xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ” แนะ ส.ส. กู้หน้าให้สภา พร้อมใจโหวตล้มเจบีซี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพิภพ ธงไชย
“พิภพ” วอน ส.ส. คิดใหม่ ชี้อำนาจอยู่ในมือเสียดินแดนครั้งนี้เสียแล้วเสียเลย เหน็บ รบ. ปชต.จริงต้องปล่อยฟรีโหวต แนะทางออกสุดท้าย ขึ้นทะเบียนร่วมโดยให้เขมรบริหารเฉพาะตัวปราสาท ส่วนไทยบริหารพื้นที่ 4.6 ตร.กม.

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน" ปราศรัยโดย "นายพิภพ ธงไชย"  

วันที่ 24 มี.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พรุ่งนี้ถือเป็นวันสำคัญมาก สภาจะมีการโหวตร่างบันทึกผลประชุมเจบีซี ที่เราชุมนุมมาจะเป็นผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาด้วย จะเป็นการตอกย้ำพิสูจน์ให้เห็นว่าที่เราโจมตีว่าล้มเหลว นั้น รัฐบาลล้มเหลวจริงหรือไม่ เรามี ส -ส.ว. เพื่อให้เกิดการตรวจสอบคานอำนาจกัน ดังนั้น หากสภาไทยคานอำนาจได้จริง พรุ่งนี้ต้องแสดงให้ประชาชนเห็น ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชอบอ้างเป็นประชาธิปไตย พรุ่งนี้คุณต้องให้ข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านต่อสภาฯแล้วปล่อยฟรีโหวต ประเทศไทยถึงแม้จะมาจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ถึงเวลาต้องหาทางออกให้กับรัฐบาลที่ก้าวพลาดไป อันจะนำไปสู่การเสียดินแดนในที่สุด เมื่อไม่กล้ายกเลิกเอ็มโอยู43 ก็แก้ด้วยการโหวตล้มเจบีซี

นายพิภพ กล่าวว่า หากเราอ่านความคิดเขมร รวบรวมจากพฤติกรรมต่างๆตั้งแต่ระดับผู้นำจนถึงชาวบ้าน เขาคิดว่าพื้นที่ ที่เราเถียงกันอยู่นี้เป็นของเขมรมาแต่ดั้งเดิมโดยไทยรุกรานเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นกัมพูชา คงไม่มาตั้งตลาด ตั้งวัด ดังนั้น อย่าไปคิดว่ารับรองเจบีซี แล้วจะได้สานต่อเอ็มโอยู ทำให้ไทยเจรจาต่อรองให้เขมรออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรได้

“ที่ฮุนเซน ยอมรับเอ็มโอยู43 เพราะได้ยื่นเงื่อนไขต่อนายชวน หลีกภัย สมัยเป็นนายกฯว่าถ้าไม่มีแผนที่ 1:200000บรรจุอยู่ด้วยจะไม่ลงนามในเอ็มโอยู43 และแผนที่ 1:200000 นี้เองทำให้เขมรขีดเส้นกินพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรของไทย ถ้าลงนามเท่ากับรับรองให้ กัมพูชาไม่ต้องออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร”

นายพิภพ กล่าวต่อว่า เขมรต้องการพื้นที่ 4.6 ให้เป็นเขตบริหารจัดการแล้วเสร็จทันการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกก่อนเดือน มิ.ย. ดังนั้นเราต้องแก้เกมด้วยการไม่รับรองเจบีซี ทั้งนี้เมื่อยกเลิกเอ็มโอยู 43 ไปแล้วเรายังสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ถึงตอนนั้นก็บอกไปเลยไม่เอาแผนที่ 1:200000อย่างไรก็ดี ถ้าสภาลงมติไม่รับเจบีซี ก็ไม่ได้ทำให้ไทยเสียหาย สามารถนำไปเป็นข้ออ้างบอกประชาคมโลกได้ว่าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบได้รับความเห็นชอบจากสภาก่อน

“ เมือรัฐบาลปล่อยให้เขมรละเมิดเอ็มโอยู43 แล้วไม่มีปัญญาขับไล่ทหาร ชาวเขมรออกไป เกิดการปะทะกันก็ไม่ใช้โอกาสยึดพื้นที่คืน ถ้ายอมรับให้การเจรจาดำเนินต่อไป เท่ากับยกเลิกการปักปันที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ทางแก้ยังมี รัฐบาลไปตกลง ฮุนเซน ว่าร่วมกันเป็นผู้บริหารมรดกโลกก็ได้ เมื่อศาลโลกตัดสินให้ตัวปราสาทเป็นของคุณเราก็ยอมรับคำตัดสิน คุณก็บริหารเฉพาะตัวปราสาทไป วัดไม่เอาออกก็ได้แต่ต้องประกาศให้เป็นวัดไทย แต่ต้องยอมรับว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของไทย ห้ามมายุ่ง”

นายพิภพ กล่าวถึง ผบ.ทบ. พูดถูกที่บอกว่าต้องไม่ไปประชุมที่อินโดนีเซีย ซึ่งต้องประชุมที่ประเทศไทยหรือกัมพูชา และต้องเป็นการประชุมเฉพาะไทย-กัมพูชาเท่านั้น แต่พูดผิดตรงที่ไปยอมรับเจบีซี และทำตามนโยบายรัฐบาล เพราะเป็นที่รู้ดีว่า รัฐบาลทำพลาดมาตลอด บริเวณเขาวิหารเคยประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ อยู่ดีๆเขมรมายึดได้อย่างไร ถ้าคุณยอมรัฐบาลไดยไม่มีเหตุผล ต่อให้เลือกตั้งมีรัฐบาลประชาธิปัตย์กลับมาอีกก็แก้ปัญหาไม่ได้

สิ่งที่เราฟ้อง ป.ป.ช. โยงเรื่องต่างๆไปมาให้พัวพันทางกฏหมาย ไม่สูญเปล่า วันไหนมีรัฐบาลที่คำนึงถึงความถูกต้องมาบริหาร จะย้อนกลับไปเล่นงาน ส.ส.ที่ยกมือผ่านเจบีซีได้ เพราะอายุความอย่างน้อย 20 ปี ดังนั้น ส.ส. ต้องคิดใหม่ การแก้ปัญหาเขตแดนเขาวิหารอยู่ในมือคุณ ไม่ได้อยู่ที่นายกฯ คุณทำให้ไทยเพลี้ยงพล้ำ จะนำไปสู่การเสียดินแดนในที่สุด เสียดินแดนครั้งนี้เสียแล้วเสียเลย

นายพิภพ กล่าวทิ้งท้ายถึงชาวเขมร ว่า หากเชื่อดินแดน13 จ.ภาคอีสาน เคยเป็นของขอมต้องเป็นของคุณ มันมาขาดตอนตั้งแต่ช่วงรัชการที่ 5 ตามอนุสัญญา 1904 ยึดเขตแดนตามสันปันน้ำ ซึ่งที่จริงเขาวิหารต้องเป็นของไทยด้วย และศาลโลกก็ไม่ได้ตัดสินให้พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นของเขมร
กำลังโหลดความคิดเห็น