เลขา ปชป.ยืดอกโวลูกพรรคยุบสภาก่อน 10 พ.ค.มั่นใจไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง ตราบใดที่ยังเป็นรองนายกฯ กำชับ ส.ส.เข้าร่วมประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติผ่านร่าง กม.ลูกทั้ง 3 ฉบับ และกรอบบันทึกเจบีซี เตรียมแผนชงเข้าสู่ที่ประชุมร่วมสองสภาศุกร์นี้
วันนี้ (22 มี.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ได้มี ส.ส.สอบถามเรื่องการยุบสภาว่าจะยุบจริงหรือไม่ รวมทั้งข่าวลือที่อาจจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้ชี้แจงยืนยันว่า ยุบสภาก่อนวันที่ 10 พ.ค.อย่างแน่นอน แต่จะเป็นวันไหนก็อยู่ที่นายกฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจ รวมทั้งยืนยันว่า ตราบใดที่ยังเป็นรองนายกฯ ดูแลอยู่จะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองแน่นอน นอกจากนี้ ขอให้ ส.ส.เร่งลงพื้นที่หาเสียง เตรียมตัวเลือกตั้ง และขอให้ ส.ส.อย่าเชื่อหมอดู หรือโพลต่างๆ เพราะสิ่งสำคัญ คือ การทำงานหนัก โดยเน้นย้ำให้ไปอบรมเครือข่ายแกนนำพรรค 3,000 คน ต่อ ส.ส.1 คน ทั้งนี้ หาก ส.ส.คนไหนคิดว่าไม่พร้อมในการลงพื้นที่ สู้คู่แข่งไม่ได้ ก็ขอให้บอกเพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น อาจจะขยับขยายให้ไปลงบัญชีรายชื่อ เพราะ ส.ส.เขต จะต้องกลับมาเป็น ส.ส.อีกให้ได้
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้ขอความร่วมมือ ส.ส.ให้ไปเข้าร่วมประชุมสภาอย่างพร้อมเพรียง เนื่องจากว่าหลังเสร็จสิ้นระเบียบวาระ จะขอเลื่อนวาระเร่งด่วนต่อที่ประชุมนำกฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับเข้าสู่การพิจารณาคือ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาของ ส.ว.ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าสู่การพิจารณาของสภา เพื่อแสดงความจริงใจในการเร่งผลักดันกฎหมาย โดยคาดว่า กมธ.จะใช้เวลาในการพิจารณา 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่สภา ในวาระ 2-3 ได้เลย ส่วนที่มีข้อสงสัยว่าหากกฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับไม่สามารถพิจารณาให้เสร็จสิ้นได้ จะเป็นอุปสรรคต่อการยุบสภาหรือไม่นั้น นายสุเทพ ก็ได้ยืนยันว่า จะไม่มีผลอะไร เพราะสุดท้ายถ้าเสร็จไม่ทันกกต.ก็ได้รับอำนาจจากรัฐธรรมนูญในการออกระเบียบเฉพาะหน้าได้
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีการแจ้งกับ ส.ส.ว่า ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยมีระเบียบวาระการพิจารณาบันทึกผลการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) โดย นายเจริญ คันธวงศ์ ในฐานะประธาน กมธ.ได้สรุปให้ที่ประชุมฟังว่ากมธ.ได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้วกว่า 120 วัน ซึ่งคาดว่า ส.ส.น่าจะเห็นชอบผ่านร่างเจบีซี แต่ก็มีข้อสังเกตบางส่วนที่ละเอียดอ่อน
