“ครอบครัววีระ-ราตรี” ตัดใจไม่รอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ยื่นหนังสือขอ “นช.แม้ว” ช่วยพ้นคุกเขมร
ที่พรรคเพื่อไทย วันนี้ (4 เม.ย.) นางวิไลวรรณ สมความคิด และนายปรีชา สมความคิด มารดาและน้องชาย นายวีระ สมความคิด และน.ส.วริสา ทองเงิน หลานสาวของ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ สองผู้ต้องหาที่ถูกจับคุกอยู่ในกัมพูชา ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อเรียกร้องให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือทั้ง 2 คนออกจากเรือนจำประเทศกัมพูชา ภายหลังจากที่ได้ยื่นหนังสือผ่านทางนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เร่งช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีผล ทั้งนี้ ทางครอบครัวของนายวีระเห็นว่าทาง พ.ต.ท.ทักษิณ เคยให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ในข้อหาจารกรรม ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับทั้ง 2 คนมาแล้ว
ด้าน นางวิไลวรรณกล่าวว่า ตนได้รอคอยการดำเนินการจากรัฐบาลชุดนี้มาถึง 4 เดือน ซึ่งตนก็รับไม่ได้กับารที่จะต้องให้นายวีระ ลูกชายของตนต้องมาเจ็บป่วยอยู่ในเรือนจำเช่นนี้ก็รู้สึกเครียดกับสิ่งที่ลูกต้องเผชิญ ตนจึงคิดถึงพรรคเพื่อไทย เพื่อที่จะช่วยเหลือลูกชายของตน
ด้าน นายปรีชากล่าวว่า ทางญาติได้ให้เกียรติทางรัฐบาลในการดำเนินการช่วยเหลือนายวีระกับ น.ส.ราตรีมาตลอด เพราะจะเห็นว่าในตอนแรกเราก็ไม่ได้ออกมากดดันหรือเรียกร้องอะไร จนเมื่อศาลกัมพูชาได้ตัดสินจำคุกทั้ง 2 คนเป็นเวลา 6 ปี และ 8 ปี ตามลดับ ทางญาติจึงต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถช่วยเหลือทั้ง 2 คนให้ได้ ซึ่งก็มีการยื่นหนังสือไปถึงทางรัฐบาลมาตลอด และก็ได้ขอความชัดเจนภายใน 7 วัน จนวันนี้ก็ล่วงเลยมาจึงต้องมาขอความช่วยเหลือพรรคเพื่อไทย ทางญาติไม่ได้ต้องการตำหนิการทำงานของรัฐบาล ก็ยังขอขอบคุณทางรัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลือมาตลอด แต่พรรคเพื่อไทยก็เป็นการขอความช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง ซึ่งทางญาติคิดว่าจะได้เยี่ยมนายวีระในสัปดาห์นี้ โดยหากได้เดินทางไปเยี่ยมก็จะแจ้งให้นายวีระทราบถึงการยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย
ด้าน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะตัวแทนเพื่อรับหนังสือในวันนี้ กล่าวว่า ภายหลังจากการที่ตนได้รับหนังสือก็จะสแกนหนังสือฉบับนี้แล้วส่งผ่านไปทางอีเมล เพื่อส่งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะในขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณกำลังเดินทางอยู่ในประเทศแถบตะวันออกกลาง ซึ่งหลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็คงจะได้ไปปรึกษาหารือกับ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องนี้ถือเป็นกฎหมายภายในของประเทศกัมพูชา และยังเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนด้วย ซึ่งทางเราก็จะรับหนังสือไว้ในฐานะของคนไทยด้วยกัน และเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แต่ทั้งนี้คงยังไม่สามารถกำหนดเวลาที่ชัดเจนได้แน่นอน เพราะตนเข้าใจว่าเรื่องนี้จำเป็นจะต้องของพระราชทานอภัยโทษ