วอร์รูม ปชป.ประเมินผลงาน พท.ในการอภิปราย 4 วัน ไร้สาระ ใช้เวลาฟุ่มเฟือย หลังแค่โชว์ตัว หน้า เสียง แนะหากเป็นฝ่ายค้านอีกให้เตรียมตัวดีกว่านี้ แล้ว ปชช.จะได้ประโยชน์ ชำแหละเรียงตัว “มิ่งขวัญ” เน้น ปชส.ตัวเอง “จตุพร” หวังใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.สัดส่วนอีกสมัย “เฉลิม” ลบล้างความผิดหวัง
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายธนา ชีรวนิจ ส.ส.กรุงเทพฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ตรวจสอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่ผ่านมา 4 วันนั้น ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นการอภิปรายเพื่อเตรียมตัวก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเท่านั้น เนื่องจากว่าฝ่ายค้านไม่มีประเด็น ข้อมูล รวมไปถึงความเชื่อมโยงต่อตัวของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเลย แต่ก็เป็นแค่การโชว์ตัวของ ส.ส.เพื่อไทย ก่อนการเลือกตั้ง จะเห็นได้ว่า ฝ่ายค้านใช้เวลาในการอภิปรายฟุ่มเฟือย โดยที่ไม่มีประเด็นในการอภิปรายเลย และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากการรับฟังการอภิปราย
ด้าน นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนขอฝากไปยังพรรคเพื่อไทย ว่า หากครั้งหน้าได้รับโอกาสเป็นฝ่ายค้านอีกครั้งหนึ่ง ตนก็ขอให้ฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลและประเด็นมาอภิปรายให้ดีกว่านี้ เนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจน่าจะมีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่ารัฐมนตรีคนนี้ มีความผิดทางกฎหมายอย่างไร บริหารราชการล้มเหลวตรงไหนบ้าง การทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นตรงจุดใด และมีการประพฤติตนไม่เหมาะสมต่อตำแหน่งอย่างไร
นายแพทย์ วรงค์ กล่าวต่อว่า ทางศูนย์ได้ประเมินว่า การอภิปรายครั้งนี้มีบุคคลที่สำคัญๆ อยู่เพียง 3 คน คือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำในการอภิปราย ทางศูนย์มองว่า นายมิ่งขวัญ ใช้การอภิปรายครั้งนี้ เพื่อเอาไว้โฆษณาให้กับตนเองว่าครั้งหนึ่งตนก็เคยถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น คนต่อมาคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย การอภิปรายของ นายจตุพร เป็นแค่เครื่องมือที่จะทำให้ตนเองมีรายชื่อในระบบสัดส่วนของพรรค และคนสุดท้าย คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย ก็อภิปรายเพื่อที่จะล้มล้างความผิดหวัง ที่เกิดขึ้นจากการที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้นำในการอภิปรายของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
ด้าน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การอภิปรายของ นายจตุพร นั้น ตนเห็นว่า เนื้อหาที่ถูกนำมาพูด เป็นคนพูดที่โกหก เป็นความเท็จ เพื่อก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมเท่านั้น จนทำให้ประชาชนเป็นกังวลใจต่อการอภิปรายของนายจตุพร จะเห็นได้จากการแสดงความคิดเห็นบนสังคมออนไลน์ในช่วงเวลาที่นายจตุพรทำการอภิปราย เพราะฉะนั้น ฉายาที่ นายวัชระ เพชรทอง ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งให้นายจตุพร ว่า ไพร่ร้อยกิโล นั้นถือว่าเหมาะสมแล้ว
ด้าน นายแพทย์ บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนคาดหวังว่าจะได้รับฟังจากการอภิปรายในครั้งนี้ คือ ปัญหาราคาข้าวของที่แพงขึ้น แต่พรรคเพื่อไทยกลับใช้เวลาหมดไปกับข้อมูลที่พยายามทำให้เกิดความแตกแยกของประชาชน โดยเฉพาะผู้อภิปรายอย่าง นายจตุพร และ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 หวังเพียงแค่ใช้เวทีสภา เพื่อซักฟอกความผิดให้กับทางกลุ่มพวกพ้องของตัวเองเท่านั้น และสิ่งที่ตนไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นในการอภิปราย ก็คือ การนำภาพผู้ที่เสียชีวิต มาบิดเบือนความจริง เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง ซึ่งกรณีนี้ตนก็ฝากขออภัยไปยังประชาชนที่ต้องดูภาพเหล่านี้ด้วย