“เทือก” ปฏิเสธมีสัญญาณพิเศษล้มเลือกตั้ง ยังกำหนดเดิมที่ “อภิสิทธิ์” ประกาศไว้ เฉ่งพวกร้องหานายกฯ มาตรา 7 สร้างบาปให้ประชาชน พร้อมดักคอ กกต.เป็นผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบต่อประชาธิปไตยและประเทศชาติ เหน็บแก๊งเสื้อแดงบูชาฝรั่งดึงตรวจสอบเลือกตั้งข่มคนไทย บอกไม่เห็นจะดีกว่าตรงไหน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (24 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ที่ระบุว่าต่อให้ยื่นเรื่องร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภาก็ยังไม่เชื่อว่าจะมีการยุบสภา จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯลงมา มองท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันอย่างไรว่า คิดว่าไม่มีท่าทีอะไรที่น่าสงสัย ประธานสภาฯ ท่านก็พูดไปตามหลักการ คือถือว่าความแน่นอนอยู่ตรงที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว ซึ่งนั่นคือการพูดตามหลักการกฎหมาย
“สมมติว่าท่านนายกรัฐมนตรียื่นเรื่องกราบบังคมทูลขึ้นไปวันที่ 7 พ.ค. ก็ไม่ได้หมายความว่าวันที่ 7 พ.ค.เป็นวันยุบสภา อาจจะกลายเป็นวันที่ 8 หรือ 9 พ.ค. วันที่นำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาจึงจะถือเป็นวันที่ยุบสภาอย่างจริงจัง ยืนยันว่าไม่ได้มีสัญญาณพิเศษอะไรที่จะบ่งชี้ว่าอาจจะไม่มีการเลือกตั้งหรือการเลือกตั้งต้องทอดเวลาออกไปอีกอย่างไม่มีกำหนด ผมยืนยันว่าการเลือกตั้งไม่มีการทอดเวลาออกไปจากนั้น นายกรัฐมนตรียุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.แน่นอน และการเลือกตั้งก็นับไปจากนั้น 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วัน สุดแล้วแต่กกต.จะกำหนด”
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมไม่กำหนดวันที่ยุบสภาให้แน่นอนไปเลยเพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความั่นใจมากขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า กำหนดไว้อย่างนี้ดีแล้ว พอแล้ว แค่นี้ก็มั่นใจได้แล้ว เมื่อถามว่าที่ผ่านมารัฐบาลพยายามเอาเรื่องการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ มาเป็นเงื่อนไขอยู่ ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น นายสุเทพกล่าวว่า ถูกต้องแล้ว ในความคิดของรัฐบาลตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญที่เพิ่งแก้ไขไปได้เขียนไว้ชัดเจนว่า กกต.สามารถออกประกาศ กำหนดระเบียบ เพื่อใช้ในการเลือกตั้งได้ ไม่จำเป็นต้องรอกฎหมายลูก 3 ฉบับ แต่เมื่อกกต.บอกว่าต้องขอกฎหมายเหล่านี้ นายกฯ ก็ขอความร่วมมือจาก ส.ส.ทุกพรรคเมื่อวันที่ 23 มี.ค.สภาฯ ก็พิจารณากัน 3 ฉบับรวด และลงมติรับหลักการผ่านวาระแรกไปแล้ว ตั้งกรรมาธิการวิสามัญมาพิจารณาคาดว่าจะเสร็จใน 14-15 วัน ภายในสิ้นเดือน เม.ย.ก็ควรจะสำเร็จเรียบร้อย แต่ถ้าสมมติเกิดอะไรขึ้นที่กฎหมายไม่สำเร็จ นายกฯ ยุบสภาก็ยังเป็นอำนาจของ กกต.ที่จะออกประกาศต่างๆ ได้
ผู้สื่อข่าวแย้งว่า กกต.จะยอมจัดการเลือกตั้งให้หรือ ถ้าไม่เป็นไปตามเจตนารมรณ์ของเขา นายสุเทพกล่าวว่า ตนพูดสมมติไป แต่เชื่อว่าทุกอย่างราบรื่น กฎหมายลูกประกาศได้ทันและกกต.จะทำงานได้สะดวก เพราะเป็นเจตนารมณ์ร่วมกันของคนทั้งประเทศไปแล้วที่ต้องการเห็นการเลือก ตั้งเกิดขึ้นตามกำหนดที่นายกฯ ได้เสนอต่อสังคมเอาไว้
เมื่อถามว่า หากมีเงื่อนไขว่าไม่มีการปฏิวัติ แต่ทำไมคนจึงเริ่มพูดถึงเรื่องนายกฯ มาตรา 7 กันมาก นายสุเทพกล่าวว่า “ใครจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรไปก็ทำได้ในประเทศประชาธิปไตย แต่ ต้องอยู่ในกรอบ ถ้าคิดอะไรที่หลุดไปนอกกรอบและทำให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่ประชาชน คนนั้นทำบาปให้กับประชาชน ผมยืนยันว่าไม่มีเรื่องปฏิวัติรับประหาร ไม่มีเรื่องอย่างอื่น เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง แล้วเราจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่สำหรับประเทสไทย ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน”
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การแข่งขันระหว่างพรรคการเมือง แต่แข่งขันกับอำนาจนอกระบบ นายสุเทพกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็ดี กลุ่มคนเสื้อแดงก็ดีจะต้องดำเนินการต่อสู้ตามแนวทางประชาธิปไตยที่ถูกต้อง วันนี้ทั้งพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงต้องเสนอแนวนโยบายวิธีการที่จะแก้ ปัญหาชาติบ้านเมืองเพื่อให้ประชานได้ศรัทธาและเลื่อมใสและเลือกเขา ไม่ใช่ไปสร้างประเด็นใหม่ ซึ่งเป็นการแบ่งชนชั้น แบ่งวรรณะ แบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างที่ทำอยู่เดิม ไม่ใช่เรื่องที่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและประชาชน ถ้ายังพูดอยู่อย่างนี้อีก ก็ไม่เป็นการพูดในทำนองครองธรรมที่ถูกต้อง ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการเปิดสถานีโทรทัศน์อีสาน ที่ จ.อุดรธานี และมหาสารคาม ในวันที่ 1 เม.ย.นั้น เป็นหน้าที่ของกกต.ที่ต้องไปดู เพราเมื่อเข้าสู่วาะรของการเลือกตั้งแล้ว กกต.จะต้องทำงานเข้มงวดกวดขันขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ากว่าจะถึงวันเลือกตั้งเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจจะมีกกต.บางคนลาออกจากตำแหน่ง นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นไปได้ ไม่คิดว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นเพราะตนเชื่อว่า กกต.แต่ละท่านต้องมีความรับผิดชอบต่อระบอบประชาธิปไตย ต่อประชานและต่อประเทศไทย ถ้าท่านทำอย่างนั้นมันก็กลายเป็นปัญหาสำหรับประเทศ ทำให้การเลือกตั้งเดินหน้าไปไม่ราบรื่นเป็นปัญหาใหญ่ ตนมั่นใจว่าแต่ละท่านก็มีความรับผิดชอบ
ต่อข้อถามว่าแต่อาจจะมีใครบางคนไปบอกกับกกต.ก็ได้ว่าการลาออกก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อประเทศในอีกรูปแบบหนึ่ง นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ กกต.ท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านต้องตัดสินใจได้ถูกต้อง ตนเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่สื่อชอบชวนมองโลกในแง่ร้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงระบุวจะเชิญองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งในไทย จะช่วยกันตรวจสอบหรือจะขยายผลไปทางใดทางหนึ่ง นายสุเทพ กล่าวว่า “นปช.นี่ก็แปลก ไม่รู้จักเคารพในอธิปไตยของตัวเอง คนไทย องค์กรของประเทศไทยมีมากมาย จะเอาสื่อมวลชนหรืออาจารย์มหาวิทยาลัยหรือนักศึกษาอะไรก็ได้ ทำไมไปนับถือฝรั่งมังค่ากันขนาดนั้น ผมไม่ค่อยชอบใจเรื่องนี้ นปช.ชอบที่จะให้คนภายนอกมายุ่งกับเรื่องของเรา ผมเห็นว่าไม่บังควร ไม่สมควร”
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลไกการตรวจสอบความสุจริตในการเลือกตั้งของบ้านเราถือว่ามีประสิทธิภาพ มีคุณภาพเพียงพอที่จะควบคุมดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือ ไม่ นายสุเทพกล่าวว่า “ผมไม่นับถือฝรั่งก็แล้วกัน ผมไม่เห็นว่าฝรั่งจะดีกว่าคนไทย อย่าเอาฝรั่งมาข่มคนไทย ผมคิดว่าที่เรามี กกต.อยู่ก็ดีแล้ว ดูแลให้กกต.ทำงานได้เต็มที่ ถ้าต้องการเสริมมาช่วยเป็นหูเป็นตาให้กกต.หรือมาตรวจสอบ กกต.และนักการเมืองอีกชั้นหนึ่งก็ระดมความคิดจากคนไทยได้ ทั้งจากสื่อมวลชน คณาอาจารย์มหาวิทยาลัย ตัวแทนภาคเอกชน ภาคธุรกิจ นิสิตนักศึกษาก็สามารถทำได้ ไอ้ภูมิปัญญาชนิดที่ว่ามีอะไรก็วิ่งไปซูฮกฝรั่งนี่อย่าเอามาโฆษณาอีก”
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก่าแก่จะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งมีมาตรฐานที่ดีขึ้น ยกระดับนักการเมืองของไทยให้มีคุณภาพมากขึ้นนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เราพยายามจะทำ และในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานีที่ผ่านมา พรรคได้แสดงตัวอย่างให้เห็นแล้วถึงการหาเสียงตามระบบที่บริสุทธิ์ มีนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ คู่แข่งใส่เสื้อแดงเข้าไปในพื้นที่ ตนก็บอกว่าสนใจก็ไปฟังเขา ไม่มีปฏิกิริยาต่อต้าน การเลือกตั้งเรียบร้อยดี ตนยังยกย่องนายวรวุฒิว่าเขามีน้ำจิตน้ำใจไม่ทำอะไรที่ผิด ถ้าการเลือกตั้งทุกสนามทุกเขตเลือกตั้งทุกเขตคราวนี้ทำเหมือนที่ตนกับนายวรวุฒิสู้กัน บ้านเมืองก็เรียบร้อย เวลาปราศรัยก็เอาเรื่องจริงไปพูดกับประชาชน ให้ข้อมูลความรู้กับประชานดีที่สุด แต่โกหกมดเท็จใช้ไม่ได้ ประชาชนเขาจะรู้เอง
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งไม่ราบรื่นอย่างที่ท่านพูด เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งมีวิชามารมากมาย นายสุเทพกล่าวว่า ประชาชนต้องเป็นหลัก ต้องดูเลยว่าคนที่ทำผิดมิชอบทั้งหลาย ประชาชนต้องเห็นและเอามาประณามต่อต้าน สื่อมวลชนก็ต้องเป็นหลัก ต้องต่อต้านอย่าเป็นเครื่องมือ หลับหูหลับตาเชียร์อยู่ได้ทุกวันทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นคนเลว พรรคประชาธิปัตย์จะพยายามให้เป็นตัวอย่างว่าการเมืองที่ดีควรจะเป็นอย่างไร ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ตนจะให้สมาชิกพรรคสู้ตามเกณฑ์กติกาที่ถูกต้องตามกฎหมาย