“อภิสิทธิ์” ระบุ การเปลี่ยนแปลงประเทศที่ยั่งยืนต้องมาจากรากฐาน รัฐบาลกำหนดแนวคิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด เอาเครือข่ายวิชาการไปพัฒนาในพื้นที่ เน้นความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วม
ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถนนวิภาวดี-รังสิต กรุงเทพฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ร่วมงานโครงการจัดประชุมสัมมนาวิชาการงานวิจัยเพื่อพัฒนาทั้งพื้นที่ ครั้งที่ 2 ขับเคลื่อนประเทศด้วยพลังความรู้และความร่วมมือ จัดโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ กล่าว ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “การพัฒนาพื้นที่และการสร้างความสามารถในการจัดการตนเองชุมชนและท้องถิ่น กับอนาคตของประเทศ” มีความตอนหนึ่งว่า การพัฒนาพื้นที่และการสร้างความสามารถเป็นแนวนโยบายหนึ่งของรัฐบาล รวมถึงการเชื่อมโยงด้านวิชาการ ภาคประชาชน และการดำเนินการทั้งหมดก็มีความสอดคล้องกับนโยบาย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เวลาพูดถึงการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศ เราจะคิดถึงการทำงานในส่วนกลาง การปฎิรูปนโยบาย แต่ความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนที่สุด คือความเปลี่ยนแปลงจากฐานราก จากชุมชน โดยเฉพาะประเทศไทยที่ประชาชนส่วนมากยังอยู่ในชนบท การทำงานที่ใช้ความรู้ต้องทำงานอย่างละเอียด ซึ่งรัฐบาลได้มีการกำหนดแนวทางนี้อย่างชัดเจน ผ่านแนวคิด 1 มหาวิทยาลัย 1 จังหวัด ที่เป็นความพยามยามที่จะให้มหาวิทยาลัยแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อท้องถิ่น ในการเอาเครือข่ายวิชาการไปพัฒนาในจังหวัด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนอยากเน้นย้ำ คือ 1.การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม และทำให้เกิดความเสมอภาค ต้องสร้างกระบวนการเจริญเติบโตที่มาจากฐานราก มาจากชุมนุมอย่างแท้จริง และการเสริมความรู้และความเข้มแข็งให้กับชุมชน ในแง่ห่วงโซ่อุปทาน หรือของการผลิตที่เป็นแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดที่สุด สิ่งรัฐบาลจะทำคือให้ภาคการเกษตรและภาคชนบท ได้รับการฟื้นฟูอย่างแท้จริง 2.เรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น จำเป็นต้องเน้นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างจริงจัง ซึ่งจะสามารถลดความเสี่ยงของระบบเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ และ 3.การเน้นย้ำให้เยาวชนมีความตื่นตัวในการเข้ามามีส่วนร่วมการสร้างอนาคตที่ดี ให้กับชุมชน
