“เทพมนตรี” บอก “มาร์ค” เคารพบันทึกเจบีซี-กอดเอ็มโอยูจริงต้องไม่ไปประชุมที่อินโดฯ และเอาทหารไทยอยู่เหนือวัดแก้วฯเหมือนเดิม แนะ “อัษฎา” บอกเขมรเคารพบันทึกเจบีซี ชี้หากเขมรไม่ทำไทยสามารถยกเลิกบันทึกข้อตกลงได้ทั้งหมด เหน็บ “ชวน” รูดซิปปากปมเขาวิหารสมกับนามสกุลจริงๆ
วันที่ 5 เม.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวว่า พรุ่งนี้ตนจะไปกองทัพบก เอาเอกสารลับมากลงวันที่ 17 พ.ย. 2551 ของกระทรวงการต่างประเทศไปให้ ผบ.ทบ.ได้อ่าน ซึ่งเป็นบันทึกยืนยันการประชุมเจบีซีบอกชัดว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้นายวศิน ธีรเวชญาณ เป็นประธานเจบีซี ดังนั้น การกระทำของนายวศิน สามารถกระทำในฐานะเป็นตัวแทนประเทศไทยได้ เมื่อตนอ่านเอกสารนี้ได้ข้อสรุปเบื้องต้น คนที่ทรยศต่อประเทศชาติมากที่สุด คือ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้ไทยเสียดินแดนแน่นอน ทั้งนี้หากจะฟ้องตนก็รีบฟ้อง แล้วศาลจะได้ชี้ว่าคุณทรยศต่อชาติจริงๆ ด้วยพฤติกรรมฝืนประชุมเจบีซี ซ้ำซากทั้งที่เสียเปรียบ
นายเทพมนตรีกล่าวต่อว่า นับตั้งแต่วันที่นายอภิสิทธิ์เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สถานการเขาวิหารเลวร้ายลง จากที่มีกำลังทหาร 5 คนสุดท้ายประจำที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ บัดนี้ไม่มีทหารไทยเลยแม้แต่นายเดียว ทั้งนี้หากแม่ทัพภาคที่ 2 สั่งถอนกำลังทหารก็สามารถทำได้แต่ไม่ถาวร เพราะแม่ทัพภาคที่ 2 จะสั่งถอนกำลังทั้งที่ เจบีซี ยังเจรจาไม่สำเร็จไม่ได้ ดังนั้นต้องมีคนสั่งแม่ทัพอีกที แล้วคนสั่งเป็นใครนั้น ตนต้องพูดถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพราะพฤติกรรมส่อให้เห็นเข้าข้างเขมรตลอด ตั้งแต่พูดว่า “ที่ดินเท่าแมวดิ้นตาย”
“กระทรวงการต่างประเทศทำผิดกฎของตัวเอง ในบันทึกเจบีซี รายงานการประชุมบอกว่ายังมีทหารคงกำลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ 5 นาย เมื่อร่างข้อตกลงยังไม่ผ่านสภา ทำไมต้องถอนทหาร ทำให้ตนเชื่อว่าคนที่รู้เห็นเป็นใจกับกัมพูชา เกิดขึ้นได้ก็แต่ด้วย กระทรวงการต่างประเทศ หรือสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เท่านั้น”
นายเทพมนตรีกล่าวว่า นักการเมืองหวังใช้กลไกเจบีซี ผ่านสภาให้เป็นมติเพื่อหลบหลีกความผิดตัวเอง จำทำให้มีเจบีซีฉบับที่ 4 แล้วจะเอากลับเข้าที่ประชุมใหม่รวมกับ 3 ฉบับแรก แล้วก็ลากกันเข้าไป ดังนั้น จะมีครั้งที่ 4 ไม่ได้เพราะหาก 3 ฉบับแรกไม่เคารพข้อตกลง อย่างไรก็ดีในเมื่อนายกฯ กอดเจบีซี พอๆ กับเอ็มโอยูเถื่อน แต่ยังปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายไม่คงกำลังทหารที่วัดแก้วฯ แสดงว่าท่านละเว้นหน้าที่ ดังนั้น พรุ่งนี้เราจะต้องมีทหารไทยไปประจำอยู่วัดแก้วฯเหมือนเดิม ไม่เช่นนั้นเจบีซีประชุมไม่ได้ หากกัมพูชาไม่ยอมแสดงว่าเขาละเมิดข้อตกลงบันทึกเจบีซี
“อยากบอกท่านทูตอัษฎา ชัยนาม ท่านเป็นคนมีหลักการพอสมควร ดังนั้นก่อนเข้าประชุมท่านต้องต่อรองให้เขมรเคารพบันทึกเจบีซี 3 ฉบับ ทหารไทยต้องมีสิทธิไปยืนที่วัดแก้วฯ หากท่านไม่พูดแสดงว่าท่านก็ทรยศชาติเหมือนกัน แต่หากเขมรไม่เคารพบันทึกเจบีซีนี้ ทำให้เราสามารถยกเลิกบันทึกทั้งหมดร่วมทั้งข้อตกลงชั่วคราวได้ด้วย เอ็มโอยู 43 เป็นส่วนหนึ่งในการทำลายข้อสงวนสิทธิ์ เพราะไปยอมรับแผนที่ 1 : 200,000 กินดินแดนถึงระวางดงรักด้วย ดังนั้น หาก วาคิมฮง อ้างคำพิพากษาศาลโลก ว่า ยกดินแดนโดยรอบเขาวิหมรให้กัมพูชา ท่านทูตอัสดา ต้องบอกว่าเขมรละเมิดคำสั่งศาลโลก เพราะศาลโลกไม่ได้บอกว่าแผนที่ 1 : 200,000 เป็นแผนที่ที่ถูกต้อง จะเอาแผนที่มาฮุบเดินแดนแล้วอ้างศาลโลกตัดสินตามคำบรรยายฟ้องไม่ได้”
นายเทพมนตรีกล่าวถึงนายชวน หลีกภัย ว่าเงียบกริบเกินไปในเรื่องเขาวิหาร มีดโกนของนายชวนที่คมดังดาบซามูไร เคยเชือดเฉือนคนครั้งแล้วครั้งเล่า จนได้ฉายามีดโกนอาบน้ำผึ้ง บัดนี้มันเป็นอดีตไปแล้ว ท่านกำลังถูกตราหน้าว่าเป็นส่วนหนึ่งทำให้ไทยเสียดินแดน สร้างปัญหาให้ลูกหลานแล้วไม่เคยออกมารับผิดชอบ ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย เมื่อศึกษาตัวท่านไปเรื่อยๆ เห็นได้ว่า หลีกภัยสมกับนามสกุลจริงๆ การบริหารงานของท่านไม่ใช่เรื่องภายในครอบครัว แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ ตอนนี้ท่านทำอย่างไรก็ได้ เอานายอภิสิทธิ์ออกจากหัวหน้าพรรค
“มีคนชมนายอภิสิทธิ์เป็นคนพูดเก่ง คารมคมคาย แต่ผมคนหนึ่งละที่ไม่หลงคารม เพราะคารมบริหารประเทศไม่ได้ กรณีปราสาทเขาวิหารท่านเป็นได้เพียงนางมณโฑนั่งแทน ขอย้ำจะประชุมเจบีซีที่อินโดนีเซียไม่ได้ เพราะเจตนารมณ์ในเอ็มโอยู 43 เขียนไว้ชัดเจน ให้การเจรจาทวิภาคี ผลัดกันจัดประชุมระหว่างไทยกับกัมพูชา หากนายอภิสิทธิ์เคารพเอ็มโอยูจริง ต้องไม่ไปประชุมประเทศอินโดนีเซีย” นายเทพมนตรีกล่าว
