เทพไท เย้ย “เป็ดเหลิม” ไม่มีที่ไป เลยได้แค่ลาออกจาก ส.ส.เพื่อต่อรองนายใหญ่ ระบุ “หม่อมอุ๋ย” เชียร์เพื่อแม้วตั้งรัฐบาล หวังผลประโยชน์ปูทางสู่การเมือง เชื่อ พรรคของ “ปุระชัย” เป็นเครือข่าย “นช.แม้ว”
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลาออกจาก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่า การลาออกเช่นนี้แสดงให้เห็นความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย ยังคงมีอยู่ และไม่มีข้อยุติ ซึ่งการกระทำของ ร.ต.อ.เฉลิม เหมือนเป็นการเรียกร้องความสนใจจากนายใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม ก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมาโดยตลอด ทั้งนี้ หาก ร.ต.อ.เฉลิม ต้องการลาออกโดยไม่มีข้อต่อรองจริงๆ ร.ต.อ.เฉลิม ก็คงลาออกจากสมาชิกของพรรคเพื่อไทยไปแล้ว แต่เนื่องจากว่า ร.ต.อ.เฉลิม กลัวว่าหากออกจากพรรคเพื่อไทยไปก็จะไม่มีที่ไป เพราะแนวทางการตั้งพรรคการเมืองใหม่ก็จบไปแล้ว เพราะฉะนั้น ร.ต.อ.เฉลิม คงไม่ต้องการฆ่าตัวตายประชดป่าช้า
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนการตั้งบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ มีแต่การผัดผ่อนมาเรื่อยๆ ก็เนื่องจากว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ได้เคาะรายชื่อว่าจะเป็นใคร ซึ่งทำให้พรรคเพื่อไทยเกิดกระแสตลอดเวลา และที่สำคัญที่สุด ก็คือ การก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค ซึ่งจากกรณีเช่นนี้ ทำให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.คลัง เริ่มออกมาแสดงบทบาทในการเสนอสูตรการเมือง ว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จะทำให้ประเทศชาติก้าวหน้าไปได้ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ เป็นไปเพื่อหวังผลประโยชน์และปูทางเข้าสู่เส้นทางการเมือง
“การตั้งพรรคการเมืองของ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ก็ถือว่าเป็นเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งก็คงต้องกลับไปถามคนกลุ่มนี้ ว่า การตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา มีความสอดคล้องหรือเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่
นายเทพไท ยังกล่าวถึงแนวทางที่พรรคเพื่อไทยจะนำมาหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ระบุว่าจะมีการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านให้ได้นั้น ตนก็อยากจะถามไปยังพรรคเพื่อไทย ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับบ้านโดยไม่มีคดีติดตัวใช่หรือไม่
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการลาออกจาก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ของ ร.ต.อ.เฉลิม ว่า ตนรู้สึกเสียดายที่คนที่ยึดถือแนวทางของสภามาตลอดกลับไม่ได้ทำหน้าที่ต่อ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เคยที่จะใส่เสื้อสีต่างๆ ขึ้นเวทีของใครทั้งนั้น
นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ได้ การพูดเช่นนี้ของนายสมชาย ทำให้เสียบรรทัดฐานทางการเมือง เพราะคนที่จะสามารถเข้ามาเป็นผู้นำของประเทศก็จะต้องมีการผ่านการตรวจสอบและการยอมรับจากสมาชิกของพรรคการเมืองที่ตนเองสังกัดอยู่ เพราะฉะนั้นตนของให้พรรคเพื่อไทยทบทวนแนวทางตรงนี้ด้วย