และฝั่งกัมพูชานั้น ขณะนี้อินโดนีเซียได้ส่งรายละเอียดและกรอบการปฏิบัติงานเข้ามาแล้ว หลังจากนี้คงต้องรอให้ รมว.กลาโหม ของไทยและกัมพูชา นัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทย-กัมพูชา ก่อนแล้วจึงจะนำข้อเสนอของอินโดนีเซียเข้าหารือ เพื่อให้ได้ข้อยุติระหว่างทั้ง 2 ประเทศ จากนั้นจึงจะแจ้งกลับไปให้อินโดนีเซียทราบอีกครั้ง