xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เมิน พธม.ค้านรับร่าง JBC เชื่อไม่ใช่จุดเปลี่ยน ฝันจัดลต.ใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“อภิสิทธิ์” ไม่วิตกพันธมิตรฯ ยกระดับชุมนุมค้านรัฐสภาลงมติรับร่างเจบีซีทั้ง 3 ฉบับศุกร์นี้ อ้างมีกลไกเพื่อให้การเจรจาไทย-กัมพูชาเดินหน้าต่อ ไม่เชื่อเป็นเงื่อนไขการเมืองหักเห อ้อนขอเวลานำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ เชื่อ กกต.ไม่ไขก๊อกย้อนศรขอนายกฯ มาตรา 7 ดักคอปฏิวัติอ้างเงื่อนไขเวลานี้ต่างจากกันยาฯ 49

วันนี้ (23 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)เป็นประธานการประชุม เปิดเผยหลังการประชุมว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติขยายการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง การประชุม กอ.รมน.ได้มีการยืนยันตามโครงสร้างเดิม โดย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ยังเป็น ผอ.ศอ.รส. และแนวทางปฏิบัติคงเดิมทุกอย่าง ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศระดมมวลชนเลื่อนการชุมนุมในวันอังคารที่ 29 มี.ค.เพื่อคัดค้านการพิจารณาร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา (เจบีซี) 3 ฉบับของสภาผู้แทนราษฎร มาเป็นวันศุกร์ที่ 25 มี.ค.นั้นเป็นความพยายามในการคัดค้านเป็นสิทธิที่จะแสดงความเห็นได้ แต่ก็อยากย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เรื่องที่จะมีการพิจารณาเป็นเพียงการที่จะทำให้กลไกเดินต่อได้ และข้อสังเกตต่างเข้าใจว่ากรรมาธิการได้มีการเสนอมาด้วย และเท่าที่ดูรัฐบาลพร้อมปฏิบัติอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลนี้ก็มีจุดยืนชัดเจนในเรื่องปัญหาต่างๆ ที่เป็นข้อกังวลของพันธมิตรฯ อยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องหาพื้นที่สำรองหรือไม่ หากพันธมิตรฯ ปิดล้อมรัฐสภา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะทำให้การประชุมสภาเดินไปได้ด้วยความเรียบร้อย เมื่อถามต่อว่าโดยหนทางแล้วกลุ่มพันธมิตรฯ อาจใช้เงื่อนไขตรงนี้สร้างชนวนให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลพยายามที่จะให้ทุกอย่างมันเดินไปได้ด้วยดีว่าวันนี้ยืนยันกันแล้ว เรากำลังเดินไปสู่การเลือกตั้ง และจะเห็นว่าวันนี้สภากำลังเร่งพิจารณาในเรื่องกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยเฉพาะเรื่องนโยบาย เวทีการเลือกตั้ง ประชาธิปไตยเป็นเวทีที่รองรับอยู่แล้ว สามารถที่จะเดินตรงนั้นไปได้หมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่พรรคเพื่อแผ่นดินออกมาระบุว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจต้องลาออกทั้งคณะ หากถูกบังคับให้ออกระเบียบเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้เกิดสุญญากาศแล้วทำให้เกิดนายกฯ มาตรา 7 นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่มี วันนี้ กกต.ก็มาเสนอกฎหมาย และวันที่ตนเดินทางไปพบ ก็มีการซักซ้อมปัญหาอุปสรรค ซึ่งเป็นเรื่องของกฎหมายและระเบียบ ขณะนี้ก็ดำเนินการอยู่ คิดว่าเมื่อสภาผู้แทนราษฎรรับหลักการที่เสนอมา กกต.จะมีความสบายใจขึ้น สมมติถ้ากฎหมายไม่ทันจริงๆ อย่างน้อยระเบียบที่ออกไป อย่างน้อยก็เป็นระเบียบสภาผู้แทนราษฎรได้เห็นทุกคนและก็ได้รับหลักการไปแล้ว ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้งก็อยู่ในกระบวนการดำเนินการได้พอดีในช่วงประมาณต้นเดือนพฤษภาคมถ้าหากเดินไปตามปกติ

เมื่อถามว่า หากต้องออกระเบียบจริงๆ จุดนั้นก็จะไม่มี กกต.ลาออก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังมองไม่เห็นและเชื่อว่า กกต.ต้องทำหน้าที่ของท่าน และที่ฟังเสียงดู กกต.ทุกคนก็ยืนยันในการทำหน้าที่ เมื่อถามต่อว่าระหว่างทางก่อนที่จะไปถึงการเลือกตั้ง จะมีเหตุอะไรทำให้สะดุดก่อนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกัน ตนคิดว่าการเลือกตั้งก็คือการคืนอำนาจให้พี่น้องประชาชน ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันเดินไปสู่จุดนั้น เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้

เมื่อถามว่า นายกฯ คิดว่ามีอะไรที่สะท้อนสภาวะผิดปกติหรือไม่ เพราะในขณะที่เราจะเดินสู่การเลือกตั้ง แต่กลับมีการพูดถึงวิธีนอกระบบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเพียงความคิดเห็นของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง ตนคิดว่าคนส่วนใหญ่ต้องการให้กระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการของรัฐธรรมนูญเดินไปข้างหน้า

“จริงๆ แล้วอยากจะบอกว่าหลายคนบอกว่าพอแล้วกับหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งเราเผชิญมาหลายปี ไม่ใช่เฉพาะ 2 ปีในรัฐบาลนี้ แต่อาจจะ 5-6 ปีด้วยซ้ำ น่าจะพยายามปรับสภาพบ้านเมือง กลับไปสู่สภาวะปกติ เพื่อเดินไปข้างหน้า ความคิดที่บอกว่าทำอะไรนอกกติกา มันเป็นการเชื้อเชิญทำให้เกิดความวุ่นวายตามมาทั้งสิ้น” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ส่วนที่มีความพยายามเปรียบเทียบสถานการณ์ขณะนี้กับก่อนการทำรัฐประหารเมื่อปี 2549 มองว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต่างกันค่อนข้างมาก เพราะเมื่อเดือนกันยายน 2549 สภาพบ้านเมืองที่มันผิดปกติ มาจากระบบรัฐสภาเป็นเวลาประมาณครึ่งปี ขณะนี้กระบวนการตามปกติ ตามรัฐธรรมนูญเดินได้ทุกประการ เพียงแต่ว่ามีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นที่หลากหลายอยู่ และมีการเคลื่อนไหวนอกสภาอยู่บ้าง ทุกอย่างก็อยู่ในกรอบของกฎหมาย

เมื่อถามต่อว่า มีความพยายามนำเรื่องมาตรา 7 ย้อนศรนายกฯที่ก่อนหน้าที่นายกฯเป็นฝ่ายค้านเคยเสนอเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เงื่อนไขมันไม่ได้เหมือนกัน ตอนนั้นมีเงื่อนไข ซึ่งมีการเลือกตั้ง โดยที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย และข้อเรียกร้องตอนนั้นของเขาเอง หรือกรณีที่ตนบอกว่าถ้าจะลาออกทั้งคณะรัฐมนตรีก็เพื่อที่จะมาจัดการเลือกตั้ง ขณะนี้กลไกการจัดการเลือกตั้งไม่ได้เป็นปัญหา ทุกพรรคการเมืองเข้ามาร่วม ตนก็เห็นพรรคการเมืองใหม่สรรหาผู้สมัครอยู่เลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างว่านักการเมืองเวลานี้ไว้ใจไม่ได้ควรมอบอำนาจให้กับคณะบุคคลที่ไว้ใจได้ นายอภิสิทธิ์ย้อนถามว่า แล้วใครจะเป็นคนบอกว่าไว้ใจใครได้ เป็นสิทธิของประชาชนว่าจะไว้วางใจใคร คงจะมีคนไปคิดแทนประชาชนไม่ได้ ว่าต้องไว้ใจคนนั้นคนนี้คงไม่ได้ เมื่อถามว่าหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเกิดภาวะพรรคเล็กเป็นคนกำหนดนายกรัฐมนตรี แทนพรรคใหญ่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราอย่าไปคิดล่วงหน้าแทนประชาชน ประชาชนเป็นคนลงคะแนน เอาคะแนนมาดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน

เมื่อถามว่า เพราะตอนนี้เกิดสภาพมีการตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแปรอย่างพรรคประชาสันติ เพื่อเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ ใครจะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องไปตอบคำถามประชาชนในช่วงการเลือกตั้งอยู่แล้ว เมื่อถามว่าคิดว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคใหญ่จะหมดหมดโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกติกา
กำลังโหลดความคิดเห็น