ไอบีเอ็มลั่นปีนี้โตล้ำจีดีพีประเทศไทย

ไอบีเอ็มเผยกลยุทธปีขาล เสนอองค์กรไทยมุ่งผลักดันธุรกิจติดสินใจอย่างฉลาด ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ การบริหารงานธุรกิจภายในองค์กร และการมุ่งสู่องค์กรชั้นเลิศ มั่นใจโตกว่าจีดีพีของประเทศไทยและจีดีพีโลกปีนี้ เผยเอเชียมาแรงแซงตะวันตก

นายธันวา เลาหศิริวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานของไอบีเอ็มในปี 2010 ว่า จะมุ่นเน้นการแข่งขัน 3 ส่วนหลัก คือ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ (Business Analytics) การบริหารงานธุรกิจภายในองค์กร (Managed Business Process Services) และการมุ่งสู่องค์กรชั้นเลิศ (Employer of Choice) ซึ่งที่ผ่านมาไอบีเอ็มสามารถขยายฐานธุรกิจไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าด้านบริการได้มากขึ้น และยังตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำใน 3 ส่วนดังกล่าว

ทั้งนี้ นโยบายหลักของปี 2010 ไอบีเอ็มมองว่า การตัดสินใจของผู้บริหารจะมีบทบาทสำคัญต่อภาครัฐและภาคเอกชน เนื่องจากดูแล้วว่าขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังฟื้นตัว การแข่งขันธุรกิจจะขยายออกสู่ต่างประเทศมากขึ้น ไอบีเอ็มจึงมุ่งที่จะพัฒนาสนับสนุนองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกเพื่อให้องค์กรตัดสินใจด้านธุรกิจได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังได้เสนอบริการการบริหารงานธุรกิจภายในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว โดยครอบคลุมการบริหารงาน 4 ด้าน คือ การจัดห่วงโซ่อุปทาน การจัดการทรัพยากรบุคคล การจัดการด้านการเงินและงานธุรการ และการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันบริการนี้ไอบีเอ็มมีลูกค้าแล้ว 3 ราย และในปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังไม่มีคู่แข่งมากนักและเชื่อว่าจะเป็นตัวทำรายได้ให้กับไอบีเอ็ม เนื่องจากดูแล้วว่ามีช่องทางการเติบโตของธุรกิจนี้

ผู้บริหารไอบีเอ็มมองว่า ปีนี้การเติบโตด้านไอทีในประเทศไทยจะโตมากกว่าผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และไอบีเอ็มตั้งเป้าเติบโตด้วยตัวเลขสองหลัก ซึ่งมากกว่าจีดีพีของประเทศไทยที่คาดว่าจะเติบโตราว 3.5 % ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไอบีเอ็มที่ต้งเป้าเติบโตมากกว่าเศรษฐกิจโลกที่จะกลับมาบวกราว 3-5 % ในปีนี้

“ในแง่จีดีพีของภูมิภาคเอเชียจะมีการเติบโตของจีดีพีได้ดีกว่าตะวันตก คาดว่าตัวเลขจีดีพีของภูมิภาคดังกล่าวจะเติบโตราว 5-6.5 % ฉะนั้นไอบีเอ็มจึงให้ความสำคัญกับตลาดในภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น”

สำหรับรายได้ไตรมาส 4 ของปีที่ผานมาไอบีเอ็มมีรายได้จากการให้บริการ (Services ) กว่า 50% และจากซอฟต์แวร์ราว 40 % ในปีนี้คาดว่ารายได้จากซอฟต์จะเพิ่มขึ้นเป็น 50 % และในนี้ไอบีเอ็มจะมุ่งให้การสนับสนุนนโยบายภาครัฐมากขึ้นเนื่องจากภาครัฐมีนโยบายใหม่เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพให้กับประเทศ และต้องการงานด้านไอทีเข้าไปช่วย ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นช่องทางหนึ่งในการดำเนินงานของไอบีเอ็มในปีนี้

Company Related Links :
IBM